วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก


คำขวัญโดย องค์การอนามัยโลก Tobacco Health Warning

คำขวัญโดย กระทรวงสาธารณสุข บุหรี่มีพิษ ร่วมคิดเตือนภัย

คำขวัญโดย มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เตือน! ควันบุหรี่ฆ่า

ใครที่สูบบุหรี่อยู่ ก็ขอให้เลิกด้วยนะคะ
ไม่ดีต่อสุขภาพ แถมแพงอีกด้วย

ใครว่า "รัก" จับต้องไม่ได้

ใครต่อใครอาจจะบอกว่า
...รัก...
เป็นนามธรรม จับต้องไม่ได้ แต่รู้สึกได้
แต่ฉันว่าไม่ใช่...
ก็รักของฉัน...จับต้องได้

มันไม่ใช่เพียงความรู้สึกอบอุ่น
ไม่สามารถบรรยายได้เป็นคำพูดใดๆเลย
แต่สามารถเข้าใจได้อย่างลึกล้ำ
โดยไม่ต้องอาศัยสิ่งอื่นใดช่วยเหลือ

ถึงตอนนี้ใครๆก็คงสงสัย
แล้วมันไม่ใช่นามธรรมตรงไหน
ในเมื่อได้เพียงแต่รู้สึก
ลองคิดดูดีๆ แล้วเธอจะเข้าใจ

ไม่ต้องสนใจว่ามันจะเป็นรักแบบไหน
ไม่ต้องสนใจว่าจะได้รับรักนั้นมาจากใคร
ไม่ต้องสนใจว่าเราให้รักนั้นกับใคร
ทำไมต้องสน...ในเมื่อมันคือรัก

จะรักเพื่อน พ่อแม่ พี่น้อง หรือใครคนใดในโลกนี้
"รักก็ยังเป็นรัก"
...มิใช่หรือ...

รักทุกรักล้วนก่อเกิดมาจากตัวเรา
ในเมื่อตัวเราจับต้องได้
แล้วทำไมรักจะจับต้องไม่ได้

ตอนนี้ฉันกำลังโอบกอดรักไว้ในอ้อมแขนเล็กๆ
รักนั้นช่างอบอุ่น...ผ่อนคลาย
รักกำลังซึมผ่านผิวหนังเข้าไปสู่ภายใน
ส่วนลึกรับรู้ว่ารักเข้าถึง "ตัวตน" ของเราแล้ว


ทุกคนจับต้องรักได้
อยู่ที่ว่าคุณอยากจับต้องมันไหม
วันนี้...คุณลองเอื้อมมือไปสัมผัส "รัก" แล้วหรือยัง

Thank you ข้อมูลจาก www.kapook.com

feel good ชีวิตนี้ดีจัง

ไปส่งป๊ะป๋า หาหมอมาคะ แต่รอหมอนานไปหน่อย
เลยขอแว๊ปไปหาหนังสือมาอ่าน
ได้มาหนึ่งเรื่อง ไม่ช่ายนิยาย ไม่ช่ายเรื่องแปล
แต่คล้ายๆกับหนังสือธรรมะ แต่ก็ไม่เชิงนะ
อ่านแล้วได้ความรู้มากมาย แต่ตอนนี้ยังอ่านไม่จบ
ต้องค่อยๆ อ่าน จบเร็วไปไม่ดี เดี๋ยวไม่หนุก
อ่านวันละนิด จิตแจ่มใส

หยุดอย่างนี้ฝนตกได้ทั้งวันเลย
ซักผ้าก็ไม่แห้ง เลยเข้าไปเก็บผ้ากองโตซะก่อน
กระจัดกระจายซะ น่าเกียจเลย ห้องผู้หญิงแท้ๆ
แต่รกมากๆ ไม่รู้เอาเวลาไปทำไร
ไม่ได้เก็บห้องเลย เสาร์อาทิตย์ที ก็ได้ทำที
แต่ทำแต่ละครั้ง ก็เหนื่อยเอาการณ์เลยเนี่ย
แต่ต้องทำ ถ้าไม่ทำแล้วใครจะมาทำให้ ห้องเรานี่นา คิคิ

ทำเสร็จก็ง่วงขึ้นมาเลยอะ
แต่นอนไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
เจ้าเอเปคหมาน้อยของเรา ก็ดันเห่าไรก็ไม่รู้
ต้องตื่น ลุกมาดูมันอีก เฮ้อออ ไม่เห็นมีไรเลย
สรุป ไม่ได้นอนคะ มานั่งรีดผ้าดีฝ่า
รีดผ้าไป ฟังเพลงไป
เพลงนี้เพราะดี

การเปลี่ยนแปลง - บอย PeaCeMaKer

เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วอะไรเช่นนี้
หยุด 2 วัน แป๊บๆ ก็จะไปทำงานอีกแล้ว
ยังทำไรต่อไร ไม่เสร็จเลยอะ งานค้างตรึม
เฮ้อออออ

*-*
สู้ๆ กันต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เพลียสุดสุด

ทำงานวันนี้ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย ทั้งร้อน
เพราะไม่ได้ทำงานในห้องแอร์
อยู่หอประชุมของโรงเรียน อากาศร้อนมาก ๆ
แถมพัดลมที่แขวนอยู่กะเสาก็ใช้ไม่ได้ มันพังอะ
แล้วเอาไอ้ภารโรงเอามาให้ ก็พัดซะกระดาษกระจุยกระจายไปหมด
สรุปคือ ได้เปิดนะ แต่เปิดให้มันพัดไปทางอื่น ก็คือว่าร้อนเหมือนเดิม
วันนี้เด็กไม่มาก มีแค่ 2 ห้อง แต่ก็วุ่นวายพอสมควร
ตอนลงทะเบียนเด็กมันหาชื่อตัวเองไม่เจอ
ก็จะหาเจอได้ไงละ
ก็อาจารย์เล่นเอาชื่อเด็ก ป.4 มาปนอยู่กะ ป .5
มิน่าหาตั้งนานไม่เจอ
เด็กมันก็หน้าเสียอะดิ ว่าทำไมไม่มีชื่อตัวเอง กลัวไม่ได้อบรม
คิคิ ช่างน่าสงสารจริงๆ เด็กน้อยเอ๋ย

สงสัยจะร้อนมากไปหน่อย
ตัวเหนียวมากๆ อยากอาบน้ำแทบตาย
ได้แต่นั่งมองนาฬิกาว่าเมื่อไหร่จะสี่โมงครึ่งสักที
อยากกลับบ้านใจจะขาด
เพลียมากๆ ปวดหัวด้วย ไม่รู้จะป่วยการเมืองป่าว
แต่รู้สึกว่าเพลียมาก ๆ
ทนเอา เหลืออบรมอีกแค่วันเดียว ก็จะเสร็จแล้ว
แล้วก็จะได้พักสองวัน ต่อจากนั้นก็มาลุย 5ส. กันต่อ
เฮ้อออออ ยังไม่ได้จัดการไรเลย
5ส. เบื่อๆ ไม่รู้จะเอาสัมภาระทั้งหลายแหล่ ไปเก็บไว้ที่ไหน
เพราะของมันเยอะเหลือเกิน
เก็บๆ ไป เดี๋ยวก็กลับมารกเหมือนเดิม
ไม่รู้จะให้ทำไปทำไม วุ่นวายกันป่าวๆ
แถมเหนื่อยอีกด้วย แต่ทำมันก็สะอาด สะดวกดี
แต่มีข้อจำกัดที่ว่า ให้เก็บๆ แต่ไม่มีที่ให้เก็บ
สถานที่ไม่มีให้เราไว้เก็บของ
ก็เลยต้องหอบขนกลับมาไว้บ้านตัวเอง
ตอนนี้ก็รกกันเข้าไปใหญ่คะ
5555
5ส.ที่ทำงาน แต่บ้านรกยิ่งกว่ารังหนูอีก เฮ้ออออ

ความวุ่นวายที่แฝงในความน่ารัก

ไปอบรมเด็กๆ โรงเรียนเทศบาล 3 มา
วุ่นวายได้ใจกันจริงเลยเนี่ย
ตอนแรกก็เรียบร้อยกันดีอยู่หรอกนะ
แต่ไหงตอนหลังๆ มาวุ่นกันมากมาย
แต่ละคน ซนกันมากมาก ทำป้ายชื่อขาดกันใหญ่
ต้องมาเปลี่ยนใหม่ตั้งหลายคน แถมที่ยังดีๆ อยู่ก็อยากเปลี่ยนสี
โอยยยยย วุ่นคะ ไม่ให้เปลี่ยนก็หน้างออีก
ก็สงสารเด็กตาดำๆนะ เลยให้เปลี่ยน
แต่เปลี่ยนแล้วช่ายว่าจะดี ดันไปอวดเพื่อนมันอีก ว่าได้สีสวย
สรุปคือ มาเปลี่ยนกันใหม่เกือบหมด
เฮ้ออออ แต่ก็น่ารัก

มาอบรมเนี่ย ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกแยะเลย
รู้ว่าสิงที่เรากินอยู่ทุกวันนี้ ควรจะกินในปริมาณมากหรือน้อยเพีบงใด
ความจริงก็รู้หรอกน่าว่าไรควรกิน ไรไม่ควรกิน
แต่มันห้ามปากกะท้องไม่ได้ ของเคยๆ กิน

แต่ที่ชอบก็คือ เรื่องน้ำตาลในเครื่องดื่ม
เยี่ยมคะ ต่อไปนี้จะไม่กินโออิชิอีกแล้ว
รู้ป่าว มีน้ำตาลผสมตั้ง 40 กรัมเลยนะ
กินแล้วจะอ้วน แถมน้ำตาลในเลือดก็จะเพิ่มขึ้นอีก
ดีจัง จะได้ไม่ต้องกินอีก
คิคิ

วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เหนื่อยแต่ก็ต้องทำ

ช่วงนี้งานเข้า ไม่ได้ว่างได้เว้น
กลับบ้านค่ำๆ ทุกวันเลย
งานที่บ้านก็ไม่ค่อยได้ดูแลเลยเรา แย่จริงๆ
ผ้าก็กองโต ทั้งซัก ทั้งรีด อ่วมเลยเรา
ยิ่งอาทิตย์นี้ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่ได้อยู่เป็นที่เป็นทาง
ต้องตะลอนทัวร์ โรงเรียนทั้งวัน และก็ทุกวันด้วย
แต่เด็กๆ ก็น่ารักดี ตัวเล็ก ๆ หน้าตามอมแม คิคิ
วันนี้ไปโรงเรียนเทศบาล 2 ดีหน่อยอบรมเด็กในห้องแอร์
มิงั้นร้อนแย่เลย เพราะอากาศร้อนมากๆ ไม่รู้ว่าอีก สามวันที่เหลือ
จะเป็นไงบ้าง กะไว้ว่าจะเอามอไซด์ไปแล้วก็เลยกลับบ้านเลย
แต่การอบรมเลิกเร็วกว่าที่คิดไว้ เลยต้องกลับเข้าสำนักงาน
เฮ้อออ ยังไม่บ่ายโมงเลยอะ ทำงานต่อ ตรึม
ไม่รู้ไรเป็นไร ทับถมเทมาเต็มโต๊ะไปหมด
อะไรก็ต้องทำให้เสร็จ เหนื่อยจัง
ความจริงมันก็ไม่เท่าไหร่นะงานนะ
แต่มันเหนื่อยใจกะคนก็เท่านั้นเอง คนพูดไม่รู้เรื่อง
เอาใจตัวเองเกินไป ไม่ฟังเหตุผลของคนอื่นๆ บ้าง
คิดว่าตัวเองใหญ่แล้วจะถูกเสมอไปเหรอ ไม่ช่ายเลย
คนไม่มีเหตุผล เซ็งงงงงงงงงงงง
ถึงบ้านปวดหัวตุ๊บ ...ตุ๊บ
เอาอีกแล้ว อาการเก่าเริ่มถามหา
ไม่อยากไปโรงบาลอีกนะ ไม่อยากกินยา
ขอหลับสักพัก ตื่นมาก็หาย
แต่ไม่เป็นอย่างที่คิดเลยอะ
นอนไม่หลับ เพราะอากาศร้อนมาก ๆ
แถมน้องหมายังมาร้องกวนอกกวนใจอีก
มันคงว่าเราไม่เล่นกะมันมั้งวันนี้
เลยต้องลุกจากที่นอนแล้วไปเล่นกะมัน
สรุปคือว่า ไม่ได้นอนแล้ว ไว้ค่อยนอนตอนดึกใหม่แล้วกัน
มานั่งหาข้อมูลให้หลาน ง่ายๆ ก็คือ ช่วยทำการบ้านว่างั้นแหละ
ใช้จัง ไอ้หลานคนนี้ แต่ก็รักนะ
ขนาดตอนเช้าไปโรงเรียนก็เจอแล้ว ยังมาขอตังซื้อหนมอีก
ก็ให้ไปคะ สงสารหลานมัน เดี๋ยวจะหาว่าใจร้ายอีก

^^
ทำไมอากาศบ้านเรามันร้อนได้ใจขนาดนี้ สุดยอดเลยเนี่ย
ร้อนโคตรๆ ทำงานนิดๆ หน่อยๆ เหงื่อก็ท่วมตัวเลย
ทั้งที่ปกติก็แบบนี้ประจำ ก็ไม่เห็นมีเหงื่อเยอะขนาดนี้
เนี่ย ไหลเป็นทางลงกลางหลังเลย ไม่ชอบอะ

ไม่ค่อยได้คุยกะเพื่อนเลย
บางทีก็เปิดเน็ตออนเอ็มออนไรต่อไร ทิ้งไว้ แต่ไม่ได้เล่น
ต้องทำงานก่อน เดี๋ยวไม่เสร็จ
แต่เมื่ออาทิตย์ก่อนดิ คุยกันกระจายเลย
ทั้งเพื่อนเก่าเพื่อนใหม่
-คุยกะจิปร์ ว่าว่างๆ อาจจะเข้าไปหา หรือไม่มันก็จะเข้ามา
เพราะมันจะมาทำฟัน จะได้กินข้าวกัน ไม่เจอมันมากี่เดือนแล้วเนี่ย
ล่าสุด ก็ปลายปี 51 เห็นจะได้มั้ง อยากเห็นโมเดลจัง คงจะโตละซิท่า
-คุยกะอั้น มันก็บอกอยากกลับเชียงราย ก็มาเดะ ใครไม่ให้มา
แต่ติดตรงที่สามีมันงานยุ่ง มาไม่ได้ คงต้องรอต่อไป
-ไอ้กุ้งเหรอ หายสาบสูญไปเป็นชาติ อยู่ๆ ก็ส่งเมลล์มา บอกว่าคิดถึง
แล้วมันจะส่งมาหาทำบ้าไร แค่นี้ ไม่เข้าใจ ก็ไม่บอกด้วยนะ ว่าอยู่ไหน
ไอ้นี่ท่าจะบ้าไปแล้ว
-ล่าสุดก็คุยกะเพื่อนๆ ตอนงานแต่งบุ๋ม
เป็นไรที่ดีใจมาก ๆ เพราะบางคนไม่เจอกันเป็นสิบปีเลย
ที่เป็นปลื้มก็คือ เพื่อนๆ ทักว่า ทำไมหน้าเด็กจัง คิคิ
จะบอกว่าสวยก็บอกมาเต๊อะ ไม่ต้องกั๋ก รู้ตัวอยู่แล้วววววววววว
เพื่อนใหม่เหรอ ตรึม เยอะจนไม่รู้จะพูดใครก่อน
-ล่าสุดคุณนกดำ หรือเจ้าไม้กระดานดำ เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ แต่คุยกันได้เป็นวรรคเป็นเวร
เหมือนกะว่าสนิทกันมาแต่ชาติบางก่อน หะหะ
เป็นคนน่ารักนะ แต่รู้สึกว่าจะเป็นที่ปรึกษาใครต่อใครเยอะไปหน่อย
เวรเห็นวุ่นวายทั้งวัน กะไอ้เจ้าโทรศัพท์ นะแถมชอบทำหน้าเครียดอีก
ไม่ไหวๆ หน้าจะแก่เร็วเน้อ
-ส่วนพี่ใหญ่เหรอ คุณแม่ลูกหนึ่ง สวยมาก ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย ว่ามีลูกแล้ว
เนี่ยแหละเค้าเรียกว่า สามสิบยังแจ๋ว คุยเก่งอย่างแรง คุยไม่ทันเลยอะ
ก็น่ารักดีนะ แต่น้องน้ำตาลน่ารักกว่า คิิคิ

เดือนนี้แย่นะ
ไม่มีวันหยุดเลย
อยากพักไปเทียวไกลหูไกลตาผู้คนบ้าง คงจะดี....
เหนื่อยจิงๆ ร้อนด้วย คิดถึงน้าคำอยากไปหา คิดถึงสุดๆๆๆๆๆๆๆ
แต่ได้ไปหาแน่ๆ รับรอง คงไม่อีกกี่เดือน
ขอเก็บตังก่อนนะคะ ช่วงนี้ยากจน หุหุ

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เคยเห็นกันป่าวเนี่ย

ตัวนี้มีชื่อเรียกว่า สายฝน รึปล่าว ไม่แน่ใจ
ก็เพิ่งเคยเห็นเหมือนกัน
มันมาตอนฝนตก บินมาด้วย
ไม่กล้าจับ กลัวคัน ยิ่งแพ้แมลงอยู่ด้วย
อีกอย่างไม่รู้ว่ามันจะกัดจะต่อยป่าว เลยขอแค่ถ่ายรูปมา
ไปเจอที่สุสานเด่นห้า ไปส่งเจ้าเกียรติเอาของทีสุสาน เจอพอดี
เกือบจะเหยียบตายแล้ว ดีนะ ก้มไปเห็นเข้า
มิงั้นมีหวัง กลายเป็นศพตัวสายฝนเฝ้าสุสานเด่นห้าแน่ๆ คิคิ


ส่วนตัวนี้เค้าเรียกกันว่า (ภาษาเหนือนะ) ลูกก๋งพระอินทร์
ไม่รู้ภาษากลางเค้าเรียกไรกันอะ
เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นเนี่ยแหละ
พอดีพี่พจน์ไปส่งเจ้านายประชุมศาลากลาง
แล้วมันมีต้นไม้เยอะบนดอยอะนะ ไม่เยอะให้รู้ไป
แกเดินไปเดินมาแถวนั้น คงไม่รู้จะทำไรมั้ง เพราะรอนายประชุมให้เสร็จ
ก็เดินไปเตะโดนเจ้าตัวนี้เข้า
ตัวเล็กๆ กลมๆ ดำๆ เหมือนกะลูกแก้วที่เด็กๆ เล่นกันเลย
ก็เก็บมาฝากเราอะ 4 ตัว
ไม่กล้าจับหรอก ตัวไรก็ไม่รู้
น่าขยะแขยงมากๆ แถมลื่นๆ ถ้าใครไม่รู้ก็คงคิดว่าเป็นลูกแก้วสีดำ
แต่ไม่ช่ายเลย
เพราะเอามันมาวางบนกระดาษนะ สักพักมันคลายตัวอะ
ตอนนั้นรู้เลย มันกะดึบๆ ๆ เหมือนกิ้งกือเลย น่ากลัวเข้าไปอีก
แล้วก็ไต่ไปไต่มา แต่ถ้าเราไปแตะตัวมันนะ มันก็จะงอม้วนตัวเป็นลูกแก้วเลย
ก็ตลกดี พี่ส่งยังกล้าจับเล่นเลย แต่เรากลัวอะ ทำใจไม่ได้
พี่หนุงมาเห็นเข้า บอกว่าน่ารัก น่ารักตรงไหนเนี่ย
ขอเอาไปเลี้ยง อ้าว เอาเข้าไป พี่เราเห็นเจ้าตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงไปแล้ว
โชคดีนะเจ้าดำน้อยสี่ตัว
ไปอยู่กะเจ้านายใหม่เน้อ อยู่กะพี่พี่เลี้ยงไม่เป็นอะ
เอาไปเลี้ยงได้หลายวันละ ไม่รู้เป็นไงบ้าง
ยังไม่ได้ถามเลย วันจันทร์เจอตัวก่อน ค่อยถาม
ชอบอย่างเดียว ตอนมันงอม้วนตัวเป็นลูกแก้วนั่นแหละ
กลมเชียว

^--^





วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อาการท่าจะกำเริบแล้วเรา

ไม่หายสักที
ไอ้อาการไอเนี่ย
วันก่อนซื้อลูกอม ฟิชเชอร์แมนเฟรนมากิน
กะว่าจะให้หายเจ็บคอ หายไอสักหน่อย
ดันเป็นเพิ่มอีกโรค ร้อนในแหงๆ
เจ็บทั้งลิ้นทั้งเหงือกเลย ซวยแล้ว
ทรมานมาก กินไรก็ลำบาก
ดีเหมือนกันจะได้ผอม ๆ ลงบ้าง
ไม่ไหวๆ รู้สึกว่าน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นนะ
ตัวเริ่มอ้วนๆ หน้าเริ่มบวมๆ
จะไม่ให้อ้วนขึ้นได้ไง ก็ของกินแต่ละอย่างเงี้ย
เพิ่มน้ำหนักทั้งนั้น
ไอติมงี้ กินอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
อาทิตย์ยิ่งไปใหญ่เลย หัวหน้าเปลี่ยนกันพาไปกิน 3 วันรวดเลย
ไม่รู้เกิดใจดีไรขึ้นมา พาไปเลี้ยงข้าว เลี้ยงหนม
สงสัยจะเลี้ยงส่งอำลาอาลัยแน่ๆ เลยเนี่ย
เอ้อออ ถ้าพี่แอนย้ายไปงานอื่น คงเหงาแย่เลย
ไม่รู้จะคุยกะใครหนุกเท่าพี่แอนอีกแล้ว
เพราะเราเป็นหญิงวัยพอๆ ส่วนอ้ายกุ้งกะเกียรตินะ คุยได้อยู่แล้ว
ไม่มีปัญหา แต่ผู้หญิงกะผู้ชายอะนะ คุยกันไม่ได้ทุกเรื่องหรอก
สู้คุยกะพี่แอนก็ไม่ได้ แต่ความจริงหัวหน้าอีกสามคนก็ผู้หญิงนะ
แต่ไม่ค่อยได้คุยกะเค้าหรอก นอกจากเรื่องงาน
ไม่อยากคุยกะคนแก่อะ (555+++ล้อเล่น) พี่ๆ เค้ามีอายุกันบ้างแล้ว
ทำแต่งาน วุ่นไรกันก็ไม่รู้ วุ่นกันไปหมดเลย พลอยทำเราเวียนหัวไปด้วย
อาทิตย์หน้ามีอบรม อย.น้อย ทั้งอาทิตย์เลย
สงสัยไม่ได้อยู่ห้องอีกแน่ ดีๆ จะได้ไปเล่นกะเด็กๆ
แต่ที่เบื่อคือ ต้องไปตั้ง 5 วัน แถมต้องอยู่ทั้งวันอีกด้วย
ไม่รู้จะไหวป่าวเนี่ย เฮ้ออออ

ใส่ใจความรักกันบ้าง

ใส่ใจความรักไปวันต่อวัน
ไม่ต้องไปคิดล่วงหน้าว่า พรุ่งนี้เราจะยังรักกันอยู่ไหม
ไม่ต้องสนใจว่าเดือนหน้าหรือปีหน้า
ความรักจะเปลี่ยนไปอย่างไร
รู้แค่แต่ละวันเรารักกันอย่างเต็มที่

เมื่อคนรักบอกคุณว่า "จะรักคุณไปจนวันตาย"
คงอดไม่ได้ที่จะประทับใจและซาบซึ่งไปกับคำพูดประโยคนั้น
จนแทบจะกลั้นใจตายไปเสียในนาทีเดียวกัน
เพื่อให้คำที่เขาพูดมานั้นเป็นจริง

เมื่อคนรักบอกคุณว่า "ไม่รู้ว่าจะรักคุณไปอีกนานแค่ไหน"
คงอดไม่ได้ที่จะคิดเสียใจ
และเก็บคำพูดนี้ไว้ทิ่มแทงตัวเองว่าเขาคงไม่รักเราจริง
มองในแง่ของเหตุผลที่ไม่ใช่อารมณ์ ความรัก ความรู้สึก
คิดดูดีๆ ว่าคำพูดประโยคไหนที่น่าเชื่อถือ
และเป็นความจริงมากกว่ากัน

อย่าลืมว่าความจริงนั้นมักฟังไม่รื่นหู
แถมยังแสลงใจอีกต่างหาก
แต่เพียงในความใจร้ายที่หลายคนมองเห็น
ฉันว่ามันกลับเต็มไปด้วยความจริงใจอย่างน่ายกย่อง
เมื่อคนรักตั้งคำถามที่ว่า "จะรักกันไปอีกนานเท่าไร"
จะมีสักกี่คนที่กล้าตอบว่า "ไม่รู้" จากใจจริง
ทั้งที่ความจริงไม่น่าจะมีใครรู้เลยด้วยซ้ำว่า
ความรักนั้นจะคงทนหรือหมดลงเอาง่ายๆ เมื่อไร

คำที่บอกว่า "จะรักไปจนวันตาย" แม้จะฟังดูน่าชื่นใจ
แต่ก็หาหลักประกันอะไรไม่ได้เลย
จริงอยู่ว่าคนที่มีความรัก
มักจะคาดหวังให้ความรักนั้นคงทน
และยาวนานที่สุด เท่าที่จะทำได้
แต่อะไรจะยืนยันได้ว่า เท่าที่จะทำได้นั้นคือ เท่าไหน

บางอย่างมันก็อยู่เหนือการควบคุม เกินการคาดเดา
โดยเฉพาะอะไรที่เกี่ยวกับคน เกี่ยวกับใจ
ไม่เคยมีอะไรที่แน่นอน

เรื่องของความรักฉันว่ามันต้องดูกัน วันต่อวัน
คำกล่าวที่ว่า "รักน้อยๆ แต่รักนานๆ"
อาจจะใช้ไม่ได้ผลเสมอไป
เมื่อความรักไม่ใช่สิ่งที่มีปริมาณตายตัว
มันจะอยู่นานมากขึ้นเสียเมื่อไร

ใครจะไปรู้ว่ารักน้อยๆ นั้น จะนานหรือเร็วแค่ไหน
รักเยอะๆ ไปเลยยังดีกว่า
ในเมื่ออนาคตเป็นสิ่งที่เกิดคาดเดา
คติที่ว่า "ทำวันนี้ให้ดีที่สุด"
จึงน่าจะใช้ได้กับทุกสถานการณ์

หากไม่ทำวันนี้ก็ไม่รู้ว่า
จะได้มีโอกาสได้ทำอีกทีเมื่อไร
หากไม่รักวันนี้
ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้ตื่นมาอาจไม่รู้จะรักใครแล้วด้วยซ้ำ
ฉันรู้แต่ว่าแค่แต่ละวันเรารักกันอย่างเต็มที่

แต่ก็ไม่ลืมเผื่อใจไว้
หากอนาคตจะเข้ามาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลง
ที่ใจไม่ต้องการและทั้งๆ ที่รู้ว่า
บางอย่างมันเป็นเรื่องเหนือการควบคุม
ก็ยังอดไม่ได้ที่จะอยากรู้ว่า
ความรักนั้นจะยาวนานไปได้ถึงเมื่อไร

วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

"รัก" มีแต่สิ่งดีดี ให้กันและกัน

"รัก" ไม่มีคำว่าเศร้า ทุกข์ ขมขื่น หรืออะไรที่ทำให้รู้สึกไม่ดี ...

"รัก" มีแต่สิ่งดี ดี ให้กันและกัน...
สิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจาก "รัก" แต่เกิดจากการคาดหวัง
ที่แต่ละคนคิดว่าหากรักกันแล้ว…ต้องทำให้ได้ทุกอย่าง

ในความเป็นจริงแล้วใช่อย่างนั้นหรือ…การคาดหวังเกิดขึ้นได้กับทุกคน…
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสิ่งที่คาดหวังของคนสองคนไม่ตรงกัน…
คุณคงนึกภาพออก…

แล้วถ้ายิ่งคุณทำอะไรให้กับคนที่คุณรักแล้ว
แต่...ไม่ตรงกับที่คนรักคุณคาดไว้...สิ่งนั้นก็หมดความหมาย...
คนทำก็หมดกำลังใจ...ทำตั้งเยอะไม่ได้อะไรตอบแทนเลย...
จึงกลายเป็นการเรียกร้องเกิดขึ้น...

เมื่อคุณเป็นฝ่ายให้แล้ว ทำไมอีกฝ่ายไม่เป็นฝ่ายให้บ้าง ?...
โดยคุณอาจลืมไปว่าอีกฝ่ายก็ได้ให้คุณเหมือนกัน
เพียงแต่สิ่งนั้นไม่ได้ตรงกับที่คุณคาดไว้...และมันไม่มีความหมายกับคุณเลย ...
เมื่อคนสองคนคิดไม่ตรงกัน…

ที่ต้องการจะเป็นฝ่ายรับ...หรือเรียกร้องที่จะรับโดยบอกให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายให้...
ความทุกข์ต่างๆ ก็จะตามมา...

"รัก" ไม่ต้องคาดหวัง…ทำให้ เมื่ออยากทำ…ไม่ต้องรอสิ่งตอบแทน…
และรับในสิ่งที่อีกฝ่ายให้ เมื่อเขาอยากให้…ไม่ต้องเรียกร้อง
เป็นตัวของตัวเองในบางครั้ง…โอนอ่อนในบางที...
สิ่งดี ดี ก็จะเกิด ..."รัก"...ก็จะปรากฎ...

รักเธอ - โต๋

วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Wedding Bum & Tum


ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมอะไรกันอย่างนี้
หล่อ สวย ด้วยกันทั้งคู่เลย
ขอให้ครองรักกันนานๆ นะจ๊ะ





เพื่อนสมัยราชภัฏ ก็ไม่ได้เจอกันนานเหมือนกัน
แต่ส่วนมากจะคุยกันทางเอ้มมากกว่า
นานๆ ทีจะได้นัดมากินข้าวกัน
บางคนก็แต่งงานกันไปแล้ว
ขอแสดงความยินดีกะแบ้งด้วย จะได้เป็นพ่อคนแล้ว


เพื่อนสมัยมัธยมปลาย
ไม่ได้เจอกันนานเลย บางคนก็เกือบ 10 ปี เห็นจะได้
เลยเม้าท์กระจายกันซะนานเลย
แต่เสียดายที่ต้องรีบกลับบ้าน เพราะดึกมากโข
สวยๆ กันทุกคนเลย
ขอบอกว่าทุกคนยังโสดอยู่เลย
ไม่ช่ายสิ ยังไม่ได้แต่งกันต่างหาก
บางคนก็พาแฟนมาดูงานเพื่อเตรียมความพร้อมกันบ้างละ
สงสัยเผื่องานตัวเองจะได้ไม่ติดขัด คิคิ

อย่ามองข้ามจุดเล็ก ๆๆ

หลายคนมักคิดว่า..
จุดเล็ก ๆ ไม่ก่อปัญหาอะไร..
ปล่อยข้ามมันไปเลย..

แต่จุดเล็ก ๆ เพียงจุดเดียว..
อาจก่อให้เกิดความเสียหาย..
และติดอยู่ในความทรงจำและความรู้สึก..
ของเราได้ตลอดไปเช่นกัน..

บางคนไม่ใส่ใจต่อปัญหาที่เริ่มจากจุดเล็ก ๆ..
ที่เป็นข้อผิดพลาดของชีวิต..
ปล่อยเลย..ตามเลย..
เพียงเพราะมองข้ามจุดเล็ก ๆ นี้ไป..
อาจก่อให้เกิดความเสียหายตามมาอย่างมากมาย..

เพียงอย่ามองข้ามปัญหาทุก ๆ จุดของชีวิต..
และพยายามเอาใจใส่..
ด้วยการใช้สติพิจารณาอย่างใคร่ครวญ..
คำนึงถึงเหตุ-ผล..
ที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลังอย่างละเอียดถี่ถ้วน..

ปัญหาแม้เล็กน้อย..
หากให้ข้อคิดเตือนใจเราได้..
เราก็ไม่ควรมองข้าม..
หรือละเลยทิ้งมันไป..

ปัญหาใหญ่โต..
เกิดจากปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ
ที่ก่อตัว..เพิ่มจำนวนของปัญหามากขึ้น..
หากเราไม่รีบแก้ไข..
จากจุดเล็ก ๆ ของปัญหาเหล่านั้น..
อาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่โต..
ที่ยากแก่การแก้ไขได้..

ชีวิตของคนเราที่เกิดปัญหาขึ้น..
ก็เพราะการไม่ใส่ใจต่อความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตนนั่นเอง..

เฮ้อ รายงานความคืบหน้า

ช่วงนี้ชีวิตก็เรื่อยๆ นะ ไม่มีไรมาก
สุขภาพย่ำแย่ ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นหวัดป่าว
แต่ที่แน่ๆ รุ้ว่าไอมาก ไอไม่หยุดเลย คอแดงเลยละ
ขนาดไอไม่หยุดหย่อนอย่างนี้นะ
น้ำหนักยังเพิ่มอีก เพิ่มอีกโลหนึ่ง
พระเจ้า รับไม่ได้คะ ต้องทำการลดอย่างด่วน
รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

การงานเหรอ ก็วุ่นๆ วายๆ ปวดหัว
งานก็ไม่มีไรมาก แต่เซ็งคน
เฮ้ออออ ไม่ขอบอกจะดีที่สุด

การเงินเหรอ ก็เรื่อยๆ อีกแหละ
ดูดวงมานะ เค้าบอกว่าจะมีลาภจากการเลี่ยงโชค
ซื้อหวยเลยคะ แต่ไม่มาก
สรุปคือ ถุกกิน
จะเอาไรกับเลขกะหวยนะ
บ้าไปแล้วเรา
พึ่งตัวเองนะดีสุดแล้ว ไม่ต้องหวังไรกับลมกับแล้งนัก

ความรักอีก ก็ไม่มีไรมาก
เป็นแบบนี้มานานแล้ว ไม่หวาน ไม่หวือหวา
แต่ก็ยังรักกันดี แม้จะมีปัญหาทะเลาะกันบ้าง
ก็เคลียร์ได้ทุกอย่าง
ไม่รู้จะทะเลาะกันไปทำไม
มีกันอยู่แค่นี้ รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนกัน

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

บรรยากาศน่ากลับบ้านไปนอน ที่สู้ดดดด

มาถึงที่ทำงานอย่างสบายอารมณ์
วันนี้อากาศดีมาก ๆเนื่องว่า เมื่อคืนฝนตก
นอนหลับสบาย แล้วมาหยุดตอนไหนก็ไม่รู้
หลับไม่รู้เรื่องเลยเรา ดีตอนมาทำงานไม่ตก
แต่ที่ไหนได้ สายๆ มาดันตกเยอะเข้าไปอีก
เดินไปกินข้าวที่ตลาด ตกโครมๆ
รองเท้าเปียกน้ำหมดเยยย
ง่วงอะ
อยากกลับบ้านไปนอนจัง วันนี้น่าจะเป็นวันหยุดนะเนี่ย
อากาศดีสุดยอด ไม่ร้อนเลย

โอยตายแล้ว
โดนไฟดูดเลย ลืมไปว่ารองเท้าเปียกฝน
แล้วดันไปถอดแฮนดี้ไดร์ ไฟฟ้าสถิตเลย
อูยยยยย เจ็บนะเนี่ย ตกใจด้วย
ไม่ได้โดนไฟดูดอย่างนี้มานานแล้วนะ
จำได้ว่าครั้งล่าสุด ตอนปีที่แล้ว
ก็เท้าเปียกฝนนี่แหละ แล้วยืนอยู่ใกล้คอมฯ โดนดูดเลย
ไม่ไหวๆ เสียวไปทั้งตัวเลยอะ
เฮ้ออออ..
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นังบุ๋มจะเอารูปลงก้ไม่รู้
อยากเห็นรูปงานแต่งบ้าง
เพราะไม่ได้ไปงานตอนเช้า อยากเห็นๆๆๆ

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ใจลอย ....ลอยใจ

มีคนบอกว่าช่วงนี้เราใจลอยบ่อย ๆ
ขนาดพูดยังพูดผิดๆ ถูกๆ เป็นไรไปเหรอ
ป่าวเลย ไม่เป็นไรเลยนะ
เฉยๆ นะ เหมือนทุกวันแหละ
หรือว่าเครียดไปป่าว
ไม่ได้มาทำงานหลายวัน
งานตรึมเลย ทำงานหัวฟูเลยอะ
แต่ยังมีเวลามานั่งเม้ากันสนั่นกะพี่ๆ
เล่าเรื่องต่างๆ นานา ว่าหยุด 4 วันเนี่ยไปทำไรกันมาบ้าง
เม้ากันกระจาย จนลืมไปเลยว่ายังมีงานค้างอีกแยะ
555+++
กลับมาทำงานต่อ ปวดหัวเลยเรา คิดม่ายออกอะดิ เนี่ย
งบประมาณไรละ โยนมาๆๆ ไม่เคยทำสักที
พอทำส่งไป ดันถูกด้วยแฮะ ดีใจๆๆ
ตอนที่เอางานไปส่ง หน้างี้หงอยเลย
แต่ผลปรากฏว่า ผ่านฉลุย หน้างี้บานยิ่งกว่าดอกเห็ดอีก

โอยยยยยยย

โล่งอกอย่างบอกไม่ถูก นึกว่าจะทำไม่ผ่านซะแล้ว
ทำไปแบบมั่วๆ นะ ไม่เลยทำสักที อยู่ๆ ก็โยนมาให้กัน

ผ่านไปครึ่งวันแล้ว พักทานข้าวดีฝ่า
หิวมาก ตาลายเลย
เห็นเจ้าเกียรติเป็นหมูหันลอยมาแต่ไกล

แถมตอนเที่ยงหลังจากกินข้าวยังแวะไปแอ่วงานมหกรรมการค้าอีก
ตอนแรกพี่ส่งกะเกียรติไม่ยอมเข้าไปนะ
บอกว่าร้อน ไม่รู้จะไปซื้อไร ไม่มีตัง
ไหนได้ สองคนนั้นได้ของติดมือมาเต็มเลย
ส่วนเราไม่ได้ไรมาสักอย่าง
เดินยังไม่ทั่วเลย ปาเข้าไปบ่ายสิบห้าแล้ว
ไม่ไหว กลับ สนง. ดีฝ่า
ไว้ค่อยมาอีกรอบ
รับรองได้ของแน่ๆ เพราะเล็งไว้หลายอย่างเลย
ยังมีเวลาอีก 2 วัน ก่อนงานจะเลิก
หุหุ รับรองไม่พลาดอยู่แล้วววววว

วันว่าง ๆ กับใจที่ห่างทุกข์..

ในแต่ละสัปดาห์..
เรามีวันเสาร์-อาทิตย์..เป็นวันหยุดสัปดาห์..
เป็นวันพักผ่อนหย่อนใจ..
จากภาระหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบต่าง ๆ มากมาย..

หนึ่งวัน ๒๔ ชั่วโมง..
วันเสาร์-อาทิตย์ รวม ๒ วัน ๔๘ ชั่วโมง..
เป็นวันลาหยุดพักของความทุกข์..
ที่หลายคนบอกว่า..
วันเสาร์-อาทิตย์..เป็นชั่วโมงที่มีความสุขที่สุด..

แต่ใครจะรู้บ้างว่า..
ความสุขกับความทุกข์..ก็มีวันหยุดเช่นเดียวกัน..
ทำให้เราจึงค้นพบว่า..
บางวัน..เราก็มีความสุข..
บางวัน..ก็แสนทุกข์ทรมาน..
ชั่วโมงนี้..อาจจะสุข..
อีกไม่กี่วินาที..อาจจะทุกข์ก็เป็นได้..

หากเราได้เรียนรู้..
วันเวลาแห่งความสุข-ทุกข์..
ที่คละเคล้าชั่วโมงยามแห่งความรู้สึกต่าง ๆ มากมาย..
ทั้งสุขและทุกข์..สมหวัง..ผิดหวัง..เศร้า..เสียใจ.. ฯลฯ

เพราะฉะนั้น..
เราควรแบ่งวันเวลา..
หยุดพักความทุกข์ไว้เสียบ้าง..
ทำให้เป็นเหมือนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์..สุดสัปดาห์..

เพื่อที่เราจะได้เติมเต็มความสุข..
กับวันจันทร์-ศุกร์..
กับหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ..
ให้มีความสุขกับการทำงาน..
ให้มีสติในการทำงาน..
เพื่อเป็นการเพิ่มระดับความสุขลงในจิตใจ..

ขอบคุณบทความ...โดย..ชายน้อย..

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

งานแต่งเพื่อนบุ๋ม

ไปงานแต่งนังบุ๋มมา
เจอเพื่อนๆ ตรึมเลย
ไม่ว่าเพื่อนสมัยมัธยม สมัยราชภัฏ
จะแยกร่างอยู่แล้ว ต้องเดินมานั่งโต๊ะนั้นที โต๊ะนี้ที
เพราะถ้าไม่ไปหาเดียวมันจะหาว่าหยิ่ง
เลยต้องวิ่งไปวิ่งมา แต่ก็หนุกดี
ไม่เจอเพื่อนๆ ซะนาน
บางคนไม่เจอนานเลย แทบจะจำไม่ได้แล้ว
นึกชื่อตั้งนาน โดนมันด่าเลยอะ
รูปนะ ได้ถ่ายแยะเลย
แต่ไม่รู้กล้องใครเป็นกล้องใคร
เพราะเราไม่ได้เอาไปอะ
ไว้ได้จากเพื่อนมา จาเอามาลงให้ดูนะ
หนุกหนานสุดๆ
ดีใจมากๆ ได้เจอเพื่อน ๆ
คิดถึงทุกๆ คนเลยนะ

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วันวิสาขบูชา

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

วันนี้เป็นวันวิสาขบูชา
วันประสูตร ตรัสรู้และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
เลยตื่นเช้าเป็นพิเศษเพื่อไปทำบุญกัน
ไปปล่อยปลากันคะ ไปตลาดซื้อปลาดุก กะ ปลาไหลอย่างละ 4 ตัว
เอาไปปล่อยกันที่วัดป่าอ้อ เพราะมีเขตอภัยทานในหนองบัว ใกล้ๆ วัด
ในเขตนี้มีปลาเยอะมากๆ ตัวโตๆ ทั้งนั้น เพราะได้อาหารดี
อีกอย่างไม่มีใครจับมากินได้หรอก
คงไม่มีใครที่ไหนจับปลาในเขตอภัยทานมากิน
ขืนเอามาก็บาปแย่เลยเนี่ย
พอปล่อยลงน้ำ ก็ว่ายหายไปเลย
สงสัยจะดีใจ เรารอดตายแล้ววุ้ยๆๆๆ
ปลาก็มีจิตใจ แต่มันพูดไม่ได้เท่านั้นเอง
มันคงไม่อยากให้ใครฆ่ามันแล้วเอาไปกิน
ถ้ามันพูดได้ คงบอกว่า อย่าฆ่าหนูเลยนะ
หนูไม่อยากตาย เฮ้อออออ น่าสงสาร
ขอให้โชคดีนะเจ้าปลาน้อย

อดเลยฉัน

คุยกะนายภูมิไว้ว่า
วันนี้จะไปดูหนังกัน
มอ 3 ปี 4 กะ สาระแนฮ้าวเป้ง
อดซิคะ รอบไหนๆ ก็เต็ม
ไปรอตั้งแต่ สิบโมงเช้ากว่า ๆ ไม่ได้ดูเลย
เต็มทุกรอบ เสียดาย
ไม่ได้ดูหนังกันนานแล้ว ก็อดดูต่อไป
เลยไปนั่งกินติมกัน สบายใจกว่าเยอะ
เย็นก็เย็น หร่อยด้วย กินไปสองถ้วยคะ
พนักงานมองหน้าใหญ่เลยอะ
สงสัยมันคงคิดว่าพี่คนนี้ต้องเป็นหมูแน่ๆ เลย
กินไปได้ไง สองถ้วย
อ้าว ก็มันหร่อยนี่นา
แต่ไม่ได้กินถ้วยใหญ่นะ กินถ้วยเล็กๆ
ได้กินหลายรสดี

สรูปกินติมเสร็จก็ต้องกลับบ้านตามระเบียบ
ไม่รู้จะไปไหนแล้ว อากาศร้อนเกิน
ไปนอนตีพุงอยู่บ้านสบายใจดีกว่า

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

โอ้ย โอย

ตั้งแต่วันที่ฉันได้คุยเพียงครู่สองคนกับเธอครั้งก่อน
กลับมานอนครวญครางละเมอ
คอยพร่ำหาเธอเหมือนจะอ้อนวอนเกิดอะไรขึ้นมาล่ะเออ
มันอยากรู้นัก...เปลี่ยนฉันไปจากเดิม
โอ๊ย ..จะเป็นเพียงแววตาของเธอทั้งคู่ฉายมาสะกดรึเปล่า
อาจเป็นดาวดวงใดใช้เธอมาหลอกเล่นกล
เป็นไปไม่ได้ ออกจะงง คงเปนเพราะเธอทำสับสน
โอ้ยเดี๋ยวอยากรัก เดี๋ยวอยากลืม โอ๊ยๆ ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเพราะเธอ
**เธอทำให้ฉันรักเธอก่อนจนใจไม่อาจถอน
หัวใจมันคอยแอบๆมองแบบซึ้งๆ เธอทำให้ฉันหลงใจอ่อน
นอนกอดหมอน..ทุกคืน จะทนได้นานซักเท่าไร
หากคิดถึง อยากจะกินกลืนเธอทั้งตัว
ไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น
อยากได้ยินเพียงเสียงของเธอ เพรียกบอกรักเพ้อถึงฉันผู้เดียว
กดอารมณ์ทนไปไม่ไหว ใจมันหวิวว่าง ไม่เจอคงขาดใจ
โอ๊ยๆ....โอดโอย
โอ้ย โอย คิดถึงจังเธอ

โอ๊ย โอ๊ย - เบน ชลาทิพย์

เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วเนี่ย

ไปเอาปลาบ้านน้ายาแค่นี้
หาว่าเราเป็นขโมยไปได้ ไม่เข้าใจเลยคนเรา
ก็ไม่ทำให้คนอื่นคิดได้ไงละ ไอ้เราเล่นปีนข้ามกำแพงเข้าไปในบ้าน
จะให้ทำไงละ ลืมเอากุญแจมาไขประตูรั้วนี่นา เลยต้องปีนข้ามรั้ว
หนุกไปอีกแบบด้วย ไม่ได้ทำไรซนๆ แบบนี้มานานแล้ว
ตอนเด็กนี่ดิ ทำบ่อยๆ ปีนรั้ว ขึ้นต้นไม้ สนุกสุดๆ

พอดีจะไปเอาปลามาให้แม่เลี้ยงแก้เหงา
เพราะแม่ซื้ออ่างมาใหม่
ก็เข้าไปเอาบ้านอุ้ยมาแล้ว แต่ไม่มี น้ายาก็เลยบอกให้ไปเอาที่บ้านแก
เราก็รีบ เลยไม่ได้ขอกุญแจคะ พอไปถึงเข้าบ้านไม่ได้อะ
เลยต้องปีนกำแพงขึ้นไป ดันพอเหมาะ ลุงข้างบ้านเห็นเข้า
เดินเข้ามาถามใหญ่เลย ว่ามาเอาไร เป็นใคร
บอกแล้วก็ยังไม่เชื่ออีก ว่าเป็นหลานนะ
เลยต้องโทรหาน้าด่วน โอย วุ่นจริงๆ
ร้อนก็ร้อน กำแพงก็สูงอยู่แล้ว ปีนก็ยากเข้าไปอีก
ยังต้องมาเจอคนคุยไม่รู้เรื่องอีก
แต่สุดท้ายก็เอาปลาออกมาได้อย่างโกลาหลคะ

นานๆ ทีจะมีเรื่องป่วนๆ แบบนี้
กลับถึงบ้าน แม่บ่นใหญ่เลยคะ
กลัวว่าเราจะตกลงมาแล้วโดนเหล็กเสียบตายคารั้วบ้าน
โถๆ แม่ขา ไม่รู้ซะแล้ว
ว่าเนี่ย ลิงชัดๆ เกิดปีลิงด้วย ขึ้นต้นไม้เก่งสุดยอด
ระดับไหนแล้วแม่รู้ป่าว
คิคิ

วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ความรัก กะ ความอดทน

สิ่งที่มนุษย์ทุกคนมี
และไม่มีวันหมดไปได้ คือ "ความรัก"
แต่สิ่งที่มนุษย์มีความจำกัด คือ "ความอดทน"
ยิ่งรักมากก็ยิ่งต้องอดทนกับปัญหาต่างๆ
เพื่อให้รักนั้นยั่งยืน

แต่ในทิศทางตรงกันข้าม
เมื่อใดที่ไม่มี "ความรัก"…"ความอดทน" ก็มักจะหมดลง
สิ่งใดที่เคยอดทนได้
ก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงลดลงเรื่อยๆ
สิ่งใดที่เคยเห็นดีเห็นชอบ
กลับกลายเป็นขวางหูขวางตา

และท้ายที่สุด...
"เรา" ก็เป็นฝ่ายทิ้ง "ความรัก" นั้นให้จบลง
ทั้งๆ ที่ยังรักอยู่เต็มหัวใจ
แต่เพียงเพราะการถูกกระทำซ้ำๆ
จนกระทั่ง "ความอดทน"
บอกให้เราต้องจากไป
เพราะหากรักแล้วยังต้องเจ็บ

ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือ...การเลิกรา
เพื่อที่เราจะได้เข้มแข็ง
เพื่อที่จะลุกขึ้นได้ใหม่...ในวันข้างหน้า
และก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง

ปวดหัวตุ๊บ...ตุ๊บ

วันนี้ไม่สบายอะ
ความจริงก็ไม่ได้เป็นไรนะ
แต่รู้สึกว่าปวดหัวมากๆ เป็นไรก้ไม่รู้
มันมีนตึบบอกไม่ถูก เพลียๆ
ไม่อยากทำไรเลย
สงสัยจะป่วยการเมือง
แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะ
คิดไรไม่ออก
นานๆ ทีจะเป็นแบบนี้นะอาการเซ็งๆ เริ่มถามหา
ไม่มีไรจะเขียนอะนะ
ปวดหัวสุดๆ

วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

การชุมชนอย่างสงบ หุหุ

ให้เรามาทำงานแต่เช้า
แถมให้ใส่ชุดสีกากีอีกต่างหาก ร้อนก็ร้อน
อิดอัดสุดๆ เดินก็ลำบาก ขับรถก็ลำบาก
เพราะกระโปรงมันแคบอะ
ไม่ค่อยชอบเลยชุดนี้ แต่จำเป็นต้องใส่นะ
ให้มาทำไรเนี่ย ชุมนุมอย่างสงบเหรอ
ไม่ได้ไปชุมชนไรกะเค้าเลยคะ
นั่งอยู่ในห้องเฉยๆ แต่มองออกไปทะลุประตูก็เห็น
ขอชุมชนอยู่ในห้องก็พอนะคะ
เพราะตั้งแต่มาถึงที่ทำงาน ยังไม่ได้พักมือเลยอะ
มีแต่คนมาจองเมรุ ตรึมคับ เช้าๆ มีแต่จองเมรุ เซ็งคะ
เพราะถ้ามีจองเมรุแต่เช้า ก็จะมีเรื่อยๆ
เป็นอย่างนี้ประจำ แต่ก็ชินแล้ว
ดีกว่าไม่มีไรทำ นั่งคุยกันไปวันๆ
เป็นแมงเม่า บินไปบินมา โม้ไปวันๆๆ อิอิ

คนมาชุมชนก็เยอะนะ
หัวหน้าเราไม่ไปนี่นา แล้วทำไมเราต้องไปด้วยละ
นั่งอยู่ในห้องสบายใจกว่าแยะ
ทำงานของเราไป
วันนี้เงียบเป็นพิเศษ เพราะไม่ค่อยมีใครมาทำงาน มีมาไม่กี่คน อิจฉาแฮะ
เค้าลาหยุดกันอะ พี่ส่งงี้ เกียรติงี้ พี่แอน อ้ายกุ้ง อ้ายเอ็ม
โห อีกตั้งหลายคน ไม่มีคู่กินข้าวเลย ต้องกินกะหัวหน้าอะ
เปลี่ยนบรรยากาศ หนุกไปอีกแบบ นานแล้วซินะ ไม่ได้กินข้าวกะหัวหน้า

จากนั้นก็ไปหาดูชุดใส่ไปงานแต่งเพื่อนบุ๋มคะ
ไปกะพี่ไก่ แต่ไม่ได้ไรเลย เพราะชุดที่ไปดูแต่ละชุด
คุณพี่ไก่เลือกให้นะ ลองใส่แล้วรู้สึกจะไม่เหมาะกะเราเลย
ดูมันวับๆ แวมๆ ไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก
พรุ่งนี้กะว่าจะไปหาดูใหม่ ดีฝ่า
เพราะพรุ่งนี้หยุด
สบายอีกแล้วเรา
อิอิ จาได้นอนตื่นสายอีกแย้วววววววว

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อากาศดี้ ดี

ไม่ได้นอนตื่นสาย หลับสบายอย่างนี้มานานแล้วซินะ
ช่วงนี้เครียดๆไปนิด จิตใจไม่ปกติ ปวดหัว
ไม่รู้จะเป็นอย่างนี้อีกนานป่าว
คิดว่าคงไม่นานนะ ทุกอย่างมีทางแก้อยู่แล้ว

ฝนตกทั้งคืนนอนหลับสบายสุดๆ ยังกับว่าไม่ได้เจอบรรยากาศแบบนี้มานาน
นอนหลับสบายตื่นมาหน้าตาสดชื่น
พรุ่งนี้เตรียมตัวทำงานต่อ
แล้วก็หยุดอีกวันหนึ่ง วันไรเนี่ย อ่อ วันฉัตรมงคล
คงไม่ได้ไปไหนอีกตามเคย
อยากจะออกไปเที่ยวบ้างนะ แต่ไม่รู้จะไปไหน
ความจริงถ้าจะไปนะ ก็ไปได้ ก็ไม่รู้จะไปกับใคร
สู้อยู่บ้านเล่นกับน้องหมาที่บ้านก็สบายใจแล้ว
ง่วงนอนจังเยย
วันๆ เนี่ย ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ยังไม่ได้ทำไรต่อมิไรอีกตั้งมากมาย
เก็บไว้ทำวันอื่นต่อก็ได้ อิอิ
เดี๋ยวจะไม่มีไรทำ หุหุ

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ซวยอีกแล้วตู

อะไรจะขนาดนี้
ขับรถไปส่งน้องที่ตลาดแค่นี้
โดนตำรวจจับจนได้นะเรา
ทำไม คนซ้อนไม่ได้ใส่หมวกกันน็อคแค่นี้
ทำเป็น โห จะมาจับไรกันวันเสาร์เนี่ย
วันหยุดแท้ๆ สงสัยทำคะแนนให้ สน. แน่ๆ
ถึงได้วุ่นวายกันนัก
เบื่อวุ้ย เซ็ง มีแต่เรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน
แค่เรื่องตัวเองก็ยุ่งอยู่แล้ว
เอ้อ.... เป็นงี้แล้ว หมดรมณ์เลย

เซ็งคับพี่น้อง

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

May Day

วันนี้เป็นวันแรงงาน
แต่เราต้องมาทำงาน
เพราะเทศบาลไม่หยุด
เลยต้องมาทำ หุหุ....
ช่วงนี้ดีแฮะ ไม่ค่อยมีไรมาก
มีนิดๆ พอหอมปากหอมคอ
ไม่มากแบบนี้ก็ดีไปอย่าง ทำแบบสบายใจ
ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะทำไม่ทัน ไม่ทันใจ

ฝนตกในวันแรงงาน ดีจัง บรรยากาศน่านอนสุดๆ
เสียดายเราน่าจะได้หยุดบ้าง
คงจะสบายนอนห่มผ้าหลับปุ๋ยแน่ๆ
เพราะไม่ได้เห็นฝนตกอย่างนี้มานานแล้ว
อากาศดีมากเลย