วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ใส่ใจความรักกันบ้าง

ใส่ใจความรักไปวันต่อวัน
ไม่ต้องไปคิดล่วงหน้าว่า พรุ่งนี้เราจะยังรักกันอยู่ไหม
ไม่ต้องสนใจว่าเดือนหน้าหรือปีหน้า
ความรักจะเปลี่ยนไปอย่างไร
รู้แค่แต่ละวันเรารักกันอย่างเต็มที่

เมื่อคนรักบอกคุณว่า "จะรักคุณไปจนวันตาย"
คงอดไม่ได้ที่จะประทับใจและซาบซึ่งไปกับคำพูดประโยคนั้น
จนแทบจะกลั้นใจตายไปเสียในนาทีเดียวกัน
เพื่อให้คำที่เขาพูดมานั้นเป็นจริง

เมื่อคนรักบอกคุณว่า "ไม่รู้ว่าจะรักคุณไปอีกนานแค่ไหน"
คงอดไม่ได้ที่จะคิดเสียใจ
และเก็บคำพูดนี้ไว้ทิ่มแทงตัวเองว่าเขาคงไม่รักเราจริง
มองในแง่ของเหตุผลที่ไม่ใช่อารมณ์ ความรัก ความรู้สึก
คิดดูดีๆ ว่าคำพูดประโยคไหนที่น่าเชื่อถือ
และเป็นความจริงมากกว่ากัน

อย่าลืมว่าความจริงนั้นมักฟังไม่รื่นหู
แถมยังแสลงใจอีกต่างหาก
แต่เพียงในความใจร้ายที่หลายคนมองเห็น
ฉันว่ามันกลับเต็มไปด้วยความจริงใจอย่างน่ายกย่อง
เมื่อคนรักตั้งคำถามที่ว่า "จะรักกันไปอีกนานเท่าไร"
จะมีสักกี่คนที่กล้าตอบว่า "ไม่รู้" จากใจจริง
ทั้งที่ความจริงไม่น่าจะมีใครรู้เลยด้วยซ้ำว่า
ความรักนั้นจะคงทนหรือหมดลงเอาง่ายๆ เมื่อไร

คำที่บอกว่า "จะรักไปจนวันตาย" แม้จะฟังดูน่าชื่นใจ
แต่ก็หาหลักประกันอะไรไม่ได้เลย
จริงอยู่ว่าคนที่มีความรัก
มักจะคาดหวังให้ความรักนั้นคงทน
และยาวนานที่สุด เท่าที่จะทำได้
แต่อะไรจะยืนยันได้ว่า เท่าที่จะทำได้นั้นคือ เท่าไหน

บางอย่างมันก็อยู่เหนือการควบคุม เกินการคาดเดา
โดยเฉพาะอะไรที่เกี่ยวกับคน เกี่ยวกับใจ
ไม่เคยมีอะไรที่แน่นอน

เรื่องของความรักฉันว่ามันต้องดูกัน วันต่อวัน
คำกล่าวที่ว่า "รักน้อยๆ แต่รักนานๆ"
อาจจะใช้ไม่ได้ผลเสมอไป
เมื่อความรักไม่ใช่สิ่งที่มีปริมาณตายตัว
มันจะอยู่นานมากขึ้นเสียเมื่อไร

ใครจะไปรู้ว่ารักน้อยๆ นั้น จะนานหรือเร็วแค่ไหน
รักเยอะๆ ไปเลยยังดีกว่า
ในเมื่ออนาคตเป็นสิ่งที่เกิดคาดเดา
คติที่ว่า "ทำวันนี้ให้ดีที่สุด"
จึงน่าจะใช้ได้กับทุกสถานการณ์

หากไม่ทำวันนี้ก็ไม่รู้ว่า
จะได้มีโอกาสได้ทำอีกทีเมื่อไร
หากไม่รักวันนี้
ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้ตื่นมาอาจไม่รู้จะรักใครแล้วด้วยซ้ำ
ฉันรู้แต่ว่าแค่แต่ละวันเรารักกันอย่างเต็มที่

แต่ก็ไม่ลืมเผื่อใจไว้
หากอนาคตจะเข้ามาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลง
ที่ใจไม่ต้องการและทั้งๆ ที่รู้ว่า
บางอย่างมันเป็นเรื่องเหนือการควบคุม
ก็ยังอดไม่ได้ที่จะอยากรู้ว่า
ความรักนั้นจะยาวนานไปได้ถึงเมื่อไร

ไม่มีความคิดเห็น: