วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หลับให้สบายนะอุ้ยยืน

ต่อไปนี้ชีวิตบางส่วนก็ขาดหายไป
จากที่ทุกๆเย็นจะแวะไปหา
ไปกอด ไปนั่งคุยด้วย
หาไรให้ทาน นวดบ้างเป็นบางเวลา
ทายาให้ ป้อนยาให้
ซักผ้าให้ ใส่เสื้อตัวเก่งที่อุ้ยชอบ  ฯลฯ
คงจะไม่มีอีกแล้ว
นอกจากความทรงจำที่ดีๆ
ไม่คิดว่าวันนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวของเรา
การสูญเสียอุ้ยยืนถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
อุ้ยบอกว่าอยากไปงานแต่งงานขวัญกะบี
นี่ก็ใกล้แล้วนะทำไมไม่รอกันบ้าง
อุ้ยยังไม่เห็นขวัญใส่ชุดทหารเลย
มันจะไปเดือนมกรานี้แล้วหนา
ไปตัดชุดเรียบร้อยแล้ว
ว่าจะใส่มาอวดอุ้ยอยุ่  แล้วทำไมไม่รอกันบ้าง
อุ้ยบอกว่าอยากอุ้มเหลน
ก็ไหนเราคุยกันแล้วว่าถ้าไม่ได้อุ้มลูกของเข็มก็อุ้มลูกของขวัญก็ได้
แต่ตอนนี้อุ้ยก็ได้อุ้มแค่น้องมีนคนเดียว
ทำไม  ทำไม  ที่เราคุยกันไว้อุ้ยลืมสัญญา
ต่อไปนี้เข็มจะไปบ้านอุ้ยแล้วจะไปหาใครละ
จะซื้อขนมไปให้ใครกิน
มะละกอที่พ่อปลูกไว้ให้อุ้ยใครจะกิน
แม่จะตำน้ำพริกกะหมูทอดให้ใครกิน
น้ายากะน้าพลจะปิดร้านพาใครไปหาหมออีกละ
น้าน้องจะตะโกนโหวกเหวกเสียงดังให้ใครได้ยินอีกละ
น้าผ่าน น้าดม น้องแพงจะไม่มีอุ้ยกินข้าวเช้าด้วย
อี๊ด อ้อม นิว โน่ น้ำ นุ่ม เข็ม ขวัญ บี ภูมิ  ลูกหลานทุกๆ  คน
รักและคิดถึงอุ้ยยืน ตลอดเวลา
ไม่อยากให้วันนี้เกิด
รู้ว่าอุ้ยเหนื่อย และทรมานมามานกับโรคนี้
ตอนนี้อุ้ยไปสบายแล้ว
ไม่ต้องห่วงหรือกังวลกะคนข้างหลัง
จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้


ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเห็นหน้าตา ยาย ย่า
มีแต่ปู่คนนี้  ปู่คนเดียวที่ลูกหลาน เหลน  เรียกกันว่าอุ้ยยืน
รักอุ้ยยืนมาก
ขอให้อุ้ยไปสู่สุขคติ

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ชอบๆๆ

อย่าเชื่อว่า...เราทำไม่ได้..ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำ..
อย่าท้อแท้..ตราบใดที่เรายังไม่ได้พยายาม..
อย่าสิ้นหวัง...ตราบใดที่เรายังมีกำลังใจ..
อย่าแพ้ชีวิต...ตราบใดที่ใจของเรายังมีหวัง..
จงอย่าทำลายความหวัง...เพียงเพราะ....
การดูหมิ่นตนเองว่า... “ทำไม่ได้”...


ขอยืมของเจ้อ้อยมา  ... 

พยายามทำจิตให้เป็นกลางให้ได้


พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้ละ อคติสี่ประการ
อย่าไปยึดมั่นอยู่ในอคติ

ฉันทาคติ มีลำเอียงเพราะความรักกัน
โทสาคติ ลำเอียงเพราะไม่ชอบกัน
โมหาคติ ลำเอียงเพราะหลง
ภยาคติ ลำเอียงเพราะกลัว
อย่างว่าเห็นเขามีเงินมากกว่าเขามีอำนาจ
อย่างนี้เมื่อ เขาทำผิดลงเราจะไปทักท้วงก็กลัว
กลัวอำนาจเงินเขา
กลัวเขาจะทอดทิ้งอะไรต่ออะไรอย่างนี้และชื่อว่า ภยาคติ
แปลว่า มีความลำเอียงเพราะความกลัว
ถ้าไม่ลำเอียงเพราะความกลัว
เขาทำผิดเราก็ต้องว่าตามความผิดของเขาไปอย่างงั้น
เขาทำถูกเราก็ว่าไปตามการกระทำถูกของเขา 

เรามีจิตเป็นกลาง ขอให้เข้าใจ พยายามทำจิตให้เป็นกลางให้ได้
เมื่อทำจิตให้เป็นกลางได้ จึงจะผ่านโลกธรรมแปดประการนี้ไปได้
ถ้าไม่ทำจิตให้เป็นกลางอย่างนี้เดี๋ยวก็จะเกิดวิกฤติทางจิตใจขึ้นมา
เดี๋ยวก็คนนั้นนินทา เดี๋ยวก็คนนี้สรรเสริญ
แล้วจิตหวั่นไหวไปกับสรรเสริญนินทา อยู่อย่างนั้นแล้ว


เมื่อเวลามีลาภ มียศมาก็ดีอกดีใจ
ถ้าเวลาเสื่อมลาภเสื่อมยศก็เสียใจเศร้าโศก
นี่เรียกว่าคนผู้ถูกโลกธรรมครอบงำจิตใจ
ย่อมมีแต่ความทุกข์ ความโศกเป็นยังงั้น
ถ้าหากว่าเรามีอุบายรู้เท่าว่า
ลาภยศ สรรเสริญ สุข ทุกข์ ทั้งหลายเหล่านี้
นินทาว่าร้ายต่างๆ มันเป็นธรรมประจำโลก
ธรรมเหล่านี้ล้วนแต่เป็นของไม่เที่ยง เกิดขึ้นมาแล้วก็ดับไป
ก็ต้องพิจารณาให้เห็นอย่างนี้ 
เมื่อมีลาภมา ลาภนั้นมันก็ไม่ยั่งยืน ใช้ไปจ่ายไปก็หมดไป
แต่ในเมื่อมียศถาบรรดาศักดิ์
เขาสมมุติแต่งตั้งให้เป็น เจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ
หรือเจ้าหน้าที่ทำราชการงานเมืองต่างๆ นานา
หมู่นี้นะก็อย่าไปไว้ใจว่า
ไอ้ยศถาบรรดาศักดิ์เหล่านั้นมันจะยั่งยืนไปตลอด

เราต้องวางจิตให้เป็นกลาง
ถ้าหากว่าเขาผู้บังคับบัญชาเขาเห็นเขาไม่ชอบใจ
เขาก็ถอดออกเมื่อไรก็ได้ เราก็ไม่ต้องเสียใจดีใจอะไร
เพราะว่าลาภยศมันไม่เที่ยง
มันมีเกิดขึ้นแล้วมันก็มีเสื่อมไปสิ้นไปเป็นธรรมดา
ขอให้พากันทำความรู้เท่าโลกธรรมอย่างนี้
โลกธรรมที่ประสบความสุข ก็อย่าเพลิดเพลินในความสุขนั้น
เพราะความสุขในโลกนี้มันไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน 

แต่ว่าความสุขที่มีร่างกายสมบูรณ์
โรคภัยไข้เจ็บไม่เบียดเบียนอย่างนี้ก็ มันก็เป็นสุขอีกส่วนหนึ่ง
บัดนี้ความสุขที่มีทรัพย์สมบัติเงินทองข้าวของพอใช้
พอจ่ายอันนี้มันก็เป็นสุข ประการหนึ่ง เป็นยังงั้น
ความสุขที่เกิดแต่ร่างกายไม่มีโรคภัยเบียดเบียน

อย่างนี้มันก็เป็นความสุขอีกประเภทหนึ่ง
ไอ้ความสุขทั้งหมดเหล่านี้ล้วนแต่เป็นของไม่เที่ยง

เราภาวนาเราต้องรู้เท่าไว้
เมื่อเวลามันเกิดขึ้นมาเมื่อไร เราก็จะได้รู้เท่าทัน
จะมีใจตั้งมั่นไม่หวั่นไหว เป็นยังงั้น
เพราะว่าถ้าเราจะไปมัวเสียใจเศร้าโศก
กับความผิดหวังดังกล่าวมานั้น
มันก็เป็นความเศร้าโศกเปล่าๆ ไม่มีประโยชน์อะไร
มีแต่ความทุกข์ใจอย่างเดียว


:: หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
 

กรรมลิขิต

เราทั้งหลายเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติแล้ว
ล้วนแต่มีกรรมผูกพันกันมาทั้งสิ้น
ผูกพันในความเป็นมิตรบ้างเป็นศัตรูบ้าง
แต่ละชีวิตก็ย่อมที่จะเดินไปตามกรรมวิบากของตนที่ได้กระทำไว้
ทุกชีวิตล้วนมีกรรมเป็นเครื่องลิขิต

อดีตกรรม ถ้ากรรมดี เสวยอยู่
ปัจจุบันกรรม สร้างกรรมชั่ว ย่อมลบล้าง
อดีตกรรม กรรมแห่งอกุศล วิบากตน
ปัจจุบัน สร้างกรรมดี ย่อมผดุง 

เรื่องกฎแห่งกรรม
ถ้าเป็นชาวพุทธแล้ว เขาถือว่าเป็นกฎแห่งปัจจังตัง
ผู้ที่ต้องการรู้ ต้องทำเอง รู้เอง ถึงเอง แล้วจึงจะเข้าใจ


:: สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )
 

คำพ่อสอน...รากฐานสำคัญของชีวิต

. . .จิตใจและความประพฤติที่สะอาดแลมีระเบียบ เป็นรากฐานสำคัญของชีวิต
ทั้งจิตใจทั้งความประพฤติดังนั้นใช่จะเกิดมีขึ้นเองได้
 
หากแต่จำต้องฝึกหัดอบรมและสนับสนุนส่งเสริมกันอย่างจริงจังสม่ำเสมอ 
นับตั้งแต่บุคคลเกิด ดังที่มนุษย์ไม่ว่าชาติใดภาษาใด 
ได้เฝ้าพยายามกระทำสืบต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย 
ทั้งนี้เพื่อให้สามารถรักษาตัวและมีความสุขความสำเร็จในการครองชีวิต 
ทั้งให้ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ด้วยความผาสุกสงบ
ดังนั้น ถึงแม้เราจะอยู่ใน ท่ามกลางความเจริญรุดหน้าแห่งยุคปัจจุบันอย่างไร
เราก็ทอดทิ้งการศึกษา ทางด้านจิตใจและศีลธรรมจรรยาไปไม่ได้
 
ตรงข้าม เราควรเอาใจใส่สั่งสอนกันให้หนักแน่นทั่วถึงยิ่งขึ้น
เพื่อให้มีความคิดความเข้าใจถูกต้อง
สอดคล้องกับสภาพการณ์แวดล้อมทั้งหลายที่วิวัฒนาไปไม่หยุดยั้ง. . . 


พระราชดำรัส
พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดสัมมนา 
เรื่อง "การพัฒนาสังคมในด้านศีลธรรมและจิตใจ" 
ซึ่งสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยจัดให้มีขึ้น 
ณ โรงแรมนารายณ์ กรุงเทพมหานคร 
วันเสาร์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๑๖ 

ต้องถอยหลังบ้าง...


ข้อคิดดีๆ




.. ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่า
แม้แต่คนโง่ที่สุดยังฉลาดในบางเรื่อง
และคนฉลาดที่สุด
ก็ยังโง่ในหลายเรื่อง ..
.. ไม่มีอะไรเสียเวลาไปมากกว่า
การคิดที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต

ไม่เคยมีอะไรช้าเกินไป
ที่จะทำใหสิ่งที่ตนฝัน ..

.. คนที่ไม่เคยหิว
ย่อมไม่ซาบซึ้งรสของความอิ่ม

ความสำเร็จที่ผ่านความล้มเหลว
ย่อมหอมหวานกว่าเดิม ..

.. อันตรายที่สุดของชีวิตคนเราคือ การคาดหวัง
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
เหตุผลขอคนๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่เหตุผลของคน
อีกคนนึง ถ้าคุณไม่ลองก้าว คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า
ทางข้างหน้าเป็นอย่างไร
ปัญหาทุกอย่างล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป
หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง ..

.. คนเรา
ไม่ต้องเก่งไปทุกอย่าง
แต่จงสนุกกับงานทุกชิ้น
ที่ได้ทำ ..

หัวใจของการเดินทางไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย
หากอยู่ที่ประสบการณ์สองข้างทาง .. มากกว่า

ชีวิตต้องดำเนินต่อไป เพื่อ......

วันนี้ก็อีกวันละนะ
ที่ตื่นมาทำไรไม่รู้แต่เช้าอย่างเคย
เหมือนจะไม่ได้นอน
ทั้งที่ก็ได้นอน
เออ.. ไม่เข้าใจเรย

ช่วงนี้ชีวิตมีแต่เรื่องแปลกๆ
คืนก่อน ก็ลืมปิดมือถือ  แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้ปิด
เจ้ไก่โทรหาเกือบห้าทุ่ม
บอกว่าจะมาขอนอนด้วย  โอ...
เกิดอารายขึ้น
รีบลุกอย่างด่วน มาเก็บของในห้องที่รกๆๆ
เก็บพอเป็นพิธี เก็บหนังสือที่กองอยู่บนเตียง
ดีเหมือนกัน  นอนกะหนังสือมาซะหลายวัน
วันนี้มีเพื่อนมานอนด้วย
ว่าแต่...
ทำไมหนอ ?
เกิดอารายขึ้น  โทรหาบอกว่าจามานอนด้วย
ต้องมีเรื่อง  และแล้วก็มีจิงๆ ๆ
อาเจ้ไก่  กะคุณสามีทะเลาะกัน
เจ้ก็เรยหนีออกจากบ้าน
นอนคุยกันซะป๊ะเรื่อง
กว่าจะได้นอนก็ปาไปเกือบตีหนึ่งละมั้ง
เจ้เล่าไปก็ไฮ่ไป   เฮ้อออ   เอ็นดูแต้

ชีวิตคนเรานี่ก็แปลกนะ
แต่งงานไปแร้ว คิดว่าจะมีความสุข
อีกชีวิตที่เราจะฝากไว้คงจะดูแลเราและครอบครัวให้ดีได้
แต่ก็ไม่เป็นดังที่วาดหวังไว้
ความรักหนอ  ความรัก

ตอนนี้ชีวิตเราเหรอ...
เหอะๆๆๆ
มันก็ลุ่มๆๆ ดอนๆ ๆ
จับต้นชนปลายยังไม่ถูกเรยนิ
ว่าจาเป็นไงไปต่อ
วันก่อนดันเอารถไปชนเสายุ้งข้าวพ่ออีก
โอยยยยย  จะบ้าตาย
อะไรจะซวยขนาดนี้ช้าน
ไม่รู้จะซ่อมหมดกี่บาทเนี่ย
เงินเดือนยิ่งน้อยๆ  อยู่  ตายแน่ๆ  ได้กินแกลบแหงๆๆช้าน
เฮ้ออ    ถือซะว่าฟาดเคราะห์ไปละกันน่อ

อุตส่าห์ซื้อหวย  หมดไปสองร้อย
พระเจ้าไม่เข้าสักตัว
ว่าาจะไม่ซื้้อละนะ
โชคหนอ โชคชะตา  ไม่เข้าข้างกันบ้างเรย
แง.... เเง ....แง....

วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ถูกต้องที่สุด

เวลากับนาฬิกามันต่างกัน

นาฬิกาคุณให้ใครไปแล้ว คุณยังขอกลับคืนมาได้

แต่ ....เวลา...เมื่อคุณให้ใครไปแล้ว..
คุณไม่สามารถนำกลับมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ว่ามั้ยละ....

ค่าของคนมิได้นับเพราะทรัยพ์มาก
หรือนับจากตำแหน่งยศศักดิ์ศรี
หรือนับจากปริญญา เอก-โท-ตรี
แต่อยู่ที่"ความดีที่เพียรทำ

วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

มันจะอะไรกันนักกันหนา

ไม่รู้เป็นไง
วันก่อนส่งซ่อมไปเครื่องหนึ่งละ
ก็ยังใช้ได้ไม่เท่าไหร่
วันนี้  ไม่ดิ วันเสาร์ละ  พังไปอีกเครื่อง
มือถือช้านเป็นไรไปหมด
เออดี  พังๆๆไปให้หมดเรย
จะได้ไม่ต้องใช้
งดการสื่อสารกับบุคคลทั่วโลก

กะว่าอยากได้อันใหม่ แงๆๆ
ขอเก็บตังก่อนนะ  อยากได้อยู่อันใหม่

ช่วงนี้เบื่อๆ ไม่อยากทำไร
กกตัวอยู่แต่ในบ้าน  ไม่ออกไปไหน
ทำงานบ้านไป เลี้ยงหมาไป
ไม่มีเพื่อนคุย ก็คุยกะหมา
เออ  ไม่ซิ  ไปเรียนกะครูมา
เรียนไปก็ง่วงไป  แถมพูดผิดๆ ถูกๆอีก
ครูครูขา  ห้ามหัวเราะเยาะหนูนะ
หนูพูดภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง


มีความสุขไปอีกแบบ
แต่จะเป็นอย่างนี้อีกนานมั้ย
แล้วคนอื่นๆ  ไปหนายกันหมดเนี่ย
ให้ช้านอยู่เฝ้าบ้านคนเดียว
พ่อกะแม่ไปสวน
ขวัญกะบีไปเจียงม่วน
พี่ภูมิไปพะเยา
แง่ววววววว  เข็มเอ๋ย  อยู่บ้านคนเดียว
โคตรง่อมเลย

เหนื่อยแต่ต้องทน


คนสำคัญ


จะอยู่ดูแล..แต่เธอ
ก็เธอจะมีฉัน คอยผูกพัน ห่วงใยอยู่ทุกวัน
รู้บ้างไหม ว่าเธอคือคนสำคัญ ในหัวใจ
อยากอยู่ดูแล..แต่เธอ
ได้ทำเพื่อเธอ ต่อให้เรื่องใด
ไม่เอาอะไรแล้ว รู้บ้างไหม
ไม่มีวันไหนฉันไม่รักเธอ
ก็เพราะเธอ คือคนสำคัญของใจ..
แม้ว่าจะนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าวันไหน
ที่เธอได้พูดคำว่าฉันรักเธอ
แค่ได้ทำอย่างนี้ ดูแลเธอเสมอ
ได้ทำแค่นี้ก็ยังดีใจ
จะอยู่ดูแล..แต่เธอ
ก็เธอจะมีฉัน คอยผูกพัน ห่วงใยอยู่ทุกวัน
รู้บ้างไหม ว่าเธอคือคนสำคัญ ในหัวใจ
อยากอยู่ดูแล..แต่เธอ
ได้ทำเพื่อเธอ ต่อให้เรื่องใด
ไม่เอาอะไรแล้ว รู้บ้างไหม
ไม่มีวันไหนฉันไม่รักเธอ
ก็เพราะเธอ คือคนสำคัญของใจ..
เพราะเธอคือ คนสำคัญ


บทเพลงนี้ขอมอบให้กับท่านพ่อของเรา
รักพ่อมากนะ  
ขอให้พ่อมีความสุข เป็นมิ่งขวัญของลูกๆตลอดไป
รอดูความสำเร็จของลูกๆ ในอนาคตนะจ๊ะ 
รักพ่อที่สุดในโลกเลย 
สุขสันต์วันพ่อค่ะ  



ขอกอดหน่อย