วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

ฝนตกแล้ว

สองสามวันมานี้ เชียงรายฝนตกพรำๆ
วันนี้ยิ่งตกตอนกลางวันด้วย
อากาศยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลย

เมื่อคืนกะว่าจะออกไปใส่บาตรเป็งพุดนะ
แต่ตอนหัวค่ำฝนตกหนักลมแรง
ก็เลยรีบนอนเร็วกะว่าจะตื่นให้ทัน
ที่ไหนได้หลับลืมตื่น มารู้ตัวอีกที  จะหกโมงแล้ว
สรุป นอนเพลินไปหน่อย  เลยไม่ได้ไปใส่บาตร
อดไปทำบุญเลย
แต่ดีนะ ตอนบ่ายเมื่อวานไปร่วมพิธีอุ้มพระขึ้นจากน้ำมา
ได้รับพรรับน้ำมนต์จะพระมาเรียบร้อย  หุหุ 
รู้สึกดีแบบแปลกๆ   พิธียังไม่ทันเสร็จเลย
แอบหนีกับบ้านก่อน คิคิ
คนอื่นๆ  ก็ยังไปกันเลย เรากะพี่แอ้ว พี่ฟียาแอบหนีออกมาก่อน
ไปทำงานเช้านี้ ผอ.ถามหา  ว่าเราทำไมไม่ไปร่วมขบวน
ไม่มีคำตอบ ได้แต่ยิ้มอย่างเดียว  เหอะๆๆๆ

วันนี้งานตรึมเลย ปั่นงานซะเกือบห้าโมง
เงยหน้าจากคอมอีกที คนในห้องหายกันหมดละ
เหลือแต่เรากะพี่แย้มสองคน โอ๊ะ  ไม่ไหวๆ  เก็บของกับดีฝ่า กัวผีหลอก
พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ

ตอนเที่ยงมีนัดกินข้าวกะพี่ๆ 
อ้ายนูพาไปเลี้ยงฮอทพอท มีพี่ขวัญพี่ผึ้งพี่ไก่ แล้วก็เรา
กินกันไปนินทาคนนั้นคนนี้ไป  หุหุ  หนุกหนาน
ไม่ช่ายไปตอนเที่ยงซิ  ออกไปตั้งแต่ 11.30 น.ละ 
กับสนง.  อีกที  บ่ายครึ่ง  ไม่รู้กินกันเข้าไปได้ไง
กินกันตั้งสองชั่วโมง คนที่กินแยะสุด ก็เจ้ามือนั่นแหละ
กินไม่หยุดเลย แถมยังยัดเยียดให้น้องๆ  กินแยะๆ  ด้วย
บอกว่าจะได้ตุ้ยเหมือนพี่  โอย  ไม่ไหวละเนี่ย 
สายธารท้องจะแตกละ  พี่ไก่ดิ  พุงปริ้นเลย  คิคิ

พักนี้ใจไม่ค่อยดีเลย
กัวผลสอบออกมาไม่น่าพอใจ
แต่ก็พยายามทำใจไว้บ้างนะ
ก็สอบมาหลายทีละ ไม่ติดสักที เฮ้อออ 

ยินดีกะเพื่อนพ้องน้องพี่ด้วยนะ
ยินดีกะเก่ง  เก่งสมชื่อ  ติดสุราษอันดับ 12
ยินดีกะทักซิโด้  ยินดีกะนุ้ย ยินดีกะแจ๋ว
แม้จะได้ลำดับไม่น่าพอใจนัก
แต่ก็ยินดีด้วยจ้าที่สอบติด 

ฝันดีนะจ๊ะบาย

วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

กับมาแว้ววววววว

การเดินทางที่สุดแสนจะทรมานแล้วก็ทรหด
มีหลากหลายรสชาติในคนๆ เดียว
นั่งรถซะจนเบื่อ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด

บัดนาวยังปวดคอไม่ตาย
ยังไม่หายเพลีย

การสอบตำรวจครั้งนี้
สุดแสนจะตื่นเต้น
มีเรื่องให้ชวนปวดหัวอยู่ตลอด
ผู้คนมากมายดาหน้ากันเข้ามาสอบ
ไม่รู้ว่าจะมีใครบ้างนะ
ที่จะได้ก้าวเข้าไปอยู่ในสตช.
ไม่รู้ว่าเราจะเป็นหนึ่งในนั้นป่าว เอ้อออ

วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553

อยู่ระหว่างการเดินทาง

ช่วงนี้อยู่ระหว่างการเดินทาง
อาจจะมีการขาดหายไปบ้าง
ไว้กับมาวันจันทร์จะมารายงานตัวอีกรอบ
ฝันดีผีหลอก
ร้อนเนาะ....

วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

ยุ่ง

อาทิตย์นี้ต้องเคลียร์งานให้เสร็จ
เพราะเยอะมาก
หัวฟูเลย
อยากเอามาทำที่บ้านด้วย แต่ติดตรงที่ขี้ค้านนี่แหละ
อะไรๆก็ดีนะ  ขยันมาก ทำงานเร็ว
ติดอย่างเดียวก็ตรงขี้ค้านนี่แหละ
ห้ามไม่ได้สักที
เหอะๆๆ  สรุปคือ เราขี้ค้านนั่นเอง
เดียวพรุ่งนี้ก็เสร็จแล้ว 
เหลือไม่มากละ
ไม่ถึงห้าสิบราย นั่งเขียนแป๊บๆ  ก้เสร็จ 

ไม่รู้งานไรต่อไรนะ  วุ่นวายไปหมด
อยากมีสักสืบมือ คงจะดี

ปวดแขนเมื่อยแขนไปหม้ดเลย

ปวดท้องอีกแย้ววว  ไปนอนดีฝ่่า

ปล. น้ำหนักขึ้นสองโล  ทำไงดีน้อ  จากลายเป็นหมูอยู่แล้ว
ปล. สรุปยังหาคำตอบไม่ได้ว่า  "เห็นช้างเท่าหมู" หมายความว่าไง

วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553

เฮ้ออออ

หยุดมาก็หลายวันละ
พรุ่งนี้ต้องทำงานอีกแล้วเหรอ
ขี้เกียจจริงๆ   เล้ย
งานค้างเป็นกะตักเลย
ใครก็ได้ ช่วยที
ไม่รู้ทำทั้งอาทิตย์จะเสร็จป่าวเนี่ย
ส่ง จม.แจ้งเตือนผู้ประกอบการที่ค้างจ่ายค่าธรรมเนียม
ช่างไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเองซะบ้างเลย
เป็นพลเมืองที่ดี ก็ต้องเสียภาษีซินะ
นี่อะไร ต้องให้ทวงอยู่เรื่อยเลย
ไม่ไหวๆ ๆ 

วันนี้อีกวันที่ไม่ได้อยู่บ้าน
เพิ่งเข้ามาสักพักเนี่ยแหละ
ไปงานศพอุ้ยมา
คนแยะจริงๆ  อากาศก็ร้อนสุดๆ 
อุ้ยไปสบายละ
แต่คนข้างหลังอย่างเราซิ
ต้องสู้ต่อไป
เอาใจช่วยเข็มด้วยละกันนะคะ

หมดหวังเลยเรา

กลับมาจากสอบเรียบร้อยแล้ว
ออกห้องสอบมารู้ตัวเองเลย
ว่าคงไม่ติดอีกตามเคย
อันดับแรก ทำข้อสอบไม่ทัน
กามั่วไปยี่สอบข้อ
ที่เหลือแปดสิบข้อ คงไม่ผ่านแน่ๆ
ถ้าเราไม่ผ่านภาคเช้านะ
ภาคบ่ายก็ไม่ต้องถามหา
เค้าจะไม่ตรวจให้เลย
ก็คงติดหลังบอร์ดอีกแระ คิคิ
สอบคราวนี้รู้ตัวเองเลยว่ากินแห้วอีกแร้วเรา
ก็มันทำไม่ทันจิงๆ ๆ  อ่านะ

ทำไง้ ทำไง ก็ทำไม่ทัน
พอกรรมการบอกว่า เหลือเวลาอีกห้านาทีจะหมดเวลาในการสอบ
พระเจ้า สายธารเหลืออีกยี่สิบข้อ
อ่านไม่ทัน คิดก็ไม่ทันแล้ว
ฝนมันมั่ว ๆ เลย
ขนาดแค่ฝนนะ ยังแทบจะไม่ทันละ
กรรมการบ้าไรก็ไม่รู้
ไม่ยอมให้ใส่นาฬิกาเข้าไป
ไอ้เราก็เลยกะเวลาไม่ถูกเลยเนี่ย
มาบอกอีกทีก็จบเห่เลย
เซ็งกรรมการมากๆ 

ปล. เซ็งเลยเนี่ย

วันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2553

songkran festival 2

สงกรานต์ปีนี้ก็เหมือนๆ กับทุกปี
14 เมษา ไปขนทรายเข้าวัด 9 วั ด หนุกดี
เอาน้ำใส่หลังรถแล้วก็ขับรถเล่นในเมือง
ขนทรายไปถวายวัดด้วย หนุกหนานไปตามๆ กัน
15 เมษา ก็ตื่นตั้งแต่ตีห้าละ
ไปวัดทำบุญกัน ต่อด้วยไปไหว้พ่อขุน
 แล้วก็ไปรดน้ำดำหัวพ่อกะแม่
เสร็จก็ไปปู่กะย่ากันต่อ

เจอสมาคมญาติพี่น้อง
นาน ๆ เจอกันที แย่งกันคุยไม่หยุด
แต่ปีนี้มากันไม่ครบ
บ้างก็อยู่ต่างจังหวัด
บ้างก็เปลี่ยนไปบ้านนั้นบ้านนี้
เลยดูบางตา แต่ก็ยังหนุกเหมือนเดิม

นี่เลยน้องเรา ไม่ได้เจอกันมาสองปีเห็นจะได้
ไอ้กุ้งเต้น ไอ้เสื้อเหลือง

ส่วนคนใส่หมวก
น้องเมย์ แฟนเจ้าเก่ง น้องของเจ้ากุ้งมัน
เจ้าเมย์กินน้ำขาวเก่งมาก
หมดไปหลายขวดเลย
แต่ไม่ยักกะเมาแฮะ คอแข็งจิงๆ ๆ
เหอะๆ 
กุ้งเริ่มเมาละ
แต่หน้าตายังไม่ส่อเค้าว่าเมา
แต่อาการเดินขาไขว้กัน เริ่มมาแว้วว



เจ้าตัวเล็กเนี่ย
น้องใบหม่อน
ลูกเพื่อนกุ้ง
น่ารักน่าชังมากมาย


ปล.  ยังไม่ได้เก็บเป๋าเลย
        บ่ายสองขึ้นรถไปเที่ยวอุตรดิษฐ์กันต่อ
        เหอะ ๆ  ไม่ได้เที่ยวสักหน่อย
        สอบต่างหาก   ไม่รู้คนคุมสอบเค้าคิดไงนะ
        สอบเอาตรงช่วงสงกรานต์เนี่ย
      

วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553

ทำได้เพียง


ฟังเพลง ทำได้เพียง
Powered by you2play.com

songkran festival

เทศกาลสงกรานต์มาอีกแล้ว
ปีนี้ก็เหมือนๆกับทุกปี
วันที่ 13  ทีไร แม่ต้องเรียกให้ตื่นแต่เช้า
ความจริงตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงชาวบ้านข้างเคียง
เค้ายิงปืนกะจุดประทัดแล้วก็คงประมาณ ตีสามตีสี่เห็นจะได้
คนเหนือเค้าบอกว่าเป็นวันจะข๋านล่อง
ผู้ชายจะตื่นมายิงปืนกัน
ก็ยังไม่รู้ความหมายนะ ว่าเค้ายิงไปทำไม
จะถามตาก็แก่มากละ  ไม่อยากให้คุยมาก  เดี๋ยวหอบจะกำเริบ
สรุปก็คือ ต้องยิงแค่นั้น  เหอะๆๆ 

ตื่นมาก็รื้อทำความสะอาดผ้าม่านกันใหญ่
ทำกันทั้งบ้าน  เหนื่อยโคตรๆ
ซักผ้าซะจนมือเปื่อย 
เหงื่องี้ไหลย้อยเป็นทาง ผมเผ้างี้เปียกโชกไปหมด
สภาพตัวเองงี้รับไม่ค่อยได้  เหนื่อยมาก ๆ
กว่าจะทำงานบ้านเสร็จก็ปาเข้าไป สิบเอ็ดโมงละ
แม่ให้ไปส่งซื้อของที่ตลาดอีก 
ร้อนก็ร้อน ของก็แยะ หิ้วซะมือแทบจะหลุดออกจากบ่า
วันนี้เป็นวันไรเนี่ย  ทำไมถึงได้เหนื่อยอย่างนี้
เข้าบ้านเที่ยงครึ่ง  เอาของเก็บเสร็จ
นั่งเอนตัวลงโซฟา แล้วก็นอนไปตอนไหนก็ไม่รู้
คงจะเหนื่อยน่าดู สงสารสังขารตัวเองจริงๆ

บ่ายๆ  เจ้าขวัญชวนไปเล่นน้ำ
เอาถังน้ำใส่หลังรถ เปิดน้ำใส่ เอาน้ำแข็งใส่
ขับรถไปในเมือง สาดใส่ชาวบ้านไปเรื่อยๆ 
หนุกหนานตามประสา ผ่อนคลายความเครียด
แต่ขอบอกว่าหนาวสั่นไปทั้งตัว มือซีดหน้าซีด
คงดำอีกตามเคยเรา

ปล. สงกรานต์ปีนี้ ก็หนุกดี ได้เล่นน้ำ
ปล. พรุ่งนี้จะไปขนทรายเข้าวัด
ปล. ปวดท้องอีกแล้ว ครานี้เป็นหลายวันเลยเนี่ย
ปล.  วันเสาร์จาสอบแล้ว ยังอ่าน พรบ.ไม่เสร็จเลยน้อ

วันเสาร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2553

จาไม่ไหวแล้วเนี่ย

ทำไมอากาศเชียงรายมันถึงร้อนอย่างนี้
ร้อนตับจะแตกละ
รับไม่ได้
ขี้เกียจไปทำงานนะ
แต่อยู่บ้านก็มีแต่พัดลม
ก็พลอยคิดถึงแอร์ที่ทำงานไปนั่น
อยู่ที่ทำงานก็เบื่อคนอีก
เอ้อ  ไปทำงานวันจันทร์อีกวันก็ได้พักยาวเลย
ทีนี้ละ ได้อยู่สมใจเลย
สงกรานต์ปีนี้คงต้องอยู่บ้านอ่านหนังสือแหละ
แย่จัง  อ่านได้นิดเดียวเอง 

ร้อนมากมาย

วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2553

H.R.M Meeting

เจอเพื่อนเก่าๆ  สมัยราชภัฏ เหอะๆ ไม่ได้เจอกันซะนานเลย
เที่ยวกันทั้งวันเลย ถ่ายรูปซะเหนื่อย แย่งกันคุยไม่มีหยุด
ไม่รู้ใครพูดไรกันบ้าง ยังกะนกกระจอกเข้ารัง ฟังไม่รู้เรื่องเลย











ดูกันแค่พอหอมปากหอมคอก่อนนะ
ที่เหลือยังเอามาไม่หมด
ไม่รู้กล้องใครเป็นกล้องใคร  เหอะๆ แยะจริงๆ 

 

ท่องราตรี

คุยกะขวัญกะบีว่าจะไปเดินถนนคนเดินกัน
หาซื้อตุ๊กตาหัวหอมสักหน่อย
เพราะตัวที่มีมันเริ่มจะหายหอมละ
คนแยะเดินเบียดเสียดกันไปมา
ไม่ไหวๆ   ร้อนตับจะแตก
เลยไม่ได้หัวหอมเลย คงต้องรอเสาร์หน้าละกัน
ค่อยมาหาซื้อใหม่

ก็พากันไปแวะสะพานข้างบ้านไอ้บุ๋มมัน
ตอนนี้เริ่มสร้างเสร็จละ
เริ่มเปิดให้รถวิ่งผ่านได้แล้ว
มีคนหลายกลุ่มหลายคนแวะไปกินลมชมวิวกัน
อากาศก็ดีนะ  มีลมเย็นๆ พัดโชย
มีไฟสะพานสวยๆ ให้ดู





วันเหงาๆๆ

ช่วงนี้ไปไหนก็ต้องไปคนเดียว
อย่างที่ตรงนี้ก็ไปคนเดียว
ฉายเดี่ยว  
เพิ่งเคยไปครั้งแรกนะ
เคยเห็นในรูปที่แม่ถ่ายไว้ แต่ก็คงหลายปีละ
แม่ก็จำทางไม่ได้  รู้แต่ว่าอยู่แถวๆ  อำเภอพานนี่แหละ
นี่เลย  ขับรถไปมันซะเองเลย
ศาลพระเจ้าจี้กง   สวยมาก ๆ
อากาศดีสุดๆ 
เสียดายไม่มีคนถ่ายรูปให้
เลยได้แต่เก็บบรรยากาศรอบๆ  มาให้ดู
จะถ่ายรุปตัวเองก็ไม่ไหวนะ   เดียวออกมาไม่สวย หุหุ
รอบนี้เอาแค่วิวไปก่อนละกัน



ทางเข้าศาล  เข้าไปก็ไม่ลึกน ะประมาณ 7 โลเห็นจะได้
สองข้างทางมีแต่ทุ่งนา  สวยสุดๆ ไปเลย






สวยป่าว  แต่ไม่ได้เดินขึ้นไปข้างบนหรอก
เพราะค่ำแล้ว เค้าจะปิดประตูแล้ว
ไว้มาอีกรอบค่อยขึ้นไปดู



มีคนมาเที่ยวกันแยะเหมือนกัน 

วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553

อยากมีคนพาเที่ยว

ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการอ่านหนังสือ
รู้สึกเครียดๆ  นะ
ก็อยากทำใจอยู่หรอกว่าถ้าสอบไม่ได้
เราก็ยังมีงานทำ  คิคิ
ไม่ได้ตกงาน
แต่เอ... รู้สึกว่ามีแต่คนกดดันเรานะ

ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย
คุยกะแต๊กว่าจะแวะไปหาเชียงของ
ติดมันมาหลายเดือนละ ไม่ดิ  เป็นปีแล้วมั้ง
อยากไปหาอยู่ แต่แต๊กเข้าใจเพื่อนหน่อยนะ
อ่านหนังสือจาสอบอยู่  หุหุ
มันก็บอกว่าสอบมาเป็นปีละ ไม่เห็นติด
อ้าวไอ้แต๊กนี่ พูดไม่ให้กำลังใจกันเล้ยยยย
ก็ทำไงได้ คนมันหัวสมองเท่าปลาทอง
ความจำสั้น
สายตาก็ไม่ค่อยดี เหอะๆๆ
อ่านเท่าไหร่ก็จำไม่ค่อยได้
ทำใจละกันมีเพื่อนแบบนี้

อยากไปเที่ยวนะ แต่ไม่มีคนขับรถ
ขับเองก็ไม่เก่งน่อ
แต่ขอเวลาอีกนิด
เดียวสอบ ๆๆ  ไรให้เสร็จก่อน
จาเที่ยวให้หนำใจเลย
ไปมันไกลๆ  ได้ยิ่งดี

ภาพประทับใจ


ฟังเพลง ภาพประทับใจ
Powered by you2play.com





วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553

อย่าบ่น ++++

ออ...  ลืมไป ว่าพักนี้เราขี้บ่น
มีคนบอกอย่างนั้น
พักนี้เห็นไรก็เป็นขัดหูขัดตาไปหมด

เซ็ง  ไม่มีอารมณ์ทำไรเลย
เหนื่อยเหมือนกันนะ
ไปไหนมาไหนก็ต้องไปคนเดียว
ต้องหัดทำไรคนเดียว
แต่ความจริงก็เป็นแบบนี้มานานละ
ก็ยังไม่รู้จักชินสักที

ความจริงก็คือความจิงวันยังค่ำ

เขียนไรไปเนี่ย
ไม่เข้าใจ

ปล. นอนไม่หลับอีกตามเคย
ปล. อ่านหนังสือก็ไม่รู้เรื่อง
ปล. ตั้งใจอ่านหน่อย แม้ว่าจะถูกกดดันมากมาย
ปล. ก็พยายามทำอยู่นะ ถ้ามันไม่ได้จะให้ทำไงละ
ปล. ไม่ได้หายไปไหนเลย แต่คิดไรไม่ออก
ปล. เหงา
ปล. เครียด
ปล. ปวดหัวโดยไม่รู้สาเหตุ

ปล. วันอาทิตย์นี้นัดเพื่อนเลี้ยงรุ่นราชภัฏ  สงสัยมีเมาอีกตามเคย  คิคิ
ปล. คิดถึงเพื่อนๆ  ทุกคน คิดถึง +++++++

บรรยากาศดี้ดี

ไปหาพ่อที่สวน แต่เช้า
ก็เป็นอีกวันแระ  ที่ตื่นเช้า
ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ซะหน่อย
ดีเหมือนกันไม่ได้ไปสวนนานเลย

พอดีพ่อสั่งให้เอาของไปส่ง
เลยได้เห็นภาพสวยๆ 
ที่ไม่ค่อยได้เห็นนาน
บรรยากาศชาวบ้านๆ 


ชาวบ้านกำลังปลูกข้าวโพดกัน
บ้านสวน อากาศดีสุด ๆ
เช้าๆ  มา  มีหมอกลงหนาทึบ สวยมาก ๆ


เจ้าแก่น  วัวน้อยของพ่อที่เพิ่งคลอดได้สองเดือน
กำลังกินไรมะรู้


มันเห็นเราก็กัวใหญ่ วิ่งไปหาแม่ซะงั้น



เจ้าขาว กะเจ้าคำ ตัวใหญ่เบ้อเร่อเลย


นานๆ  ที่จาได้มาสวนเช้าๆ 
อากาศดีสุดๆ 
เดี๋ยวไว้มาใหม่
ตอนข้าวโพดออก 
กินข้าวโพดอ่อนสด ๆ อาหร่อยอย่าบอกใคร


ขาดๆ หายๆ

พักนี้งานยุ่ง
ไม่ค่อยมีเวลามาอัพเดทเท่าไหร่
เหนื่อยๆ เพลียๆ  เป็นไรก็ไม่รู้
เมื่อวานกินข้าวเที่ยงเสร็จ นั่งเฝ้าโต๊ะอยู่เวร
แล้วนอนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
ตื่นมาอีกที บ่ายครึ่ง
หน้างี้ซีด ไม่มีเลือดเลย
พี่ ๆๆ เค้าตกใจกันใหญ่ กัวเราจะเป็นลม
หายาดมมาให้ ดมซะวุ่นเลย
ก็ไม่มีไรมากหรอก
สงกะสัยจะนอนไม่พอ
ก็มันเป็นไรมะรู้นอนไม่ค่อยหลับเลย
เครียดๆ  เรื่องบ้าๆ  บอๆ 
ก็เป็นงี้  ไม่รู้จาทำไงแล้ ว
ก็เลยต้องปล่อยให้เป็นไปแบบนี้แหละ


ปล. ชีวิตว่างปล่าวซะจริงๆ