วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วงจรชีวิต

ช่วงนี้ก็เรื่อยๆ มีทั้งดีทั้งไม่ดี
ปะปนกันเข้ามาในชีวิต
ทำให้มีสีสันเหมือนกัน
มีทั้งหัวเราะ ทั้งร้องไห้ปนเปกันไป
วุ่นวายบ้างนิดหน่อย แต่ก็พอสู้กับปัญหาได้ คิคิ

^^

มีไรบ้างละ ทุกวันนี้
ทำงาน เล่นเน็ต เขียนบล๊อค ฟังเพลง
รู้สึกว่าไม่ค่อยได้ดุทีวีเลย
ไม่อยากจะรับรู้เรื่องราว
อยากใช้ชีวิตอย่างสงบ
ก็เลยถือคติว่า "พักผ่อนอย่างสุขี ปิดทีวีแล้วฟังเพลง"
แต่ก็ช่ายว่าจะได้พักผ่อนอย่างสุขีซะเมื่อไหร่
มีเรื่องไรให้คิดให้แก้อยุ่หลายเรื่อง ก็ดี
จะได้ไม่ต้องอยู่ว่างๆ ให้คิดเรื่อยเปื่อย


"ความรักที่จริงแท้ไม่ใช่เรื่องของการตามหาคนที่ใช่
แต่คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ถุกต้องดีงาม"

ยิ่งได้อ่านได้คิดกับคำพูดนี้ ก็ยิ่งเชื่อ
และหากความสัมพันธ์ไม่อาจไปได้ด้วยดี การเลือกที่จะจบย่อมเป็นทางออกหนึ่ง
แต่การอ้างถึง "คนที่ดีพร้อม" มันเป็นเรื่องน่าขัน
หากคนที่ใช่ หมายถึง คนที่ดีพร้อม ฉันยังสงสัยว่า ใครกันหนอบนโลกนี้ที่จะดีพร้อม
เราทุกคนต่างล้วนบกพร่องกันคนละอย่างสองอย่าง การวาดฝันถึงคนดีพร้อมเป็นเรื่องของความฝันโดยแท้

คนหล่ออาจไม่รวย
คนหล่อและรวยอาจเจ้าชู้
คนไม่เจ้าชู้อาจขี้หึง
คนไม่ขี้หึงอาจเฉยชา
คนไม่เฉยชาอาจอ่อนไหว
คนไม่อ่อนไหนอาจแข็งกระด้าง!!!!!

การมีใครสักคนที่ได้อย่างใจ คนดีพร้อมตามที่ฝัน บางทีอาจง่ายกว่ามาก หากเราจะไปส่องกระจกดู
แล้วรักคนในนั้นเสียดีกว่า
เพราะบนโลกนี้คงไม่มีใครเป็นอย่างใจเราไปกว่านี้อีกแล้ว

^__^

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สั้นๆ ก่อนนอน

วันนี้ง่วงและก็เพลียสุดๆ
ทั้งที่ก็ไม่ได้ทำไรมากนัก
แต่ก็เดินทั้งวันเหมือนกัน
เดินขึ้นลงชั้น 3 เนี่ย ห้ารอบเห็นจะได้
น่องโป่งหมดละ หาเอกสารไรก็ไม่เจอ

ขอนอนดีกว่า เผื่อจะได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
นอนไม่หลับมาหลายคืนละเนี่ย
ม่ายรู้ปัญหาโลกแตกไรนักหนา

เฮ้ออออ นอนนนนนนนนนนนนนน

ใจตนเอง!!!!!...

ความรักความชอบใจนั้น ก็มีความหมายแสดงชัดเจนอยู่ในตัวเอง
แล้ว ว่าเป็นเรื่องของใจโดยแท้ จึงให้ดูเข้ามาในใจตนเองเกี่ยวกับ
ความรู้สึกรักชอบในใจตนเองนี้แหละ ทุกคนหรือส่วนมากน่าจะมี
ความรู้สึกรักชอบในคนนั้นสิ่งนั้นอยู่มากมายหลายคนหลายอย่าง
ด้วยกัน ทั้งในปัจจุบันและในอดีต ให้เลือกจับขึ้นมาพิจารณาเพียง
หนึ่ง คือให้เลือกพิจารณาดูความรักชอบของตนเอง ในคนใดคน
หนึ่งหรือในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพียงคนเดียวหรือสิ่งเดียวเท่านั้น

นึกย้อนไปดูจิตใจตนเองในอดีต เริ่มแต่มีความรักชอบเกิดขึ้น
พยายามทบทวนความจำให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
จะนึกได้ว่าความรักเมื่อแรกเกิดจริงๆ กับความรักในเวลาต่อมา
หาได้เหมือนกันไม่ มีเปลี่ยนแปลงไปเป็นลำดับ เวลาหนึ่งอาจจะ
มากขึ้น เวลาต่อมาอาจจะลดน้อยลง ต่อมาอีกอาจจะกลับมาก
ขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมากอยู่ในระดับเดียวกับที่เคยมากมาแล้ว

สังเกตุดูจริงๆ จะต้องเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน เปลี่ยน
เป็นมากหรือน้อยก็ตาม ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอจริงๆ จะ
ฝืนใจตนเองอย่างไรที่จะไม่ให้ความรู้สึกในใจเปลี่ยนแปลงไป ให้
อยู่ในสภาพเดียวกันตลอดเวลานั้นเป็นไปไม่ได้ นี้คือความไม่เที่ยง
นี้คือความเป็นทุกข์ ทนอยู่ไม่ได้ ต้องแปรปรวนเปลี่ยนแปลงไป
นี้คืออนัตตา ไม่ใช่ตัวตน ไม่เป็นไปตามอำนาจความปรารถนาต้อง
การ ที่ว่าไม่เป็นไปตามอำนาจความปรารถนาต้องการนี้ ก็เป็นความ
จริงที่แม้พิจารณาให้ดีก็ย่อมประจักษ์ชัด บางทีรู้สึกว่าคนนั้นไม่ควร
พยายามจะไม่รัก พยายามฝืนใจตนเองที่ตัวรู้สึกว่ามีความรักในคน
ผู้ไม่ควรรักเสียแล้ว ก็หาอาจทำให้เป็นไปตามความปรารถนาต้อง
การได้ไม่ บางทีรู้สึกว่าคนนั้นควรรัก พยายามจะรัก ก็หาอาจทำให้
เป็นไปตามความปรารถนาต้องการได้ไม่ บางทีรู้สึกว่าตนเป็นทุกข์
เพราะความรัก รู้สึกว่าไม่รักจะไม่ทุกข์ พยายามจะไม่รักก็ใช่ว่าจะเป็น
ไปตามความปรารถนาต้องการของเราไม่ ย่อมเป็นไปเองตามที่เป็น
อนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจความปรารถนาต้องการใดๆ
ทั้งสิ้น นี้คืออนัตตา...

เดินทางไกล

ชีวิตนี้เหมือนกับการเดินทางไกล...
ขึ้นที่สูงบ้าง...ลงที่ต่ำบ้าง
คล้ายๆกับว่าขึ้นเขาลงห้วยตลอดเวลา...

ในบางครั้งบางคราวมันก็สูงขึ้นไป บางครั้งก็ต่ำลงไป..
ความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา...
ควรจะมีการแก้ไขทุกวัน...

วันหนึ่งๆในชีวิตเราควรจะยึดถือหลักไว้ว่า...
เราอยู่เพื่อการแก้ไข เราอยู่เพื่อการปรับปรุงสิ่งทั้งหลาย...
ให้ก้าวหน้า แล้วค่อยๆแก้ไขปรับปรุงต่อไป...

........การดำรงชีวิตอยู่ในโลก
เราจะต้องอยู่ด้วยความ..'ฉลาด'...
คนที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องชีวิต...
ย่อมเดือดร้อนเป็นทุกข์บ่อยๆ...

สู้กันต่อ...

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เครียดเลยนะเนี่ย

ทำไงดีน้อ

คิดไม่ออก

ครายจะช่วยได้เนี่ย

เศร้าจริงๆๆ

จริงใจ ***สบายใจ

คงเป็นเรื่องน่าเศร้า
หากคนเราต้องบิดเบือนความจริงในใจ
แล้วใส่หน้ากากเข้าหากัน


เราคงมีชีวิตอยู่กับความสุขปลอมๆ
ท่ามกลางความกลัวที่จะผิดหวัง
ทั้งที่ในที่สุดก็ต้องเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี

ถอกหน้ากากออกดีไหม

จะเป็นไรไป หากใครจะอ่านสายตาของเราได้
หรือแม้แต่จะมองทะลุถึงใจของเรา

เพราะเมื่อใดก็ตาม ที่เราไม่ต้องปิดบัง อำพราง
ไม่ต้องไว้ท่าไว้ทางหรือมีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ
เมื่อนั่นใจของเราย่อมมีพลังอย่างเต็มที่
ที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้บังเกิดขึ้น

ซึ่งต่างค้นพบพลังแห่งความจริงใจ
เป็นพลังที่เกิดขึ้นอย่างเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ
แต่มีอานุภาพเหลือประมาณ



ฉะนั้น..
อย่ากลัวเลย..ที่จะเป็นคนจริงใจ
เป็นคนซื่อๆ ใสๆ
ปากกับใจตรงกัน
ถึงแม้เราไม่เก่ง ไม่ดีเด่น
ไม่ได้เป็นคนสำคัญ
ขอเพียงเรามีความจริงใจต่อกัน
แค่นี้ก็สุขสบายใจ..

จาเอาไงดีเนี่ย

ขับรถมาทำงานวันนี้ไม่รู้ว่าหนาวป่าวนะ
รู้แต่ว่าใส่ถุงเท้า ถุงมือ ผ้าพันคอ
ทำยังกะหลุดมาจากขั้วโลกเหนือ
ก็ดีกว่าปล่อยให้ตัวเองเป็นหวัดไง
เพราะปรับตัวกับอากาศแปรปรวนไม่ค่อยได้
เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว

พักนี้ก็ว่างๆ นะ หัวหน้าก็หายไปไหนกันหมดมะรู้
ทำให้มีเวลาแวะนั่นแวะนี่ได้ สบม.
แวะไปหาพี่ๆ ที่ห้องงานการฯมา
ไปเรียนวิชาถักผ้าพันคอ
ได้ลายใหม่มาเรียบร้อยละ แต่ต้องรอให้ผืนนี้ถักเสร็จก่อน
พี่เค้าก็สอนดีนะ สอนทุกอย่าง
แต่ไม่รู้ว่าเราจะทำได้อย่างพี่เค้าป่าว คิคิ
พี่เค้ายังบอกอีกว่า ควรจะใช้ไหมพรมเส้นเล็ก ๆ เพราะเวลาถักออกมา
ผ้ามันจะได้ไม่ม้วนติดกันเป็นเกลียว
รู้สึกว่าจะไม่ทันแล้วละ
เพราะไอ้ที่เราถักๆ ไปเกือบจะเสร็จแล้วนะ
ใช้ไหมพรมเส้นใหญ่ มิน่าละ ออกมาถึงไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
พันกันเป็นเกลียวเลย
แต่จะให้ทำไงละ ถักเกือบเสร็จแล้ว ไหมก็ซื้อมาแล้ว
หมดไปหลายตังแล้วนะ
ทนๆ ใส่ไปก็แล้วกัน คิคิ

ไว้รอผืนใหม่ดีกว่าค่อยไปหาซื้อไหมพรมเส้นเล็กๆ มาถักใหม่
อีกหน่อยคงจะถักคล่องกว่านี้

คิคิ
มือใหม่หัดถัก

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

พักผ่อนอย่างสุขี ปิดทีวีแล้วฟังเพลง

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ดูทีวี ฟังข่าวคราวชาวบ้านไรกะใครเค้า
เพราะมัวแต่มานั่งถักผ้าพันคออยู่
ความคิดกำลังบันเจิด
กะว่าจะถักต่ออีกสักสองผืน
เอาจนเบื่อไปเลย
ถักมาก็ไม่สวยเท่าไหร่ แต่ใจรักอยากถัก คิคิ
มันคือความภาคภูมิใจที่เราก็ทำได้

ฟังเพลงไปด้วยถักผ้าไปด้วย มีความสุขจริงๆๆๆๆๆๆ

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

หนาวแล้ว

ลมหนาวมาเยือนซะที
นึกว่าปีนี้จะไม่หนาวซะแล้ว
ที่ไหนได้ อยู่ๆ ก็หนาวซะจับใจ
เมื่อวานยังร้อนอยู่เลย
ปรับตัวไม่ค่อยทัน

วันนี้ตื่นมาแต่เช้าเลยเนี่ย
ขี้เกียจสุดๆ
ทำงานบ้านครั้งใหญ่หลวง
เหนื่อยแต่ต้องทน
น้องหมาก้ไม่ได้อาบน้ำ
เพราะสงสารอากาศเย็น
เดี๋ยวจาไม่สบาย


ปล. ผ้าพันคอเกือบเสร็จแล้ว แต่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เดี๋ยวถักผืนใหม่ รับรองสวยแน่ๆ คิคิ

holiday

หยุดสุดสัปดาห์ ทำไรดีน้อออออ
จาทำไรได้
ทำงานบ้าน
ตรึมเลย
เฮ้อออออ
ทำงานบ้าน ทำงานบ้าน

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ไส้เดือน

นั่งดูกบในกะลา
นานละไม่ได้ดู
วันนี้มีเรื่องเกี่ยวกับไส้เดือน
มีชาวบ้านไปประเทศไทยไม่รู้ว่าแถวไหน เพราะไม่ได้ดูตั้งแต่แรก
ธุรกิจไส้เดือนทำรายได้กับครอบครัวได้ดีมาก
บางรายขายดีจนร่ำรวย
บ้างก็ส่งออกนอกประเทศ
บ้างก็นำมาส่งแถวเยาวราชเพื่อใช้ในการปรุงยา
อืม ก็แปลกนะ กินไส้เดือน และบางทีก็เอาไปตากแห้งทำเป็นยาจีน

ถ้าให้เรากิน คงไม่ไหว
จะอ๊วก

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

รำลึกความหลัง

ฤดุหนาวเริ่มมาเยือนแล้ว
เห็นพี่ๆ น้องที่ทำงาน
กำลังถักผ้าพันคอ,ถักหมวก,ถักเสื้อกันใหญ่
ก็นึกย้อนไปสมัยเรียนมัธยม
เราก็เคยถักส่งครูนะ
แต่ก็ไม่สวยเท่าไหร่ พอใส่ได้
ตัวที่ถักส่งครูยังอยู่นะเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก
ให้รู้ว่าเราก็ยังมีฝืมือทางด้านนี้อยู่บ้าง หุหุ

วันนี้ก็เลยไปตลาดมา หาซื้อไหมพรมมาถักผ้าพันคอสักหน่อย
จำการถักไม่ค่อยได้ ถักผิดถักถูก แกะตั้งหลายรอบ
แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม ถักต่อ
ต้องทำให้สำเร็จ
ถักเสร็จเมื่อไหร่จะถ่ายรูปมาให้ดู

วันนี้มีประชุมบ่าย
เข้าอบรมชมรมรักษ์สุขภาพ
สอนวิธีการออกกำลังกายอย่างง่ายในบ้านตนเอง
บนพื้นที่ไม่เกินหนึ่งตารางเมตร
ก็หนุกดี แต่ไม่ไหว
ไม่ได้ออกกำลังกายแบบนี้มานานละ
เอ็นแขนขาแทบจะขาดซะให้ได้
ล้าไปทั้งตัวเลย
ขาสั่นพับๆๆๆ
ตอนเดินลงจากห้องประชุม
จากชั้นสามมาชั้นล่างเนี่ย ขาก้าวไม่ค่อยได้เลย
รึว่าเราจะเริ่มแก่แล้ว
ออกกำลังกายนิดๆ หน่อยๆ แข้งขาแทบจะหลุดออกจากกัน
แต่ก็ได้เหงื่อดี ไว้จะไปหัดทำเองที่บ้าน
แต่วันนี้คงไม่ไหว เมื่อยจริงๆ คะ

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ตื่นไม่ทันคิคิ

ตั้งนาฬิกาปลุกซะดิบดี
ได้ยินแล้วก็กดปิดนอนต่อ
หุหุ
อดดูดาวเลยอะ
ตื่นมาอีกทีปวดฉี่ ตีสี่ครึ่ง เดินไปข้างนอกนึกว่าจะเห็นดาว
ที่ไหนได้มะมีไรเลย กลับเข้าไปนอนต่ออีกรอบ

ที่ทำงานบ่นกันใหญ่ ไม่มีดาวตกสักดวง มีแต่เม็ดฝนตก
คิคิ ดีนะไม่อดหลับอดนอนไปนั่งดูดาว
นานแล้วซินะ ไม่ได้ดูดาวตก
ล่าสุดเมื่อกี่ปีแล้ว
ไปดูกะนายขวัญที่สะพานแถวบ้าน
หนุกหนานกันมากๆ เลย
แต่ปีนี้เจ้าขวัญม่ายอยู่
เฮ้อออ ไม่รู้ว่าจากลับจากอบรมกรุงเทพเมื่อไหร่
คิดถึงจางเลย

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ฝนหลงฤดู

สองวันแล้วนะ ไปทำงานสาย
ถึงที่ทำงานแปดโมงสิบห้า หุหุ หัวหน้ามองใหญ่
แต่ก็มิได้นำพา 5555 นิสัยแย่มากเลยเรา

วันนี้มีฝนหลงฤดูด้วย แถมมีรุ้งกินน้ำสวยๆ ให้ดูอีกต่างหาก
สวยจริงๆ ไม่ได้เห็นมาหลายเดือนละ
คืนนี้มีฝนดาวตกนี่นา
ไม่รู้ว่าจะตื่นมาดูไหวป่าว
รู้สึกว่าช่วงนี้เข้านอนทีไร
หลับเป็นตายตลอด สงสัยจะเพลีย
แถมกับอาการปวดเมื่อยตัวนิดหน่อย
แต่ก็ดีขึ้นมาบ้างละ ไม่รู้เมื่อไหร่จาหายนะ
ง่วงแล้วนอนดีกว่า
เหนื่อยมาทั้งวันเลย

ปล.อย่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกมาดูฝนดาวตกด้วย จะตื่นไหวมั้ยเนี่ยเรา...

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

"จ๋า" ไหนละเนี่ย

วันก่อนเพื่อนชื่อ "จ๋า" โทรหา ถามว่ายุ่งป่าว
จะแวะมาหาที่ทำงาน แล้วมารับไปกินข้าว
พอดีเพื่อนมาสอบไรมะรู้จำไม่ได้
ก็คุยอยู่เกือบสิบห้านาที
ยังนึกไม่ออกเลยนะว่าไอ้ "จ๋า" ที่เราคุยด้วยเนี่ย
มัน "จ๋า" คนไหนกันเนี่ย
เพราะเพื่อนเราชื่อ "จ๋า" มีอยู่ห้าคน
ตายละว่าดันลืมถามมันซะนี่
ไม่เป็นไร เดี่ยวค่อยโทรหาใหม่ก็ได้

เป็นอันว่าสรุปแล้ว
ไอ้ จ๋า ไม่ได้มาหาเรา
มันติดธุระด่วนเลยมาไม่ได้
เราก็เลยไม่รู้ว่ามันจ๋าคนไหนกันเลย
เฮ้ออออ
ช่วงสองสามวันมานี้ ได้เจอได้คุยกะเพื่อนเก่าๆ หลายคนเลย
ไอ้แอ๊ดจิตมณี น้องอ้อย น้องแอน ไอ้ปอย ไอ้นุช
จากการที่ได้ไปทำถนนคนเดินเมื่อเสาร์แล้วก็ดีนะ
ได้เจอหลายๆ คนเลย
บางคนก็แต่งงานไปบ้างละ
แต่ที่ยังเหมือนเดิมก็ไอ้แอ๊ด ยังเป็นทอมเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง คิคิ
ส่วนไอ้แอร์ดิ เราดันจำชื่อมันไม่ได้ โดนตบหัวเลย
มันบอกขอตบหน่อย เพื่อเรียกความทรงจำกลับคืน
ดีใจๆๆๆ ได้เจอเพื่อนเก่าๆ

คิดไม่ออก

กำลังสับสนอยู่ว่า......
เราจะทำไงต่อไปกะชีวิตดี
อยากทำไรตามใจตัวเองบ้าง
แต่.....
นั่งดูสมัครสอบไปเรื่อยๆ
มีที่น่าสนใจอยู่หลายที่นะ
แต่...ไกลมากเลย จาไปไงละเนี่ย
สุราษฏร์งี้ นครศรีงี้
แต่ละที่ ภาคใต้เลย
แล้วก็ไม่รู้จาสอบได้ป่าว
แต่อยากไปสอบดูกำลังตัวเองก็แค่นั้น
ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็แล้วไป ว่ามั้ยละ
แต่เอ...ตอนไปนี่แหละมีปัญหา จาไปไงละเนี่ย ไม่เคยไปเลย
ไม่มีที่อยู่ด้วย
สุราษฏร์คงต้องถามพี่เต่าดูก่อนไม่รู้จาว่าไงนะ
คงต้องให้หาที่พักให้ตอนไปสอบ
คิคิ ดีใจต้องไปสอบจริงๆ คงได้เจอพี่เต่า
แต่ไม่รู้พี่เต่าเราจะว่างมาเจอป่าวเนี่ย
แต่นครศรีนี่ดิ ปัญหาหนักเลย ทำไงดีน้อ

ไม่เป็นไร ทุกอย่างมีทางแก้อยู่แล้ว

เมื่อยตัวอย่างบอกไม่ถูก
ปวดเมื่อยทั้งตัว ไม่อยากลุก
แต่ก็ต้องพยายามลุกมากินพาราไปสองเม็ด แล้วก็นอนต่อ
ตื่นอีกที เก้าโมงกว่านิดๆ
ปวดต้นคอกะบริเวณหัวไหล่สุดๆ เหมือนมีไรหนักๆ มาทับ
ไม่ได้นอนตกหมอน นวดไงก็ไม่หาย
ครั้งแรกที่เป็นทรมานสุดๆ เมื่อไหร่จาหายเนี่ย

ตั้งแต่กลับจากกรุงเทพคราที่แล้ว
กี่ปีแล้วนะ
ที่ไม่ได้เจอพี่แอ็ดเลย
หายเข้ากลีบเมฆไปซะแล้ว
ได้แต่โทรหาอย่างเดียว
ไม่รู้ว่าพี่จะมีเวลาอ่านบล็อกน้องคนนี้ป่าว
รึว่ายุ่งจนไม่มีเวลาคิดถึงน้องแล้ว
ยังไงก็อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมดูแลสุขภาพแล้วกันนะคะ
คิดถึงพี่จ้า

ปล. เมื่อไหร่จามาเที่ยวเชียงรายบ้างละเนี่ย บอกว่าจะมาตั้งหลายครั้งละไม่มาสักที

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เหนื่อยแต่ต้องทน

ระยะนี้ก็เรื่อยๆ สำหรับการทำงาน
ก็มีบ้าง พักบ้าง ไม่ขาดสาย
ทำคนเดียวมาซะชินละ
อ้ายกุ้งเค้าคงมีปัญหาครอบครัวนะ
ถึงได้ลางานบ่อยๆ
แต่ทุกคนมันก็มีปัญหาเหมือนกันหมดแหละ
ไม่ช่ายว่าไม่มี ปัญหาโลกแตกรุมเร้าชีวิต
เบื่อ เหนื่อย คิดไปคิดมาก็ปวดหัวนะ
แต่มันก็อดที่จะคิดไม่ได้ เฮ้อออออ ปวดเฮด
แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจะล้าเหลือเกิน
ล้าจนไม่อยากจะทำไรละ
อยากหลบไปอยู่ไกลๆ ไม่อยากพบใคร
อยากอยู่คนเดียวคงจะดีกว่านี้
แต่ความเป็นจริงเราอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ไม่ได้หรอก
ทั้งๆ ที่ในใจเราอาจจะคิดว่า เราอยู่ได้
วันนี้เป็นไรน้อ ปวดหัว ตัวร้อน เป็นหวัด อยากอยู่นิ่งๆ ไม่อยากทำไร
อยากอยู่เฉยๆ ไม่อยากรับรู้อะไร

เหงา เศร้า คิดถึง

เจ้าขวัญย้ายไปทำงานที่หางดง เชียงใหม่ สี่วันละ
รู้สึกเหงาๆ ไงไม่รู้บอกไม่ถูก
ทั้งๆที่เวลาอยู่บ้าน ก็มีแต่เรื่องให้ถกเถียงกันตลอด
คิดถึงมากๆ คิดถึงทุกวัน
โทรหาไป ก็ร้องไห้ไป
แต่ก็ต้องให้น้องมันเลือกทางเดินของมัน
ถ้าคิดว่าทำเพื่ออนาคตแล้วก็ต้องยอม
แต่มันจะรู้ป่าวนะ
ว่าคนทางบ้านคิดถึงมาก ๆ
พ่อกะแม่บ่นหาทุกวันเลย
ไม่รู้จาอยู่ จากินยังไง
ยิ่งมันทำไรไม่ค่อยเป็นอยู่ด้วย
ใครจาซักผ้ารีดผ้าให้มัน
หาไรให้กิน ทำงานอยู่ในป่าในเขา
ไม่มีเน็ต ไม่มีแสงสี ไม่รู้จาทนได้นานแค่ไหน
ไงก็ต้องสู้ๆ นะน้องรัก พ่อกะแม่กะพี่จะรอดูความสำเร็จอยู่ข้างหลัง
ไม่รู้จาเขียนไรอีกแล้ว
รู้แต่ว่าคิดถึง คิดถึง แล้วก็คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆ


หลับตาลงยังรู้สึก ท่ามกลางความอ้างว้างในหัวใจ
ค่ำคืนยาวนาน กับความเดียวดาย
และลมหายใจที่ว่างเปล่า
อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป
ว่าทุกเวลา ที่เราห่างกันแสนไกล ยังมีอีกคำในหัวใจ
ที่จะบอกเธอ ให้เธอได้รู้และเข้าใจ
ว่าคิดถึงเธอ เมื่อเราห่างกันแสนไกล มีคำหนึ่งคำจะพูดไปให้เธอได้รู้
จะแทนความหมายความห่วงใย ฉันคิดถึงเธอ
อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป
ว่าทุกเวลา ที่เราห่างกันแสนไกล ยังมีอีกคำในหัวใจ
ที่จะบอกเธอ ให้เธอได้รู้และเข้าใจ
ว่าคิดถึงเธอ เมื่อเราห่างกันแสนไกล มีคำหนึ่งคำจะพูดไปให้เธอได้รู้
จะแทนความหมายความห่วงใย ฉันคิดถึงเธอ

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เหนื่อย

วันนี้วันอะไรเนี่ย
งานเข้าแต่เช้าเลย
ตรึมเลยอะ
ไม่ได้ว่างได้เว้น
แถมอยู่คนเดียวอีกต่างหาก
เหนื่อยนะเนี่ย
เฮ้อออออ

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

กำลังมองให้เห็นความสุข

อันที่จริงนะเราต้องไม่ลืมที่จะทำความเข้าใจด้วยว่า...

ชีวิต การงาน และความรัก นั้นเกี่ยวข้องกัน
การงานไม่ได้หมายถึงชีวิต แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ความรักไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับชีวิต แต่จะทำให้ชีวิตรู้สึกยิ่งใหญ่

เราควรเรียนรู้ที่จะมีความสุข
และนึกถึงความตายว่าคือปลายทางของชีวิต
ที่เราจะเดินไปพบคนที่เราเคยสูญเสียไป


ถ้าเพียงเราคิดอย่างนั้น
เราจะอยู่กับชีวิต ด้วยความเบิกบานและความรัก
....อย่างที่มันควรจะเป็น....

ความสุขส่งผ่านมาจากใจ
และสังเกตได้จากนอกกาย

ชีวิตไม่ได้มีแค่ความสุข
แต่เราทำให้ทุกวันทุกเวลามีความสุขได้

มันก็อาจจะใช่นะ
....แต่ บางทีมันก็ทำไม่ค่อยได้......

สับสน

ความรู้สึกสับสน... หาตัวตนไม่เจอ
ลองถามตังเองดูซิ อยากผ่านไปได้ด้วยดีมั้ย ?
คุณควรต้องเลือกว่า
จะทำตัวเองให้ดีขึ้นหรือแย่ลง
คุณอาจจะหากำลังใจจากคนใกล้ชิดที่เข้าใจและฟังคุณ
แต่บางครั้งข้อคิดดี ๆ
ก็อาจจะมาจากใครก็ไม่รู้ที่คุณได้คุยด้วยถ้าคุณเลือกที่จะดีขึ้น..
คุณควรเป็นกำลังใจตัวเอง.................................
ไม่ใช่สงสารตัวเอง ..
ไม่ใช่โทษตัวเองและไม่ใช่เวลาไปโทษคนอื่น
แต่เป็นเวลาที่จิตใจต้องทำหน้าที่เข้มแข็ง.... อดทน

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เบื่อ

วุ่นวาย
เซ็ง
เบื่อ
รำคาญ

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ลอย ลอย กระทง

สองสามวันผ่านมา
ทำงาน เล่นบะทบ เที่ยวด้วย
ก็ทั้งหนุกทั้งเหนื่อย
ลอยโคมกันหนุกหนานเลย
ไม่ได้เก็บภาพบรรยากาศมาฝากเลย
รู้แต่ว่าสวย ม่วนกันขนาด
รู้แต่ว่าวันนี้คงจะได้นอนแต่หัวค่ำแน่ๆ
เพราะนอนดึกมาหลายวันแล้ว
ง่วงจิงๆ

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ฉันมีค่าแค่ไหน

เป็นคนที่ยืนอยู่ข้างเธอคอยดูแล อยู่เมื่อเธอเหงาใจ
เป็นเพียงคนหนึ่งที่เธอเห็นแล้วผ่านไป เธอจะรู้หรือเปล่า

ในใจมีเธอทำเพื่อเธอเพียงคนเดียว แต่ก็เท่านั้นเอง
เป็นลมเบาๆที่เธอนั้นไม่เคยเห็น เธอไม่เคยมองดูที่ฉัน

ไม่ได้ขอให้เธอมารัก ไม่เคยขอให้เธอห่วงใย
แค่อยากรู้เรื่องที่ค้างในใจ อยากๆจะถามเธอ

ถ้าคนอย่างฉันตายจากไป เธอเศร้าใจหรือเปล่า
หนึ่งคนที่ข้างเธอยามเหงา มันมีค่าสักแค่ไหน (สำหรับเธอ)

เดินเพียงลำพังเพราะฉันมันตัวคนเดียว เธอไม่เคยสนใจ
ยังมีเพียงเธอและจะรักตลอดไป ต่อให้ใจเธอไม่มีฉัน

ไม่ได้ขอให้เธอมารัก ไม่เคยขอให้เธอห่วงใย
แค่อยากรู้เรื่องที่ค้างในใจ อยากๆจะถามเธอ

ถ้าคนอย่างฉันตายจากไป เธอเศร้าใจหรือเปล่า
หนึ่งคนที่ข้างเธอยามเหงา มันมีค่าสักแค่ไหน (สำหรับเธอ)

โปรดเถอะตอบคำถาม ช่วยยืนยันให้ฉันฟังก่อน
อยากจะรู้ กับเธอแล้ว ความรักนี้ของฉัน มีค่าแค่ไหน

ถ้าคนอย่างฉันตายจากไป เธอเศร้าใจหรือเปล่า
หนึ่งคนที่ข้างเธอยามเหงา มันมีค่าสักแค่ไหน (สำหรับเธอ)

ถ้าคนอย่างฉันตายจากไป เธอเศร้าใจหรือเปล่า
หนึ่งคนที่ข้างเธอยามเหงา มันมีค่าสักแค่ไหน

เศร้า

เมื่อคนหนึ่งคอยหยิบยื่นหัวใจให้
แต่อีกคนหนึ่งก็ทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แล้วเมื่อไหร่ถึงจะลงเอยกันได้
ยิ้มทั้งน้ำตา.................