วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554

เหตุใดโลกทุกวันนี้จึงรุ่มร้อน

ถาม เพราะเหตุใดโลกทุกวันนี้จึงรุ่มร้อน มีแต่จะแก่งแย่งชิงดีกัน

รบราฆ่าฟันกันตลอดเวลา แม้ธรรมชาติก็พลอยเป็นใจ

ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล หรือเวลาตกก็ตกเสียจนเกินพอดีจนน้ำท่วมเป็นต้น

ผู้คนล้มตายกันทีละมากๆ ด้วยภัยนานาประการ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น


ตอบ ในเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า

เมื่อใดที่คนในโลกเป็นคนมีศีลธรรม โลกนี้ก็สงบร่มเย็นเป็นสุข

แม้ธรรมชาติก็อำนวยแต่ประโยชน์สุขทุกอย่าง

แต่เมื่อใดที่คนในโลกมีอกุศลหนาแน่น

เมื่อนั้นโลกนี้ก็จะร้อนเป็นไฟด้วยอำนาจของอกุศล

ทำให้เกิดการรบราฆ่าฟันกันทั่วไป และเมื่อถึงกลียุค

คนก็จะเห็นกันว่าเป็นสัตว์

ไม่คำนึงว่าใครเป็นพ่อเป็นแม่เป็นพี่เป็นน้องเป็นญาติมิตร

จะจับอาวุธเข้าฆ่าฟันกัน


ดังที่ผู้ใหญ่ท่านเรียกว่าเป็นแดนมิคสัญญี

ปัจจุบันนี้ก็เริ่มๆ จะใกล้ยุคนั้นเข้ามาแล้ว

เพราะดูผู้คนโหดเหี้ยมผิดปกติ แม้แม่ก็ฆ่าลูกได้ง่ายๆ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็หนีไม่พ้นเรื่องของกิเลสอกุศลไปได้

เพราะยิ่งกิเลสหนาแน่นเท่าไร ผู้คนก็ขาดศีลธรรมมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อผู้ใดไม่มีศีลธรรม สิ่งร้ายๆ ทั้งหลายก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

แม้ธรรมชาติก็พลอยซ้ำเติมให้ทุกข์ยากลำบากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้เพราะอกุศลวิบากของคนเหล่านั้น

จึงทำให้ได้รับแต่สิ่งที่ไม่เจริญใจ

จะนับว่าเป็นกาลวิบัติก็เห็นจะไม่ผิด

เพราะทุกอย่างแทบจะวิบัติไปหมดสิ้น


สรุปว่า ไม่ว่าคนหรือธรรมชาติที่ผิดปกติอยู่ทุกวันนี้

เพราะผู้คนในปัจจุบันส่วนใหญ่มีอกุศลหนาแน่นนั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น: