วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รู้งี้ไม่รู้ดีกว่า เสียใจ หงะ

เพิ่งเปิดคะแนนสอบตำรวจกัน
ได้ 60 ความจริงก็ผ่านอยู่นะ
แต่สงสัยคนสอบเค้าได้แยะกัน
เลยต้องตัดคะแนนกันที่ 70
เสียใจนิดหน่อย แค่รู้ว่าไม่ผ่านก็เสียใจแล้วนะ
ยังจะมารู้คะแนนอีก ทำไม ทำไม ทำไม
อีกสิบคะแนนทำไม่ได้
มะเป็นไร ปีหน้าแก้ตัวอีกรอบ ถ้ายังมีเปิดสอบอีก
เพื่อนเราดิ โทรหา มันได้ 69 โทรไป ร้องไห้ไป
ก็เสียใจแทนมันนะ เสียดายจริง
สงสารตัวเองด้วย เหอะ เหอะ

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แง่วววววววววววววววววว

พี่ไก่โทรหาซะดึกเลย ต้องมีไรแน่ๆ
บอกว่าตำรวจที่เราไปสอบนะ ประกาศผลแล้ว
ก็เข้าไปดู แต่ก่อนเปิดก็ทำใจไว้แล้วละ
ว่าผลที่ออกมาจะเป็นไง ก็จะยิ้มสู้
คิคิ สอบไม่ผ่าน
กินแห้วเลยเรา
รู้สึกว่าตื่นเต้นนะ ระหว่างรอลุ้นผล
รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงมาก
รู้สึกว่าใจคอไม่ดี
รู้สึกว่าหัวใจจะวาย ไม่อยากเปิดดูเลย
รู้สึกว่าหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มตอนไหนมะรู้
รู้สึกว่าน้ำตาตกในมันเป็นไง
รู้สึกว่าเราต้องสู้ต่อไป
กำลังใจจากแม่ ยังมีเสมอ
แม่มานั่งรอลุ้นด้วย
ยิ่งตอนมืออุ่นๆ ของแม่มาลูบหัว ทำให้.....
มืออุ่นๆ ของแม่ทำให้ตัวเราเย็น
น้ำตาไหลตอนไหนบอกไม่ได้ กลั้นไว้ไม่อยู่
ไม่ได้นอนเลยทั้งคืน
หลับตาไม่ลง คิดแต่ว่า
ทำไม ทำไม ทำไม
ทำไม ทำไม ทำไม
แล้วก็ทำไม ทำไมเราถึงไม่ผ่าน นั่งคิดทั้งคืน
สงสัยเรายังอ่านหนังสือไม่พอ
นี่ขนาดคิดว่าทำข้อสอบได้นะ ยังไม่ผ่านเลย
แล้วไอ้ที่สอบลำพูนละ ทำไม่ได้เลย คงผ่านยาก
เฮ้ออออออ เหนื่อยใจ เศร้าใจ

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

นึกไรไม่ค่อยออก

พักนี้มึน ๆเบลอๆ นึกไรมะค่อยออก เลยมะค่อยได้เขียนเลย
สืบเนื่องจากว่า ยังมึนข้อสอบลำพูนไม่หาย
เฮ้ออออออ
ความหวังช่างริบหลี่เหลือเกิน
ไม่เป็นไร ทำใจไว้ละ

ความจริงก็มีเรื่องราวต่างๆ มากมายเข้ามาในชีวิต
แต่ยังจับต้นชนปลายไรไม่ค่อยได้
ไม่รู้จะเริ่มต้นไงดี
ก็เลยต้องปล่อยให้มันไปตามทางของมัน

เพื่อนๆ พี่ๆ ก็ไปเที่ยวกันอีกแระ
เราก็อยากไปอยู่นะ
แต่ด้วยหน้าที่รับผิดชอบยังค้างอีกมากมาย
ต้องอดอีกตามเคย
แต่เดี๋ยวเราก็ได้ไปแล้ว
อาศัยไปสอบแล้วเที่ยวด้วยเลย
ก็คงจะได้เที่ยวไม่กี่วันหรอก
ไม่อยากลางานนานๆ เกรงใจคนข้าง ๆ สงสารคนแก่
คิคิ....

ไม่อยากใช้แรงงานคนแก่มาก ยิ่งขี้หลงขี้ลืมอยู่ด้วย
แถมขี้เหล้าอีกต่างหาก เมื่อไหร่นะ อ้ายกุ้งจะเลิกกินเหล้า
ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ทำงานไปเหม็นเหล้าไป หุหุ
แกคงจะมีปัญหาส่วนตัวมากจนคิดไม่ออกเลยต้องหันไปก๊งเหล้าเป็นเพื่อนย้อมใจ
เฮ้อออ ปัญหาชีวิต ปัญหาโลกแตก

เมื่อวานไปทำบุญมารู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
วันนี้ก็กะว่าจะตื่นแต่เช้าไปปล่อยปลานะ
แต่ดันลืม ตื่นมาก็มัวแต่ปัดกวาดเช็ดถูบ้าน
ลืมไปเลยว่าจะไปปล่อยปลา ไม่เป็น ค่อยไปปล่อยวันใหม่ก็ได้
เสาร์นี้แย่เลย ตั้งใจซะดิบดี จะกินเจ
แต่ร้านกลับปิด เซ็งเลย
ไปหาซื้อที่ไหนก็ไม่มีร้านไหนขายอาหารเจเลย
ยกยอดไปพรุ่งนี้แล้วกัน คิคิ
แถวบ้านดู่หาร้านอาหารเจยากนะ มีแค่ร้านเดียว ถ้าร้านนี้ปิดก็อดกิน
ไปหาซื้อมาม่าเจก็ไม่มีขาย โอพระเจ้า หายากจริงๆ เลย

ง่วงละ ไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนดีกว่า
จะได้อ่านหนังสือต่อ
ใกล้จะสอบแล้ววววววววววว

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เคยมั้ย เวลา คุณ "กอด" ใคร *-*

คุณมักซบไปทางด้านซ้ายของอีกฝ่าย
อาจเป็นเพราะนั่นคือตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจ
หากคุณ *'กอด'* เขาไว้นานเพียงพอ
จังหวะการเต้นของหัวใจ 2 ดวง ก็จะเปลี่ยนเป็นจังหวะเดียวกัน ..ในที่สุด

*'กอด'* คือเสื้อกันหนาวที่มีหัวใจ
*Hugging* is a jacket which has a heart.

ถึงแม้คอมพิวเตอร์จะทำได้แทบทุกอย่าง แต่ข้อเสียของมันก็คือ ลุกขึ้นมา *'กอด'* คุณไม่ได้
Although a computer can do almost everything but certainly, it cannot give you a hug.

ถ้าวันหนึ่งไม่มีเธอให้ *'กอด'* แล้วฉันจะโทษใครได้
If one day you are not here to *hug*, who else should I blame?

*'กอด'* คือ การแสดงความเป็นเจ้าของที่น่ารัก
*Hugging* is a cute expression between lovers.

แม้ชีวิตนี้คุณจะมีใครให้ *'กอด'* แม้เพียงคนเดียว นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการดำรงชีวิต
Even though you've got only one person in your life to *hug*, that's enough.

*'กอด'* คือ การได้ให้และการได้รับพร้อม ๆ กัน
*Hugging* is at the same time, the giving and receiving.

ในอนาคต *'กอด'* อาจหายากพอ ๆ กับเวลา
In the near future, *hug* might be as hard to find as time.

*'กอด'* ทำให้รู้ว่าเมื่อหัวใจอีกดวงมาเต้นอยู่ที่อกด้านขวาบ้างจะเป็นไง
*Hugging* displays that there will be a heart beat of others which keeps beating while you hug?

เมื่อคุณถูก *'กอด'* คุณจะตัวเล็กลง
When you are being *hugged*, you will be smaller.

แต่เมื่อคุณ *'กอด'* คนอื่น คุณจะตัวใหญ่ขึ้น
BUT When you *hug* someone, you will be bigger.

*'กอด'* คือคำว่า 'ฉันอยู่นี่'
*Hugging* is I am here.

*'กอด'* ทำให้รู้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก
*Hugging* displays that we are not alone in the planet.

ภาษาพูดแทนความรู้สึกได้ดี แต่สำหรับบางเวลา *'กอด'* อาจเป็นตัวช่วยที่ดีกว่า
Speaking is the good way of feeling communication but sometime *hug* might be a better assistance.

*'กอด'* คือ การแลกเปลี่ยน 'ความลับทางอารมณ์' ระหว่างกัน
*Hugging* is the exchange of two peoples secret feelings and emotions.

*'กอด'* ช่วยสลายทิฐิบางอย่างในใจเรา
*Hugging* disintegrates some conviction in our minds.

เมื่อคุณกลับบ้าน สิ่งที่ควรทำหลังจาก สวัสดี คือ เข้าไป *'กอด'* คนที่คุณรัก
When you arrive home, thing you should do besides saying hello is *hugging* the one you love.

บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าเราต้องการ *'กอด'* มากแค่ไหน จนกว่าจะได้เห็นคนอื่นเค้ากอดกัน
Sometime you may not realize to *hug* someone, once you observe it from others.

*'กอด'* คือ ทางสายกลางของการแสดงออกซึ่งความรัก
*Hugging* is a mind average of expression.

*'กอด'* คือ การเต้นรำในจังหวะเดียวกัน ?
*Hugging* is the some rhythm of heart beating.

*'กอด'* ทำให้รู้ว่ายังมีคนอ้วนกว่าเรา
*Hugging* defines that there will be someone who has more weight than you.


หากวันหนึ่งเราต้องไม่เหลือใคร

จงกอดตัวเองเอาไว้ แค่พออุ่น และจะรู้ว่าเราสามารถกอดตัวเองได้

โดยไม่ต้องรอให้ใครมากอดเรา

สุดท้ายแล้วคนเราก็ต้อง *'กอด'* ตัวเองในที่แคบ ๆ

วันนี้คุณกอดใครแล้วหรือยัง ?


ขอบคุณข้อมูล จาก www.teenee.com

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กลับมาพร้อมกับ.......

ไม่รู้จะบอกไงนะ
ว่าไอ้ที่ไปสอบ ๆ มานะ จะผ่านป่าว
แต่รู้ว่าทำเต็มที่แล้ว ทำจนสุดความสามารถ
ทำชนิดที่ว่า เราต้องทำให้ดีที่สุด เฮ้ออออ ไม่รู้จะอธิบายไง
ผลออกมาจะเป็นไรก็จะไม่เสียใจ เพราะเราดีทีสุดแล้ว
ออกจากห้องสอบมา
มึนตึ๊บเลย แทบจะอ๊วก จะว่าทำได้ก็ได้อยู่นะ
แต่ก็งงกับชีวิตเหมือนกัน ว่าเราทำไรไปเนี่ย
ข้อสอบยากนะ ยังมึนไม่หายเลย
ออกมาหน้าซีดหาเส้นเลือดแทบไม่เจอ
เกือบจะน็อคคาห้องสอบซะให้ได้
ความจริงนะ
ไปสอบตำรวจที่ลำปางยังง่ายกว่าสอบท้องถิ่นของลำพูนอีก
แต่มะรู้ว่าจะสู้ไอ้พวกที่ใช้เส้นใช้สายได้ป่าว
ไอ้เรายิ่งเส้นเล็กๆ อยู่ด้วย
ครายว่าเส้นเล็ก ไม่มีเลยสักเส้นก็เห็นจะเป็นได้

อัตตาหิ อัตโน นาโถ

ก็ต้องสู้กันต่อไป
ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป
คิคิ...

เหนื่อยมากกับการเดินทาง
เหนื่อยมากกับการอ่านหนังสือเพื่อทำข้อสอบ
เหนื่อยมากกับการแข่งขันเพื่อชิงดีชิงเด่น
เหนื่อยมากกับการที่ต้องมานั่งคิดว่า...
เราจะทำไงต่อไป ...
เหนื่อยมากกับดำเนินชีวิตในปัจจุบัน
ว่าอนาคต ....
เหนื่อยใจน้อ....
เหนื่อยใจจริงๆ
เหนื่อยแบบไม่มีคำบรรยาย
*-*

นี่ก็ยังต้องมาอ่านหนังสืออีก
ยังเหลือสอบอีกตัว
อันนี้ก็หินเหมือนกันนะ ไม่ช่ายกล้วยๆ เน้อ...
สู้ๆ กันไป

ปล. พ่อก็บอกอยู่นะ ว่าการได้เป็นข้าราชการ
มันไม่ช่ายจุดสูงสุดของชีวิต แม้ว่าจะไม่ได้เป็น
มันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราจะต่ำต้อยด้อยค่า
เราก็ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เป็นคนดีในสังคมได้
บางทีอาจจะเป็นคนดีกว่าข้าราชการที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้ก็ได้

ความจริง พ่อก็พูดถูกนะ แม้ว่าเราจะสอบไม่ได้
เราก็ยังต้องดำเนินชีวตต่อ เราก็ยังเป็นคนดีได้

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เพิ่งคิดได้ ว่า....รักที่ไม่มีทุกข์

ผู้หญิงเหมือนหมา "ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ "
ยิ่งนานวัน กระดูกเก่าหรือความรีกยิ่งมีค่า
ผู้ชาย เหมือนแมวแต่ไมใด้หมายถึงเชื่องหมายถึง
แมวทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ปลาทู หรือความรัก แต่พอกินอิ่มแล้ว ก้างก็ไม่อยากมอง
แล้วแมวกับหมาจะอยู่กันได้ลงตัวได้อย่างไร..นั่นคือปัณหาที่จะตามมาทีหลัง
ยิ่งความรักของหนุ่มสาวสมัยนี้ ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยยั่งยืน เพราะเป็นการรักเพื่อตนเอง
รักเพื่อเติมเต็มความพร่องของตน รักเพื่อหน้าตาในสังคม รักเพราะต้องรัก
มักมีค่านิยมว่า ชีวิตจะครบถ้วนสมบรูณ์ ต่อเมื่อได้แต่งงาน แต่กลับไม่มองว่า
"เป้าหมายที่แท้จริงของการเกิด"ซักเท่าไหร่ นี่คงเป็นส่วนหนึ่ง นี้คงเป็นส่วนหนึ่ง
ของการต้องกลับมาวนเวียนเกิดไม่จบสิ้น
แล้วก็รู้ สึก เหนื่อย
แทนที่จจะเป็น รักเพื่อคาดหวัง
รักเพื่องสิ่งตอบแทน
รักเพื่อการเป็นเจ้าของ
ทำไม ไม่ลองเปลี่ยนเป็น รักแบบ พรหมวิหาร 4
ไม่ว่าจะเป็น ความรักระหว่างพ่อแม่ลูง คู่รัก หรือเจ้านายกับลูกน้อง
ถ้าประกอบไปด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
จะเป็นความรักที่สะอาดใส ทั้งผู้รัก และ ผู้ถูกรัก ก็ไม่เป็นทุกข์
โลกก็จะสวยงามขึ้นอีกเยอะ

ปล. จะมีมั้ย รัก แบบนี้
อ่านหนังสือนิดเดียวเองอะ ง่วงอีกแล้ว

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ปล. คิดถึง

ยังคิดถึงบล็อคตลอดเวลา
อยากเขียนอยากบอก
มีเรื่องราวมากมาย
ระหว่างนี้
ทั้งดี ไม่ดี เศร้า เหงา ปนกันไป
ไว้รอสอบเสร็จจะกลับมาเล่าให้ฟัง

^^
รู้สึกเจ็บหน้าอกอีกแล้ว เจ็บแป้บๆ ๆ
ไม่รู้อาการเก่าจะกำเริบป่าวเนี่ย
คิดแล้วก็เซ็งตัวเองจริงๆ
ไปละ อ่านหนังสือก่อน เอาใจช่วยด้วยแล้วกัน

พักชั่วคราว

ช่วงนี้ขอพักเขียนสักสองอาทิตย์
เพราะกำลังเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบอยู่
แต่มะรู้ว่าจะสอบได้ป่าวนะ
แต่ก็เตรียมใจไว้บ้างแล้ว
แม้ว่าจะไม่ได้ดังใจหวัง
ก็มะเป็นไรหรอก ยังมีโอกาสอีกแยะ
แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด
ขอกำลังใจจากพ่อแม่พี่น้องที่รักด้วยนะคะ

^^__^^

สู้ๆ

วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทำไงดี

จะทำไงดีนะ
อ่านหนังสือไม่ทัน
จะอ่านที่ทำงานก็ไม่ได้
เพราะว่างานก็ต้องทำ
แต่วันนี้ดันไม่ได้เอามาด้วย
เลยต้องอาศัยอ่านในเน็ตไปพลางๆ ก่อน
เดินสายสอบ แต่มะรู้ว่าจะสอบผ่านป่าว
ก็ต้องสู้กันไป ต้องทำให้สุดความสามารถ
แม้ว่าผลที่ออกมาจะติดลบก็ตาม
แต่เราก็ทำด้วยใจเกินร้อยอยู่แล้ว
..
เครียด เครียด
พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้ เราเท่านั้นที่ต้องช่วยตัวเอง
ต้องสู้ นะเข็ม

อยากพักบ้าง

เหนื่อยกาย หรือเหนื่อยใจ บอกใครไม่ได้
ต้องบอกกับตัวเองให้สู้ต่อไป
อยากพักนะ อยากอยู่เฉยๆ แต่ความเป็นจริงทำไม่ได้
ไม่อยากรับรู้อะไร ไม่อยากทำไรทั้งนั้น
แต่ก็คงทำไม่ได้
...
เพราะชีวิตมันต้องสู้
ก็ต้องสู้กันต่อไป

ขอบคุณกำลังใจจากครอบครัว
คนรอบข้างที่มีให้
ขอบคุณน้ำใจดีๆ ที่มีต่อเรา
ขอบคุณกุหลาบสีชมพู ที่ทำให้ชีวิตดูสดใสขึ้นมา
ขอบคุณมืออุ่นๆ จากพ่อที่มอบให้
ขอบคุณอ้อมกอดของแม่ที่กอดในยามที่เราท้อแท้
ขอบคุณกำลังใจจากพี่ภูมิที่มีให้ตลอดแม้จะไม่เคยเอ่ยปาก
แต่ก็รับรู้จากสายตาที่มีให้ แถมคำด่าบ้างเป็นบางครั้ง
ขอบคุณถ้อยคำที่คอยปลอบโยนจากน้าคำ
ขอบคุณขนม น้ำ จากพี่ๆ เพื่อน ที่มีน้ำใจดีๆ มอบให้เสมอมา
ขอบคุณที่ไม่ทำให้เราต้องอยู่เพียงคนเดียวตามลำพัง
ขอบคุณที่เป็นเพื่อนคุยเพื่อนเที่ยวเพื่อนกิน ยามที่อ่อนล้า
ขอบคุณจากใจ

วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เมื่อรักหมายถึงการใส่ใจ

เคยมีใครถามคุณไหมว่า “ความรักคืออะไร?”
ดิฉันคิดว่าวันนี้เรามีคำตอบให้คุณแล้วล่ะ
คำที่ใช้แทนคำว่า “ความรัก” ได้ดีที่สุด
น่าจะเป็นคำว่า “ใส่ใจ”

หากคุณคิดที่จะบอกรัก
หรือรู้สึกว่าตัวเองรักใครซักคน
ลองถามตัวเองดูว่า คุณใส่ใจเค้ามากน้อยแค่ไหน?

ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความเอาใจ

หากคนรักของคุณจำได้ขึ้นใจว่า
คุณเคยพูดว่าอยากได้อะไร แล้วเค้าหาซื้อของชิ้นนั้นให้
ไม่ใช่สักแต่ว่าซื้อซื้อซื้อของเยอะแยะมากมาย
เพื่อเอาใจ...

นั่นแหละถึงเรียกว่า ความใส่ใจ
ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความหึงหวง
หากคนรักของคุณโทรหาคุณทุกคืน
ถามว่ากลับถึงบ้านหรือยัง
เพียงเพราะเค้าเป็นห่วง
ไม่ต้องการให้คุณได้รับอันตรายในยามดึก
ไม่ใช่กลัวว่าคุณจะไปกับคนอื่น...
นั่นแหละเรียกว่าความใส่ใจ

ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความมีน้ำใจอย่างเดียว
หากแต่มีความถนอมน้ำใจด้วย
หากคนรักของคุณทำอะไรเพื่อคุณซักอย่างด้วยความตั้งใจ
แต่คุณกลับไม่ชอบมัน
คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรออกไป
ใส่ใจในความรู้สึกของเค้าด้วย

หากคุณทะเลาะกับคนรัก แต่แล้ววันรุ่งขึ้น
คนรักของคุณยังโทรมา
แสดงความเป็นห่วงในเรื่องต่างๆ เหมือนทุกๆวัน
ทั้งๆที่ยังไม่หายโกรธ...
นั่นแหละเรียกว่าความใส่ใจ

หากคนรักของคุณยอมสละเวลาทำบางสิ่ง เอาไว้ทีหลัง
เพียงเพื่อช่วยทำในสิ่งที่คุณขอ...นั่นแหละเรียกว่า
ความใส่ใจ
คนเราบางครั้งก็ต้องการมีใครซักคนคอยใส่ใจเราบ้าง

หากคุณต้องเดินทางไกล
มันจะรู้สึกดีเอามากๆถ้าคนรักของคุณโทรมาถามว่า
“ถึงหรือยัง” “ปลอดภัยดีไหม” “เหนื่อยไหม”

หากคุณต้องปฏิบัติภารกิจสำคัญ ไม่ว่าจะเรื่องงาน
หรือเรื่องเรียน
มันจะรู้สึกดีเอามากๆ ถ้าคนรักของคุณจำได้
และโทรมาบอกว่า
“โชคดีนะ” “ชั้นจะคอยเป็นกำลังใจให้ “

หากคุณต้องขับรถคนเดียว มันจะรู้สึกดีเอามากๆ
ถ้าคนรักของคุณโทรมาบอกว่า
“ขับรถดีๆนะ” หากคุณป่วยเป็นไข้ ไม่สบาย
มันจะรู้สึกดีเอามากๆ
ถ้าคนรักของคุณโทรมาเตือนให้คุณกินยา และพักผ่อนมากๆ

ความใส่ใจ กับ ความเกรงใจ คล้ายกันในหลายๆด้าน
คุณอาจคิดว่า ยิ่งคบกันสนิทสนมกันมากเท่าไหร่

ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันให้มากเหมือนคนที่เพิ่งเริ่มรู้จักกัน

แต่ดิฉันกลับไม่คิดอย่างนั้น
ยิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่
ต้องยิ่งเกรงใจซึ่งกันและกัน

ความเกรงใจเป็นสิ่งดี
และเป็นบ่อเกิดของความสัมพันธ์อันยั่งยืน
คุณเห็นไหมล่ะว่า
ไม่ยากเลยที่จะแสดงความใส่ใจต่อใครซักคน

12 สิงหา วันแม่แห่งชาติ

มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในวันนี้
วันแม่แห่งชาติ
ตามปกติเราก็บอกรักแม่ตลอดนะ
แต่ไม่ค่อยได้แสดงออกมากนัก
แต่แม่ก็รู้แหละว่าเรารักแม่แค่ไหน
ไม่ช่ายแค่รักแม่นะ พ่อก็รักมาก รักมากที่สุดในโลกเลย

ตื่นมาแต่เช้าเลยคะวันนี้
กราบเท้าแม่ไป ก็น้ำตาไหลไป
ทำไงได้ละ กลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว
คิดไว้ในใจแล้วนะว่าปีนี้รับรองไม่ร้องให้แม่เห็น
แต่ก็ทำไม่ได้อีกตามเคย
แปลกเหมือนกันนะ กราบเท้าแม่พ่อทีไร รู้สึกมันอัดอั้นตันใจ
อย่างบอกไม่ถูกต่อมน้ำตาแตกคะ คิคิ

เสร็จก็อาบน้ำแต่งตัวแวะไปหาน้องแพงที่นอนป่วยอยู่โรงบาล
มันไม่ช่ายแค่น้องแพงซิ น้องวิวด้วย หลานสองคนนอนป่วยอยู่โรงบาล
น่าสงสารจริงๆ ด้วยอาการไข้หวัดใหญ่ทั้งคู่เลย
ช่วงนี้เด็กๆ เป็นไข้หวัดกันแยะนะเนี่ย
แย่เลย ต้องรักษาสุขภาพกันหน่อยนะ

แวะหาน้องน้ำอีกคน ที่กำลังรอกำลังใจจากพี่ๆ น้องๆ พ่อแม่
ลุงป้า น้า อา เพราะกำลังจะแข่งเทควันโดรอบตัดสินคัดตัวระดับภาคเหนือ
แต่ก็ต้องพลาดไปเพราะด้วยที่ว่า น้องน้ำตัวเล็กกว่าคู่แข่ง เลยต้องเก็บกำลังไว้สู้ในสนามต่อไป
น้องน้ำยิ้มทั้งน้ำตา ทำให้ทุกคนในที่นี้ต้องพลอยน้ำตาร่วงกันเป็นแถวๆ
แม้น้องจะไม่ชนะครานี้ ยังมีคราหน้าอีก ต้องฝึกฝนกันต่อไป
ยังมีเวลาอีกแยะสำหรับการฝึกฝนเพื่อการต่อสู้ในสนามแข่งขัน
สู้ต่อไปนะน้องรัก อนาคตยังอีกยาวไกล ความฝันรออยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
ทุกคนเอาใจช่วยเสมอ




..อิ่มอุ่น...

อุ่นใดใดโลกนี้ไม่มีเทียบเทียม
อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดแม่ตะกอง
รักเจ้าจึงปลูกรักลูกแม่ย่อมห่วงใย
ไม่อยากจากไปไกลแม้เพียงครึ่งวัน

ให้กายเราใกล้กันให้ดวงตาใกล้ตา
ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพันธ์

อิ่มใดใดโลกนี้ไม่มีเทียบเทียม
อิ่มอกอิ่มใจอิ่มรักลูกหลับนอน
น้ำนมจากอกอาหารของความอาทร
แม่พร่ำเตือนพร่ำสอนสอนสั่ง

ให้เจ้าเป็นเด็กดี ให้เจ้ามี่พลัง
ให้เจ้าเป็นความหวังของแม่ต่อไป

ใช่เพียงอุ่นท้องที่ลูกร่ำร้องเพราะต้องการไออุ่น
อุ่นไอรัก อุ่นละมุน
ขอน้ำนมอุ่นจากอกให้ลูกดื่มกิน

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เซ็งงงงงงงง

เป็นอารมณ์ที่ไม่อยากพูด ไม่อยากคุย ไม่อยากบอก
อยากอยู่เฉยๆ อยากอยู่นิ่งๆ ไม่อยากทำอะไร
มีความรู้สึกเซ็งๆ เบื่อๆ
ไม่มีเหตุผลว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้
ไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง
เพราะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร
ยังไม่เข้าใจตัวเองอยู่เนี่ย

กำลังงงกับชีวิตของตัวเราเอง
ว่าจะทำไงต่อไป
คิดไม่ออก ...

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ได้แผลมาอีกตามเคย

ไปตลาดมา
กำลังจะเลี้ยวรถเข้าบ้าน
เจ้าหมาบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ ว่ิ่งมาตัดหน้าเฉยเลย
ไม่ทันแล้ว เบรคหัวทิมเลย
รถล้มไม่เป็นท่าอีกแล้วเรา

หัวเข่าถลอกนิดหน่อย
แขนข้างขวาเจ็บ แต่ไม่มีแผล ไม่รู้ว่าจะเป็นไรมากป่าว
กระจกรถมอไซด์ด้านขวาแตกไม่มีชิ้นดี
ตะกร้ารถบุบๆ เบี้ยวๆ
เฮ้อออ ได้ซื้อใหม่อีกทั้งกระจก ทั้งตะกร้า เซ็งเลย
ดีนะไม่มีคนเห็น
แฮะๆ อายนะเนี่ย
ดีนะ ที่ล้มในซอยเข้าบ้านตัวเอง
กรรมเจ้าหมาบ้าตัวนั้น
มันยืนมองเราหน้าตาเฉย
เหมือนกับว่าเห็นเราล้มแล้วสมน้ำหน้า
โอ๊ยยยยยยย เจ็บคะ


ช่างเป็นเช้าวันหยุดที่ไม่สดใสเอาซะเลย

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อากาศดี้ดี

ฝนตกตั้งแต่กลางคืนมาละ
แล้วก็ยังตกอีกทั้งวันเลย
ช่างเป็นวันที่แสนจะสดชื่น
ชื่นช่ำเอามากๆ เพราะอากาศดี
ต้นไม้ก็เขียวชะอุ่ม ใบพุ่มสไว
มันคงจะตกอย่างนี้อีกไม่กี่วันหรอก
เพราะเดี๋ยวก็กลับไปร้อนเหมือนเดิม
เสียอย่างเดียว ไปไหนมาไหนลำบากแค่นั้นแหละ

ถึงอากาศจะดี แต่เราก็ยุ่งสุดๆ นะวันนี้
ไม่ได้ออกไปไหนเลยอะ
ได้ออกตอนพักเที่ยงแค่นั้น เดินไปตลาด
หาซื้อไรไปเรื่อยเปื่อย ตามประสา
แต่ไม่ไหว แข้งขาเปื้อนหมดเลย
ก็เจ้ารองเท้าที่ใส่นี่แหละ มันดีดน้ำที่อยู่บนพื้นใส่ขาเรา
กลับมาที่ห้อง รีบมาล้างใหญ่เลย
กลัวเชื้อโรคอย่างแรก คิคิ

ตอนเย็นว่าจะไปหาซื้อขนมสักหน่อย
แต่ฝนตกหนัก เลยไม่ได้ไป เซ็งเลย อดกินอีกตามเคย
กลับบ้านดีฝ่าา

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เจ็บอกแป๊บบบบบบ

ทำงานครึ่งวัน โดดงานไปหาหมอมา
ก็ไม่ได้ตรวจไรมากเลย
แค่หมอถามว่าเป็นไร อาการเป็นไง
เอาหูฟังมาแตะหน้าอก บอกให้เราหายใจแรงๆ
ทำประมาณ 4 รอบน่าจะได้
จากนั้นก็พาไปห้องฉีดยา
โอ เจ็บมาก ๆ
เพิ่งเคยฉีดตูดนี่แหละ ปวดตุ๊บๆ เลย
พยาบาลก็สวยดีนะ แต่มือหนักไปนิสสสสสส
ฉีดก็นาน เข็มก็อันเบ้อเร่อ เห็นแล้วใจไม่ค่อยดี

ได้ยามาสามถุง
กินแล้วง่วงดีแฮะ
หมอสั่งห้ามทำงานหรือยกของหนัก
นอนเยอะๆ
ก็อยากนอนอยู่นะ แต่......

หมอถามเราว่าเครียดป่าว ถึงได้มีอาการแบบนี้
เราเนี่ยนะ เครียด ไม่มี้ เราไม่เครียดไรเลย
ไร้สาระได้ทั้งวัน แต่........

ง่วง ไปนอนละ
อ่อ อย่าลืมกินยาก่อนนอนด้วย
ฝันดี *-*

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

จมมุม

ณ มุมใด..มุมหนึ่งของชีวิต..
บ่อยครั้งที่เรา..
มักพบเจอปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต
เกิดความสับสน..วุ่นวาย..
ทำให้เกิดความท้อแท้..สิ้นหวัง..

หากชีวิตของเรา..
มีมุมต่าง ๆ ให้แต่ละคนเลือกว่า..
จะอยู่มุมไหน..มุมใด..

มุมต่าง ๆ ในชีวิต
อาจมีได้หลายมุม..ตั้งแต่ ๒ มุมขึ้นไป..

มุมที่ว่านี้..
คือ..มุมอับกับมุมสว่างของชีวิต..
ที่เรียกว่า..มุมมืด..มุมสว่าง..

หลายคน..
คงได้พบเจอมุมมืดของชีวิตมาแล้ว..
ในยามที่เรา..ท้อแท้..สิ้นหวัง..หมดกำลังใจ..
ปราศจากแสงสว่างในชีวิต..
ชีวิตของเรา..ก็จะเป็นมุมมืดขึ้นมาทันที..

หากแม้นว่า..
ในท่ามกลางของมุมที่มืดมิดนี้..
มีใครสักคนที่จุดไฟ..แห่งกำลังใจ..ให้บ้าง
ก็จะสามารถช่วยให้เรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้..
แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม..

แต่จะมีใครจะรู้บ้างว่า..
ในช่วงเวลาที่เราอยู่ในมุมมืดของชีวิต
เราจะมีวิธีการค้นพบแสงสว่างได้จากที่ใด..

คำตอบก็คือ..
เราไม่ต้องไปแสวงหาแสงสว่างจากที่ไหนหรอก..
นอกจาก..มุมมืด ๆ ของที่ตรงนั้น..

ณ มุมมืดของชีวิต
เมื่อเวลาที่เรานั่งอยู่ในวงเวียนของความมืดมน
แม้เราลืมตาขึ้น..มองดู..
เราก็จะไม่มีวันเห็นสิ่งต่าง ๆ ในความมืดนั้นได้เลย

แต่ในทางตรงกันข้าม..
ณ มุมมืดของชีวิต..
หากเราลองหลับตา..
มองดูความรู้สึกภายในจิตใจของเรา..
เราจะพบแสงสว่างที่เกิดขึ้น..
จากความสงบในท่ามกลางของความมืดนั้น..ได้อย่างน่าเชื่อ..

บุคคลใด..
ที่มีจิตใจสับสน..วุ่นวาย..
แม้เขาจะยืนอยู่ในที่สว่างกลางแจ้ง..
ก็ไม่สามารถมองเห็นปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตได้..

แต่เมื่อใด..
ที่ใจของเขาผู้นั้น..สงบภายใต้ความมืดมิด..
แสงสว่าง..คือ..ความสงบจะบังเกิดขึ้นในจิตใจของเขา..
ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตของเขาก็จะคลี่คลายลง..
แสงสว่างแห่งปัญญาจะปรากฏขึ้นมาแทนที่..

what happen ?

มันเป็นวันไรอีกละเนี่ย
วุ่นวายกันมากกกก ถึงมากที่สุด
มาแจกหน้ากากกันที่ตลาด
ก็วุ่นวานสุดแสน
กลับเข้าสำนักงานก็ยังไม่วาย ที่จะมีแต่เรื่องวุ่นๆ กันอีก
หัวหน้าเกิดเป็นไรอีกเนี่ย
ย้ายโต๊ะย้ายเก้าอี้กันใหญ่
เบื่อนะ สถานการณ์แบบนี้
รู้สึกเซ็งๆ เบื่อๆ
ความจริงอยากจะลาพักบ้างนะ
อยากอยู่อย่างสบายๆ ไม่ต้องมีเรื่องปวดหัว
เซ็งอย่างแรง

แล้วเป็นไรอีกเนี่ย
เข้าห้องน้ำก็ดันประตูติดอีก ออกไม่ได้
ถ้าไม่เจอพี่โจอี้นะ ตายไปละ
ได้นอนเฝ้าห้องน้ำแน่ๆ เรา
ก็ทีคนอื่นเค้าก็เข้าเหมือนกันแล้วทำไมถึงเปิดได้ละ
พอเราไปเข้าแค่นั้นแหละ ดันเปิดไม่ได้
ตูละเซ็งงงงง

^^
วันนี้จะนอนแต่หัวค่ำเลย
รู้สึกไม่ค่อยสบาย
เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว
คงต้องหายากินแก้ไข้สักหน่อย
กัวจะเป้นหนักกว่าเดิม
ไม่ไหวแล้ว เพลียสุดๆ ไปเลย

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วันไรเนี่ย

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ วันหยุดสุดสัปดาห์
แต่มีคนเค้าบอกว่า 1 สิงหา เป็นวันสตรีไทย
นี่ก็เป็นเรื่องที่ดีนะ
สมัยนี้ผู้หญิงก็มีสิทธิเท่าเทียมทุกประการกับผู้ชาย

ดังนั้น.......
การหยิบยกประเด็นเรื่องกฎหมายมาพูด
จึงเป็นเรื่องที่สอดคล้อง
เพราะนับวันหญิงไทยได้เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
และสังคมมากยิ่งขึ้น
จนอาจกล่าวได้ว่า ในปัจจุบันแทบไม่มีข้อแตกต่างระหว่างหญิงกับชายแล้ว

แต่บางครั้งก็ยังมีข้อเหลื่อมล้ำบ้าง ที่ต้องแยกแยะว่า
เนี่ย ของผู้หญิง แล้วเนี่ย ของผู้ชาย
มันก็ยังมีข้อแตกต่างให้เห็นอยู่บ้างแหละน้าาาาาาาาา

ว่างๆ ไม่ได้ตื่นสาย เลย แหกตามาแต่เช้าละ
ทำงานบ้านอย่างใหญ่หลวง
ซักผ้า รีดผ้า กวาดบ้าน แต่ไม่ได้ถู เพราะขี้เกียจ
จาอาบน้ำให้น้องหมา แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยมีแดดเลย
คงต้องเพิ่งร้านอีกตามเคย
หมดตังอีกแย้ววววว เรา

พรุ่งนี้ทำงานอีกแระ น่าจะหยุดอีกสักสามวันนะ
ยังอยากพักอยู่บ้านต่อ จะได้สบายๆ ๆ ๆ
แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นดิ
พรุ่งนี้ยิ่งยุ่งไปใหญ่
จะมีการแจกหน้ากากในตลาดสดด้วย
เราก็ต้องไป เฮ้อออ ไม่อยากไปเลย แต่ขัดขืนไม่ได้
คงต้องก้มหน้าก้มตาไปกันต่อไป คิคิ
ทนเอาๆ

ปล. ไว้อาลัยแต่พี่บุญทิพย์ อารีโกเศศ
เป็นทั้งพี่สาว และพยาบาลผู้แสนดี ที่จากไปด้วยโรครุมเร้าชีวิต
ขอให้ไปสุคตินะคะพี่

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บรรยากาศบ้านย้ยแต้

เป็นภาพตัวอย่าง ที่ไปบ้านไอ้แต้มัน
ใช้มือถือถ่ายมาไม่กี่รูป แต่แบตดันหมดซะก่อน
ที่เหลือต้องรอภาพจากกล้องไอ้หน่อยมัน
ม่ายรู้ว่ามันจะส่งมาให้วันไหน
คงต้องรอไปเรื่อย ๆ
หรือต้องทวงไปอีก จนกว่ามันจะให้มา
ไอ้นี่นะ มันต้องทวงชนิดที่ว่า
ทวงด้วยด่าด้วย มันถึงจะส่งมาให้
เพราะหล่อน งานยุ่งเหลือเกิน
หาตัวก็ยาก กว่าจะได้เจอกันที ต้องรอแล้วรออีก
บางทีรอเป็นวันสองวัน กว่ามันจะมาตามนัด
ไอ้เพื่อนบ้านี่นะ
แต่ก็รักมัน
เพื่อนเก่า เพื่อนแก่ คิคิ


ดอกไรไม่รู้คะ สวยมาก ๆ
เต็มถนนสองข้างทางเลย อะ

เหมือนดอกทานตะวันเลย


นี่ยิ่งสวยใหญ่
แต่ดอกมันเล็ก คล้ายๆ ทานตะวัน
เมล็ดก็เล็กๆ
สงสัยทานตะวันจิ๋ว



นี่เลยขอนำเสนอ
แมงปอปีกบางๆ บินกลางท้องฟ้า
ใครตาไม่ค่อยดี
ต้องเพ่งกันหน่อย
เพราะเห็นไม่ค่อยชัด
แต่ของจริงสวยมาก ๆ
เพราะบ้านเราไม่มีให้เห็นแบบนี้แล้ว
สวยมาก