วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

หลายอาการรวมๆ กัน

เหนื่อย
หิว
ง่วง
ทรมาน
เพลีย
เพี้ยน
มันอยู่ในตัวช้านนี่หมดเรย

อยากกับบ้านแล้ว 
หิว 
ง่วง
เพลีย
เหนื่อย
เพี้ยนๆ  เริ่มบ้าละ

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ช้านไม่ไหวแล้ว

สุดจะทนละ
ไม่ไหวแล้วนะ
เหนื่อยมากมาย
วันนี้ทำงานไม่รู้เรื่องเรย
ง่วงสุดๆ  ทำไงดี

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ลดลง ... แต่กลับได้เพิ่มมากขึ้น

หากลดบางอย่างให้น้อยลง คุณจะได้หลายสิ่งกลับมามากขึ้น


- ลดความโกรธให้น้อยลง คุณได้สติกลับมามากขึ้น++
- ลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลง คุณได้เงินเก็บมากขึ้น++
- ลดความคิดที่จะหาคนที่ถูกน้อยลง คุณได้คำตอบสำหรับทำเรื่องที่ถูกต้องมากขึ้น++
- ลดการพูดให้น้อยลง คุณทำหลายอย่างได้มากขึ้น++
- คิดถึงคนที่คุณรักให้น้อยลง คุณเข้าใจคนที่รักคุณมากขึ้น++
- รักตัวคุณเองให้น้อยลง คนอื่นรักคุณมากขึ้น++
- พูดให้ร้ายคนอื่นให้น้อยลง มีคนพูดถึงคุณในแง่ดีมากขึ้น++
- แสดงความฉลาดให้น้อยลง คุณได้ความรู้เพิ่มมากขึ้น++
- ออกนอกบ้านให้น้อยลง คุณได้ความอบอุ่นในครอบครัวมากขึ้น++
- นอนให้น้อยลง คุณทำหลายอย่างได้มากขึ้น++
- คิดเรื่องเครียดให้น้อยลง คุณยิ้มได้มากขึ้น++
- ลดความอายให้น้อยลง คุณได้ความกล้ามากขึ้น++ (เลือกทำในทางที่ดีนะคะ)
- ดูละครให้น้อยลง คุณอ่านหนังสือได้มากขึ้น++
- เชื่อให้น้อยลง คุณมองเห็นอะไรได้มากขึ้น++
- ลดทิฐิให้น้อยลง คุณรู้จักอภัยมากขึ้น++
- กระโดดให้น้อยลง คุณเดินได้มั่นคงมากขึ้น++
- ก้มหน้าให้น้อยลง คุณมองเห็นได้ไกลขึ้น++
- เห็นแก่ตัวให้น้อยลง มีคนรอดชีวิตมากขึ้น++
- ทะเลาะกับผู้ใหญ่ให้น้อยลง คุณได้รับการเอ็นดูมากขึ้น++
- เป่าลมออกให้น้อยลง คุณสูดลมเข้าได้มากขึ้น++
- คุณคิดคำถามให้น้อยลง คุณเห็นคำตอบมากขึ้น++



.....แล้วคุณลดอะไรไปบ้างแล้วคะ.....


**************************************

To me *-*




ที่ตรงนั้น....กะที่ตรงนี้

เพราะสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตเรามีหลายด้าน


บ่อยครั้งเราเกิดสับสนว่าจะรักษาอะไรไว้

จะเลือกอะไรดี “ระหว่างชีวิตกับความรัก”

เราไม่จำเป็นต้องเลือก

เพราะสองอย่างสำคัญเท่ากัน

เพียงแต่…



“ที่ตรงนั้นกับที่ตรงนี้

ต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน”



ถ้าเรารู้จักใช้ชีวิต

เราก็จะรู้วิธีรักษาและดูแลชีวิต

และถ้าเรารู้จักคนรักและความรักอย่างแท้จริง

เราจะรู้จักวิธีประคับประคอง ดูแลรักษา

ให้ความรักเดินไปพร้อมๆ กับด้านอื่นๆ ได้



แล้วถ้าเราเข้าใจทั้งสองด้านได้มากพอ

เราจะไม่รู้สึกเหนื่อยที่ต้องแบกชีวิต

พร้อมกับดูแลความรักให้ดีอยู่เสมอ

เพราะแท้จริงแล้วทั้งสองสิ่ง

ต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน



"ชีวิตอาจต้องการการทุ่มเท

แต่ความรักต้องการความใส่ใจ”



ไหวป่าว วัยรุ่น

วันนี้ไม่ไหวเลยเนี่ย
มาแบบงง งง ง่วง ง่วง 
หัวฟูๆ  ยุ่งๆ  ตาปรือๆ
โอย ช้านไม่ไหวแล้วนะ
นึกว่าเป็นคนเดียว
ที่แท้ก็เป็นกันทุกคนเรย
เหอะๆ  นี่เพิ่งทำกันได้สองสามวันนะ
เหลืออีกตั้งเจ็ดวัน ช้านจะไหวป่าวเนี่ย

ทำโอทีกันแค่สองอาทิตย์ แค่นี้เอง
สายธารจะตายเอาให้ได้
เมื่อยแข้งเมื่อยขา ไปหมด
ตื่นมาอ่านหนังสือแบบง่วงๆ  ไม่ไหวๆ  อ่านไม่รู้เรื่อง
หลับๆ ตื่นๆ  ช้านจะตายแร้ว
แล้วช้านจาสอบได้ป่าวเนี่ย
ตายๆ   ไม่อยากจะคิดเรย แงๆ   สงสัยต้องกินแห้วรออีกแร้วเรา

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ความจริง

คุณค่าของชีวิต
ความจริงไม่ได้อยู่ที่ผลของความสำเร็จ
แต่อยู่ที่ว่าเราใช้ชีวิตอย่างไร
และเราได้ทำอะไรไปอย่างไรบ้าง
จึงไม่ว่าเราจะเดินไปถึงจุดฝันได้หรือไม่
แต่ชีวิตเราก็ไม่ว่างเปล่าเสียทีเดียว
ด้วยว่าระหว่างทางนั้นเราทำอะไรไปมากมาย
ทั้งที่ดีต่อตัวเองและดีต่อคนอื่นๆ
เราได้เก็บเกี่ยวและสั่งสม
ชีวิตเราก็มีคุณค่านักแล้ว
(แม่บอกมา)

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

พักผ่อนไม่เพียงพอ

อาการนี้มันเป็นมาหลายเดือนแล้วซินะ
ไอ้นอนแล้วชอบตื่นมาตอนดึกๆ 
แล้วก็นอนต่อไม่ได้ หรือไม่ก็นอนตอนใกล้จะเช้าละ
ทำให้เราต้องตื่นสายตลอด
มันก็เลยทำให้เรากลายเป็นผี เอ..  ผีอาราย
ผีดิบ กะว่าผีปอบ  555++
ชอบตื่นมาทำไรๆ  ตอนกลางคืน
ความจริงก็รู้สึกว่ามันเงียบดีนะ
ทำให้เราได้คิดทบทวนสิ่งต่างๆ หลายอย่างหลายอัน
ว่ามันเป็นไปเป็นมาไง ไอ้ที่มันดีก็ดีไป
ไม่ได้คิดไรมากมาย แต่ไอ้ที่คิดไปละปวดหมองนี่ก็หนักหน่อย
คนเรานี่ก็แปลกนะ ห้ามไม่ให้คิดมันไม่ได้นะ
มันคิดของมันเองอะ
หรือว่าเราจะเป็นผีบ้าไปแล้วจิงๆๆ   ตายละช้าน
ยังไม่อยากเป็นผีบ้าอะนะ 

ทำไงดี  ยังไม่ได้เริ่มทำงานเลยวันนี้
แต่เราเริ่มง่วงแล้วอะ  แงๆๆ  อยากกับบ้านไปนอน

วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

แง่ว

----
----
----

เหตุผลที่ไม่ควรเชื่อ 10 อย่าง

เรื่มต้นไม่สวยเท่าไหร่ แต่ก็พอไหว

เงื้อมเงาเหงางันตะวันพลบ
ล้าหลยแรงโรยโหยหา
ตะวันจวนดับลับลา
หวังว่าพรุ่งนี้ยังมีแรง

เมื่อวานสอบตำรวจสนามแรก
ทำได้นะ เหอะๆ  แต่พอสอบออกมา
กางหนังสือ ช้านผิดไปแระ สี่ข้อ โอพระเจ้า
ไม่ไหวๆๆๆ   จะสู้เด็กเส้นกะเด็กใช้เงินได้อะป่าว
แต่ช้านไหว ปีนี้ไม่ได้ ปีหน้าเอาใหม่ สู้ๆ 
ผ่านไปแระ ให้ผ่านไป
ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

(แต่ใจลึกๆ  ช้านก็ยังอยากสอบได้ แงๆๆ)

วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2554

555หัวเราะ

หัวเราะ...เมื่ออยากหัวเราะ
ร้องไห้...เมื่ออยากร้องไห้
และต้องหัวเราะให้ได้หลังร้องไห้ทุกครั้ง! อย่าทำอะไรที่ไม่อยากทำ...
จงทำอะไรที่ใจอยากทำ...! ตัวหนังสือ...เขียนผิด...ลบได้
การกระทำ...ทำผิด...เอาอะไรลบ นึกว่าหมากำลังไล่ฟัดซิ...!
...จะได้รีบวิ่งรี่เข้าเส้นชัย.

ใช่!!!!

...ล้มเมื่อไหร่จะได้รีบลุก... ทุกย่างก้าว ของ ความฝัน คือ ย่างก้าว
ของ ความเหน็ดเหนื่อย
ทุกย่างก้าว ของ ความเหน็ดเหนื่อย คือ ก้าวย่าง ของ ความสำเร็จ
ต่อให้ทุกข์ที่สุด....ก็ต้องผ่านพ้นไปจนได้
เมื่อเรานั่งมองอดีต เรายังผ่านทุกข์มาได้ตั้งหลายทุกข์
ก็ในเมื่อ..ชีวิต...มันยังมีชีวิต
ขอแค่อย่าทุกข์ก่อนเจอทุกข์
หลังทุกข์ อย่าทุกข์อีก
ให้ทุกข์ แค่ตอนทุกข์
แล้วทุกข์ที่สุด...ก็จะเป็น ทุกข์ แค่นี้เอง!

 

สุดๆ ละตอนนี้

มันทั้งเหนื่อย มันทั้งท้อนะ
ก็รู้แต่ก็ต้องอดทนไว้
เหมือนกำลังขาดอากาศไปชั่วขณะ
กำลังพยายามทำอยู่
กำลังใจหาได้ไม่ยาก
จากใจตัวเองก็คงได้แค่นี้
แค่นี้จิงๆๆ 

วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ทำไม แล้วก็ทำไม

ทำไมบางคนเดี๋ยววันนี้สุข เดี๋ยวพรุ่งนี้ทุกข์
ทำไมบางคนมองชีวิตในแง่ลบ
ทำไมบางคนอารมณ์หงุดหงิดง่ายใจร้อน
ทำไมบางคนเดี๋ยวโชคดี เดี๋ยวโชคร้าย
ทำไมบางคนรู้สึกว่าความสุขผ่านไปเร็ว  แต่ความทุกข์ผ่านไปช้า
ไม่เข้าใจ 
แล้วก็ยังไม่เข้าใจ

วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วิชาแก้ทุกข์

กฏธรรมดาในทางพุทธ



การภาวนาอย่าไปเลือกเวลา

เวลาเปลี่ยน ....ใจคนเปลี่ยน

ปัญหา โรค แตก

ช่วงนี้ปัญหาโรครุมเร้าซะเหลือเกิน  เหอะๆ
เป็นนั่นเป็นนี่
เป็นลม  เป็นหวัด  ปวดท้องแทบจะตาย
ไม่ได้หลับได้นอน อุตส่าห์น้ำหนักขึ้นมาละ
ดันกลับลดไปอีกสองโล  หุหุ  เริ่มผอมลงแร้วช้าน
เสาร์อาทิตย์นี้ก็ปล่อยเวลาให้ผ่านไปแบบไร้ความหมาย
ก็ได้แต่นอนอยู่ในที่นอนนี่นา เล่นปวดท้องมันทั้งว้นแบบนี้ เกือบตายแล้ว
พรุ่งนี้แล้วซินะ ต้องไปหาหมออีกแระ   เดือนนี้หาหมอไปละสามรอบเห็นจะได้
ส่องกล้อง ฉายแสง  พรุ่งนี้ไม่รู้ต้องทำไรอีก  ก็ดี  ได้ไปแอ่วโรงบาลบ่อยๆ  
แต่ไม่หนุกนะ  ต้องไปนั่งรอ  รอ รอ รอ แล้วก็รอหมอเนี่ย 
นานโคตรๆๆ  แต่ก็ต้องรอ  

วันนี้ก็แปลกๆ นะ  ใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัว
บวกเลขผิดๆถูกๆ  พิมพ์หนังสือฉบับเดียวแก้มันสามรอบเลย
ที่หนักๆเลยก็  นี่ดิ   ไปส่งเงิน  ดันเดินเลยห้องเฉยขึ้นไปชั้นสองห้องธุรการปู้น
ไปทำบ้าไรห้องธุรการ   ส่งเงินก็ต้องส่งห้องคลังดิ  เดินผ่านเฉย ไอ้นี่ท่าจะบ้า

ท่าจะไม่รุ่งแล้วช้าน  สตินะสติ มีไหนยัยเข็ม
ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ  ไม่ต้องเครียดนะ 
ทุกคนก็บอกได้นะ  ว่าอย่าเครียด แต่ใครไม่เป็นเราใครเลยจะรู้
มันห้ามไม่เครียดไม่ได้นะ  มันมาเองแบบอัตโนมัติอะ  ห้ามไงก็ไม่อยู่
มันเป็นเองอะ  ใครก็ช่วยไม่ได้หรอก ว่ามั้ยละ ???

วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ธนาคารเวลา

 เวลาเป็นสิ่งมีค่า

แลกเปลี่ยนเป็นเงินเป็นทองได้

แต่ไม่มีธนาคาร ณ แห่งใดบนโลกใบนี้

ที่ยอมรับฝากวันเวลา แล้วถอนออกมาใช้ได้



นั้นหมายความว่า

เมื่อใดที่วันเวลาผ่านเลยไป

มูลค่าของเวลาจะไม่มีเหลืออยู่เลย

จึงไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก



เมื่อใดที่เวลาผ่านไปเป็นอดีต

มันได้กลายเป็นศูนย์

เป็นความว่างเปล่าที่ไม่มีค่าอีกเลย

จึงไม่มีธนาคารใดจะเก็บรักษามูลค่าของเวลาไว้ได้



เวลาในอนาคตก็เช่นกัน

ไม่มีธนาคารไหนที่ให้สินเชื่อปล่อยกู้วันเวลา

เพราะว่าธนาคารจะไปหาเวลาจากไหนมาปล่อยกู้

และแน่ใจได้อย่างไรว่า วันเวลาข้างหน้าจะมาถึงจริง



ดังนั้นเวลาจึงมีค่าได้แค่ที่ปัจจุบัน

อยู่กับปัจจุบันทำวันนี้ให้ดีที่สุด

นั้นคือการเปลี่ยนเวลาอันมีค่า

ฝากไว้เป็นความทรงจำที่ดีตลอดไป

หลวงปู่ฝากไว้

คนเราจะมีกุศลได้ ***

ทำสมาธิ

ทำไมเราต้องเบื่อ??

มีอารายดีๆ มาฝาก


ถ้า A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z

มีค่าเท่ากับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26


แล้วจะพบว่า......

1) H+A+R+D+W+O+R+K = 8+1+18+4+23+15+18+11 = 98%
HARD WORK หรือ ทำงานหนัก มีค่าเท่ากับ 98 %


2) K+N+O+W+L+E+D+G+E = 11+14+15+23+12+5+4+7+5 = 96%
KNOWLEDGE หรือ ความรู้ มีค่าเท่ากับ 96 %


3) L+O+V+E=12+15+22+5 = 54%
LOVE หรือ ความรัก มีค่าเท่ากับ 54 %


4) L+U+C+K = 12+21+3+11 = 47%
LUCK หรือ โชค มีค่าเท่ากับ 47 %



5) ไม่มีสิ่งใดที่มีค่า 100 % เลยหรือ !!! แล้วสิ่งใดที่มีค่าเท่ากับ 100 %

- ใช่เงินหรือเปล่า ?……… .... .....ไม่ใช่ !!!!!

- ความเป็นผู้นำหรือเปล่า ?………ไม่ใช่ !!!!!



5) แล้วอะไรล่ะ ?

Ans. ; A+T+T+I+T+U+D+E = 1+20+20+9+20+21+4+5 = 100%

ATTITUDE หรือ ทัศนคติ นั่นเอง ที่มีค่าเท่ากับ 100 %



ท่านคิดเช่นนั้นหรือไม่ ทุกปัญหามีทางออก . . บางทีแค่เพียงแต่เราเปลี่ยน "ทัศนคติ " ของเราเสียใหม่เท่านั้นเอง มีเพียงแต่ “ทัศนคติ” ของเราเท่านั้น ที่จะเป็นตัวนำทาง ไปสู่ความสำเร็จในชีวิต และงานที่ทำ



ความคิด & ทัศนคติ
สุดท้าย .... ลงมือทำ
อิ .. อิ !!! เจ๋งมะ

เรายึดติดอะไรมากไปป่าว