วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

555 ขำ ขำ

เหอะๆ  ไปเฝ้าแม่โรงบาลรอบนี้ ขำ ขำ
แม่ป่วยเข้าโรงบาลสองรอบ ในเดือนเดียว
แต่ตอนนี้หายดีละ  ไม่ดิ  จะให้หายขาดคงยาก
แต่อาการโดยรวมก็โอละ
กับมาอยู่บ้านแว้วววว  สบายใจละ

เมื่อคืนก็เป็นอีกคืนที่นอนเฝ้าแม่อยูี่่โรงบาล
ด้วยความที่เราเพลียมาก ๆ นอนแต่หัววัน
แม่ก็นอนอีกอย่างวันนี้ไม่มีใครมาเยี่ยมแม่ด้วย
เราเลยได้นอนกันเร็ว
อย่างว่าแหละนะ  นอนเฝ้าคนป่วยในโรงบาล
ไม่ค่อยไ้ด้นอนดีหรอก
เพราะจะมีพยาบาลเข้ามาตรวจมาเช็คนั่นตลอด
เดียวก็วัดความดัน เดียวก็วัดไข้  ทุกสองชั่วโมง   ทำกันไม่ได้นอนซะงั้น
และแล้วเราก็ต้องตื่นมาตอนตีสองกว่าๆ
เพราะแม่ได้ยินเสียงคนเปิดประตู นึกว่าเป็นพยาบาลมาวัดไข้
แต่แท้จิงแล้ว เป็นชายคนหนึ่ง  ตัวใหญ่ทะมึงตึง ตาโตๆ
ใส่เสื้อคนป่วย แล้วก็แพมเพิต ไม่สวมกางเกง  ซะงั้น
แม่ลุกขึ้นมาแล้วก็ถามว่ามาทำไม  เข้าห้องผิดหรือป่าว
ถามประมาณสามครั้ง  ผู้ชายคนนั้นถึงจะตอบ แม่ก็เรียกเราให้ตื่น
ไอ้เราก็งัวเงียซะตื่นมาก็ต๊กกะใจ  และแล้วก็ตะโกนมาว่า  ผีหลอก  
โดนแม่ด่าเลยซิ  ว่าทำไมไม่มีสติซะขนาดนี้
นี่มันคนนะ  ไม่ได้เป็นผี  เป็นโจรป่าวก็ไม่รู้เข้ามาในห้องดึกๆ ซะ
แล้วผู้ชายคนนั้นก็บอกแม่ว่า เข้าห้องผิด แล้วก็เดินออกไป
อ้าว เราก็เลยรีบตามออกไป แต่หาไม่เจอ  เลยรีบไปบอกพยาบาล
เล่าให้ฟังอย่างละเีอียด  แล้วพยาบาลก็บอกว่า เค้าเป็นคนป่วยที่สติไม่ค่อยดี
เค้าจะเบลอๆ  จำไรไม่ค่อยได้  เลยเดินเข้าห้องผิดๆ  ถูกๆๆ
อ่อ  เข้าใจละ  เค้าป่วย  แล้วที่เราเห็นละ   5555  โคตรๆ ขำซะ
ตะโกนไปซะดังว่าผีหลอก  เค้าแตกตื่นกันทั้งโรงบาล
ก็ใครจะไปรู้ละ  มายืนทำตาโตๆ  อยู่หน้าประตูตอนตีสอง
กางเกงก็ไม่ใส่  นึกว่าผีอะดิ
อูยยยยย   แต่ถ้าใครไม่เจอก็ไม่รู้หรอกนะ  ว่ามันน่ากัวมาก
จิงๆ   สายธารโดนผีหลอก
555  สรุปไม่ได้นอนทั้งคืน  ก็มัวแต่ตกใจกะผีนี่แหละ

สายๆ มาพยาบาลเข้ามาคุยด้วย แล้วอธิบายใหญ่ซะ ว่าไม่มีผีหรอก
อย่าได้กลัวไปเลย  ขอโทษแทนคนป่วยด้วยเค้าสติไม่ดี
ไม่เป็นไรค่ะ  ให้อภัย  แต่ตกใจเฉยๆ  คิดว่าเป็นผี  หุหุ

ปล.  เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นโรคกัวผีขึ้นสมองเลยเนี่ย

เหนื่อย

หายไปซะนาน
กับมาแบบสะบักสะบอม
เหนื่อยซะไม่มี
แต่ก็สู้ไหว อยู่แว้วววว
เพื่อแม่ เข็มไหวอยู่แร้ว
เหนื่อยอย่างอื่นซะไม่ว่า
เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่
แต่เหนืีอยใจนี่ซิ  ยากเกินบรรยาย

วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

แค่นี้เอง ทำได้อยู่ละ

1. จริงอยู่ ที่มิตรภาพความเป็นเพื่อนไม่มีวันหมด แต่คุณอาจลืมไปว่ามันเปลี่ยนแปลงได้

2. เมื่อคุณตระหนักว่า ไม่มีใครช่วยคุณ ในเวลาที่คุณมีความทุกข์ ไม่มีใครดีใจอย่างจริงใจกับคุณ ยามเมื่อคุณมีความสุข เมื่อนั้นคุณเรียนรู้ที่จะหาเพื่อนแท้ให้กับชีวิตคุณได้แล้ว

3. อดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ปล่อยความเจ็บปวดความทรมานที่ได้ประสบ ผ่านไปกับอดีตด้วย

4. อย่าละเลยและเพิกเฉยต่อคนที่คุณชอบพอ เพราะมัวคิดว่าปล่อยให้ความสัมพันธิ์ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ชีวิตคนเราแสนสั้นนะคุณ จะตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้

5. คุณไม่ได้ตายจากความเจ็บปวดในชีวิตที่ผ่านมา แต่มันทำให้คุณเข้มแข็งขึ้น

6. อย่าให้ชีวิตขึ้นกับคนอื่น เพื่อทำให้คุณมีความสุข

7. ชีวิตแต่งงานและครอบครัว เป็นเรื่องที่สำคัญ จงอย่ารีบร้อนในการตัดสินใจ

8. แสดงความชื่นชมกับคนที่คุณรักและห่วงใย ในทุก ๆ วัน ไม่ใช่แค่วันหยุดหรือวันเกิด

9. ผู้คนผ่านเข้ามาในชีวิตของคุณ ทั้งด้วยเหตุผลและด้วยโอกาส ซึ่งนำพาทั้งความสุขและบทเรียนมาให้คุณ

10. เมื่อใดก็ตามที่ผิดหวัง จงมองโลกในแง่ดีเข้าไว้



ป.ล.

•....ถ้าคุณยืมมา (จงคืน)

•...ถ้าคุณทำพัง (จงซ่อม)

•........ถ้าคุณรู้แล้ว (ปล่อยมัน)

•....ถ้าคุณต้องการ (ร้องขอ)

•...ถ้าคุณใช้ (ทำให้สะอาด)

•..ถ้าคุณใส่ (แขวนไว้ที่เดิม)

•.........ถ้าคุณทำผิดพลาด (แสดงความรับผิดชอบ)

•.....ถ้าคุณเชื่อ (คุณจะประสบความสำเร็จ)

•...ถ้าเป็นเจ้าของ (จงปกป้อง)

•.......ถ้ามี (จงแบ่งปัน)

♥.....ถ้าคุณรักใครสักคน (จงแสดงออก)....♥

น่าสงสาร

คนบางประเภทมีอำนาจแต่ไม่มีบารมี
ช่างเป็นคนน่าสงสารเสียจิงๆ ๆ
อำนาจมีอยู่ในมือแท้ๆ  แทนที่จะทำให้เกิดประโยชน์
กับทำให้เป็นโทษกะตัวเอง
คนเรานี่ก็แปลกนะ   คิดว่าตัวเองใหญ่คับฟ้าหรือไง
มันก็แค่โขนสวมบนหัวก็เท่านั้นแหละ
คุณคิดว่าคุณใหญ่แล้วเหรอ
จะด่า จะว่าใครก็ได้  เหอะๆๆๆ  น่าสมเพชจิงๆๆ
ใช้อำนาจไม่ถูกที่

ทำไรช้านต้องบอกคุณทุกอย่างเหรอ
ไม่หรอกมั้ง จะบ้าตาย
พวกบ้าอำนาจ
ไม่เป็นไร  ยกไว้ซะคน
ถือซะว่า คุยกะคนบ้าละกัน
เหอะๆๆๆๆ
อโหสิกรรมให้ จะไม่โกรธไม่เคือง
แล้วก็แล้วต่อกัน
แค่นี้แหละ

[Offcial Audio] เช้า : scrubb

วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555

นรกสวรรค์ของพ่อแม่อยู่ที่ลูก





กับมาหน่อยสติสตัง เข็มเอ๋ย

เออ  เป็นไรวะ เบลอๆๆๆ
วันก่อนเดินอยู่ดี ๆ  ตกท่อซะงั้น
ไ่ม่ดูตาม้าตาเรือซะมั่งเลยนิ
ไม่ได้ใจลอย หรือเหม่อไรทั้งนั้น
เพียงแค่มองไม่เห็น ท่อระบายน้ำต่างหาก
ไม่ได้มองข้างล่าง มองแต่ข้างหน้า
ผลก็คือ เดินตกท่อ  555  ขำตัวเองวะ
ได้ของแถมก็คือ  ขาบวม ช้ำ  เป็นสีม่วงเลย

วันนี้ก็อีก  อาบน้ำแต่งตัวแล้วไม่ยักกะดูปฏิทิน
555  วันนี้วันพระค่ะ
สายธาร ใส่ชุดสีกากีซะเต็มยศ  เหอะๆๆ
สติ นี่ไม่มีเลยนะ
สักแต่ว่าวันจันทร์ใส่กากีก็พอละ ไม่สนเลยปฏิทิน
ผลก็คือ ใส่ไปคนเดียวในห้อง
เลยได้กับมาเปลี่ยนใหม่ที่บ้านอีก

อุตส่าห์ลางานไปทำสมาธิ  ไหงกับไม่มีสมาธิซะงั้นยัยเข็ม
เป็นไรมะรู้ มันบอกไม่ถูกเลยนิ
แถมรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวอีก  กะว่าไข้จะกับอีก
อย่านะ  ยังไม่อยากเป็นไข้หนา  เพิ่งจะหายไปยังไม่ขาดเลย
ไม่อยากกินยาอีกนะ
เฮ้อออ   คราวหลังก็หัดดูซะมั่ง ปฏิทินนะี
แล้วทำไงก็มีสติตลอด
จะได้ไม่ต้องเสียเวลากับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านอีก
เปลืองน้ำมันรถ  เข้าใจมั้ย


แต่ว่าวันนี้เบลอๆ ๆหนา
กะว่างานจะแยะไปหน่อย
ก็คงงั้น ลาไปซะหลายวัน กับมาทำงานแทบไม่เป็น
ขี้ค้านสุดๆ  เลยนิ
หยังมาก่ายแต้น่อ

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ภาคสาม ของการปฏิบัติธรรม

อยู่ในสถานที่ปฏิบัติธรรมหลายวัน
ขาดการติดต่อทางโลกไปเลย
ไม่มีสัญญาณโทรศํพท์ มีบ้าง ไม่มีบ้าง ขาดๆ หายๆ
ไม่มีโทรทัศน์ดู  ไม่มีวิทยุฟัง
มีแต่ป่า  ป่า  ป่า
มีแต่เสียงจิ้งหรีดร้อง  มีแต่เสียงนกร้อง
และระหว่างการทำสมาธิก็จะได้ยินเสียงของลูกเดื่อตกตลอด
ยังกะเสียงฟ้าร้อง ดังไม่ขาดสาย ตกใจเป็นระยะๆ
ไอ้เรายิ่งตกใจง่ายอยู่ด้วย เหอะๆๆ  สมาธิมีแบบขาดๆ  หายๆ  เหอะๆๆๆ

สถานที่แห่งนั้นสอนให้เรารู้ว่า
ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนั้น เหมือนกันหมด
เท่าเทียมกันหมด ไม่มีใครเก่งไปกว่าใคร
ไม่มีใครต่ำต้อย หรือด้อยค่าไปกว่าใคร
ทุกคนเท่าเทียมกัน  ไม่ว่าจะฐานะ เงินทอง
ชาติตระกูล  หรือจะยศฐาบรรดาศักดิ์
เมื่อเข้าไปอยู่ในที่แห่งนี้ ทุกคนคือผู้ปฏิบัติธรรม
คนทุกคน เท่าเทียมกัน
ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุขทั้งหลาย
ทุกคนใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน
ผู้หญิงใส่แค่ผ้าถุงสีขาว  ใส่เสื้อสีขาว
ผู้ชายก็กางเกงขาวเสื้อสีขาว
ไม่ต้องมาคอยนั่งคิดว่า วันนี้จะใส่เสื้อแบบไหน ยี่ห้ออะไร
ก็ดีนะ ถ้าทุกคนคิดได้แบบนี้


วันๆ  ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวภายนอก
สอนให้รู้แค่ว่า เราต้องมีสติกับเรื่องที่เราทำอยู่
ทำอะไรอยู่  ให้มีสติตลอด
แล้วเมื่อกับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจิง
เราก็ต้องมีสติกับมัน
คิดก่อนทำเสมอ จะทำอะไรก็ต้องมีสติ

สรุป  จะทำไรต้องมีสติ  สติ  สติ

ภาคสอง ของการปฏิบัิติธรรม

การที่ได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ
เพราะบางคนไปได้แค่ไม่ถึงครึ่งวัน
เค้าก็แอากลับบ้าง  แอบหนีไปนอนบ้าง
เพราะเค้าเคร่งครัดในเวลามาก
ต้องปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด
คนที่ไม่ไหวจิงๆ  เค้าก็ไม่ได้โกรธได้ว่าไรหรอกนะ
แต่เค้าจะแนะนำให้ไปอยู่ในอุโบสถเพื่ี่อฝึกทำ
หรือเรียกง่ายๆ ว่าขัดเกลานิสัย 555

เพราะตอนที่เราไปเนี่ย มีเด็กๆ  หลายๆคน เค้าก็ไป
แต่เวลาปฏิบัติจิงๆ  น้องเค้าไม่ไหวทำไม่ได้
นั่งคุยกันบ้าง นั่งเล่น พุบหลับบ้าง
คุยโทรศัพท์ไม่ได้ก็จิงนะ  เพราะไม่มีสัญญาณ
ก็จะเล่นเกมในมือถือซะงั้น
คนที่เค้าสอนปฏิบัติธรรมก็เลยส่งตัวให้ไปอบรมเป็นการใหญ่
มีสามคน  ที่อดทนไม่ไหว เลยแอบหนีกลับบ้านไปก่อน
น้องเค้าคงไม่ไหวจิงๆ แหละเลยขนข้าวของกับบ้านก่อน
เสียดายจิงๆ
ความจิงเราก็ไม่ไหวนะ
การทำสมาธิของเรา ไม่ค่อยดี
เราทำวิปัสสนาได้ไม่นานเราก็เมื่อย ก็ล้า
ไม่เหมือนคนอื่นๆ  ที่เค้าทำกัน
แต่ท่านแม่ชีบอกว่า เรามาครั้งแรกได้ขนาดนี้ก็ดีแล้ว
ท่านบอกว่า ดีแล้วที่เราไม่หนีกับบ้านก่อน  555
นู๋ไม่กับหรอกค่ะ  เพราะตั้งใจมาแล้ว อุตส่าห์ลางานมานะเนี่ย  คิคิ
ไว้จาหาโอกาสไปใหม่อีกนะคะ

กับมาแว้วววว

กับมาแว้ววว  หลังจากหายไปซะนาน
ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกนะ  เพียงแค่หลบไปทำสมาธิมา
ได้ไปปฏิบัิติธรรมมาแล้วรู้สึกดีจัง
เสียดายได้ไปแค่ไม่กี่วัน เพราะสภาพเราไม่เือื้ออำนวย
ความจิงสถานที่เค้าโอเคทุกอย่าง
แต่ร่างกายเราไม่พร้อม ใจเรายังไม่พร้อม
ครั้งแรกของการไปปฏิบัิติธรรม  ไม่มีวันไหน ผื่นไม่ขึ้น
เพราะที่นั้น มีแต่ป่า ป่า  ป่า แล้วก็ป่า  ฉะนั้น  ตัวหนอน ตัวบุ้งเยอะมาก
เรายิ่งเป็นคนแพ้ตัวบุ้งตัวหนอนอยู่แล้ว คันมันทั้งวัน
ผื่นขึ้นทั้งตัวเลย  ทำใจไม่คันได้แค่แป๊บๆ  ก็ต้องหยุดมาเกาอีก
โอยจะบ้าตาย ยาแก้แพ้ก็ไม่ได้เอาไป  อยากจะตายซะให้ได้
แต่ยังดีนะ ไม่ขึ้นหน้าเรา  เหอะๆๆ  ขึ้นเฉพาะตัว กะขา
เฮ้ออ  คิดแล้วสยอง   คันมากกกก

โอกาสจะได้ไปปฏิบัติธรรมหาได้ไม่ง่ายนะ
นี่ลงทุนลางานไปเลยนะเนี่ย
พาแม่ไปด้วย
ต้องหาโอกาสไปใหม่อีก
คุยกะน้องเมย์ไว้ละ  ว่าเราจะไปกันเดือนละครั้ง ๆ ละ สามวันก็ดี
มีคนไปปฏิบัติธรรมเยอะกว่าที่เราคิดซะอีก
มีคนไปเป็นร้อยๆ   โอ  เยอะมาก
ก็ดีนะ สถานที่เค้ากว้างใหญ่  มีที่นอนเพียงพอกับผู้ปฏิบัติธรรม  มีห้องน้ำ เป็นร้อยๆ  ห้อง
อยู่ที่ไหนก็มีห้องน้ำ  เพราะเค้าจะไม่ให้คนปฏิบัิติธรรมเสียเวลาในการเดิน การทำสมาธิเลย
จะมีห้องน้ำอยู่ใกล้ๆ ตลอด  ขนาดหอประชุม  หอฉันท์  ยังมีห้องน้ำเลย
แถมมีชนิดที่ว่า  โห  นี่หรอ  สถานที่ปฏิบัติธรรม  นึกว่า มหกรรมงานแสดงห้องน้ำ
เพราะห้องน้ำแยะมาก   ส่วนหอนอน ก็ให้นอนรวมกัน ห้องละสิบคน
มีที่นอนให้หมด แถม ในห้องนอนก็มีห้องน้ำ สองห้อง  อีก
อะไรจะห้องน้ำแยะขนาดนี้
ห้องนอนก็เยอะมาก  มีหลายห้องเลย
เพียงพอสำหรับคนเป็นร้อยเป็นพันคน

การปฏิบัติธรรมครั้งแรกของเรา  ยังไม่ค่อยดีเ่่ท่าไหร่
จิตใจยังวอกแวก  ยังปฏิบัติได้ไม่เต็มที่
ก็ด้วยตัวบุ้งกวนใจนี่แหละ  คันจนไม่เป็นอันทำไรเลย
ไปเย็นวันอังคาร ก็เริ่มรับศีลจากพระคุณเจ้า
แล้วก็มีแม่ชี เอ๊ะ  ไม่ิดิ  พี่เค้าก็มาปฏิบัติธรรมเหมือนกัน
ชื่อพี่น้ำ  มาสอนวิธีการปฏิบัติธรรมให้  น่ารักมากเลย
สอนทุกอย่างๆ  สอนจนหมดเปลือก
แต่เราก็ยังทำได้ไม่เต็มที่
เพราะร่างกายเรายังปรับตัวไม่ค่อยได้
รุ่งเช้าของการปฏิบัติธรรม  เช้าวันพุธ ตื่นตีสาม  ทำวัตรเช้า
แล้วต่อด้วยการเดินจงกรม แล้วก็นั่งวิปัสสนาจนถึงเจ็ดโมงเช้า
พักกินข้าว   แล้วพักสองชั่วโมง
เก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมง ไปนั่งวิปัินสสนา เดินจงกรม  ต่อ
พักกินข้าว  แล้วพักอีกสองชั่วโมง
บ่ายโมงถึงบ่ายสี่โมงเริ่มทำวิปัสสนาใหม่  
แล้วก็พัก แต่ไม่ได้พักกินข้าวเย็นนะ  555
เค้าให้กินแต่น้ำปานะ
แล้วก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัว
หกโมงเย็น ทำวัตรเย็น  แล้วนั่งวิปัสสนา เดินจงกรมต่อ จนถึง สามทุ่ม
แล้วเค้าปล่อยให้กับเข้าห้องพัก
เราดิ  วันแรกก็ทำเสียเรื่องละ  ดันหิวขึ้นมา
หยิบขนมมากินเฉยเลย  แม่ออกจากห้องน้ำบ่นไม่หยุด
เออออ  เราก็ลืมไปนิ  ว่าเรากำลังถือศ๊ลแปดอยู่ เค้าไม่กินข้าวเย็นกัน
เหอะๆๆๆๆ  เราเลยได้ไปขอขมา ทำทำสมาทานศีลใหม่
สูมาแต้ๆ  เต๊อะเจ้า  นู๋ไม่รู้จิงๆ   แล้วนู๋ก็หิวด้วยอะ
หลังจากวันนั้นก็เริ่มปฏิบัติตัวได้
ทำอย่างนี้ตลอดระหว่างการปฏิบัติธรรม
ตื่นตีสามนอนสามทุ่ม  อย่างนี้ทุกวัน
กับมาบ้านคราวนี้ จะลองทำเหมือนอยู่กะสถานที่ปฏิบัติธรรมนั้นให้ได้

ปล.  ขอให้เราทำไ้ด้นะ  และกับไปปฏิบัติธรรมอีกรอบ

วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เริ่มหายแล้ว

หลังจากที่ไอเป็็็นวรรคเป็นเวรมานานโข
ก็ได้ฤกษ์งามยามดีไปหาหมอ
เหอะๆ  ความจริงไม่ได้ตั้งใจไปหาหมอหรอก
แค่อยากจะไปเยี่ยมน้องที่เค้าถูกรถชนแล้วนอนพักอยู่โรงบาลแค่นั้น
แต่ไหนๆ ก็ไปละ จะได้ไม่เสียเที่ยว
ก็เลยหาหมอให้ตรวจสักหน่อย
ไปก็เย็นละ คนเลยไม่แยะ
หมอตรวจนั่นตรวจนี่
แล้วก็ส่งไปเอกซ์เรย์ปอด  บอกว่าไม่มีไรผิดปกติ
แต่นัดให้มาเอกซ์เรย์ปอดอีกรอบในวันที่ 9  เอ๊ะ!   ไงเนี่ยหมอ
สรุปว่ามันดีหรือไม่ดีละ  ให้เอกซ์ตั้งสองรอบ
เฮ้ออ  ใจคอเริ่มไม่ดีละ
ได้ยามากองใหญ่ ๆ เม็ดเป้งๆ  กินยามื้อหนึ่งจนอิ่มเลย
แทบจะไม่ต้องกินข้าว แค่กินยาแล้วกินน้ำก็อิ่ม 555
ไม่ได้ดิ  ต้องกินรองท้องหน่อย เดียวมันกัดกระเพาะ เค้าว่าอย่างนั้นนะ

กับมาบ้าน แม่ต้มน้ำฟ้าทะลายโจรให้กินอีก
โอพระเจ้า  อย่างขมเลย
ต้มไม่น้อยเลยนะ
กรองแล้วได้สองขวดลิตรใหญ่ๆ
ปาดกินไปบีบจมูกไป  แทบจะอ๊วก
ขมมากกกกก

วันก่อนก็ให้กินไรอะ
ขิงซอย กะน้ำผึ้ง โอ เข้ากันๆ
กินไปได้สักพัก  ยัยเข็มเอ้ยยยย
อ๊วกออกหมดเลย
สรุปไม่กินยา
กลางคืนไอทั้งคืนไม่หยุด

วันนี้เริ่มใหม่  กินยาที่หมอให้มา  กะกินน้ำต้มฟ้าทะลายโจร
อร่อยมาก  พยายามทำใจกินให้ได้
รู้สึกว่าหายใจคล่อง  กลางคืนนอนไม่ไอบ่อยละ
แต่ง่วงตลอดเวลา  ตาปรือๆๆ  ทั้งวัน
สองวันมานี่แล้วซินะ ที่กินยาชุดใหม่แล้วนอนกลางวัน
นอนมันในห้องเจ้านายนี่แหละ
ปิดประตูเปิดแอร์นอนซะ  555  เลขารองฮิม  จัดไป
ก็ง่วงอะ  กินข้าวกินยา  ตอนเที่ยงแล้วยาออกฤทธิ์ได้เรื่องเลย
หาที่นอนให้ขวัก  555  นอนมันในห้องเจ้านายนี่แหละ
ดีนะเจ้านายไม่มา

วันนี้วันที่สาม  ไม่ยักกะไอแล้ว แต่ก็ัยังมีบ้างเล็กน้อย
ไม่มากเหมือนที่ผ่านมา

เย้ เย้ๆ  ดีใจจัง หายแล้ว
สรุป  ไม่รู้ว่าหายเพราะยาหมอ  หรือว่าน้ำฟ้าทะลายโจรของแม่
แต่แม่บอกว่า เพราะน้ำแม่ต้มให้กินต่างหาก
คร้าาาคุงแม่  ของเค้าดีจิง
สมุนไพรพื้นบ้าน  ดีอยู่แล้ว

วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

มีงี้ด้วยเหรอ

เพิ่งรู้ว่าเป็นพระแล้วร้องเพลงได้  หรอ.....
อันนี้ไม่รู้จิงๆ  
แล้วทำไมไม่สำรวมกิริยาละเนี่ย
งงอะ
นั่งฟังเพลงในรถของน้าเรา  แล้วบอกว่าเพราะดี
ขอแผ่นเพลงซะงั้น
แปลกอะ  อย่างงง
ไปรับพระมาสวดเทศฟังธรรมให้อุ้ยยืน
น้ายาเปิดซีดีเพลงอะไรสักอย่างนี่แหละ
เพราะดี  ตุ๊ลุงชอบ  คลอเพลงตลอดทาง
ขากลับไปส่ง ฝากบอกก๊อปให้ตุ๊ลุงแผ่นนะ
อยากได้ไปฟัง เพราะดี เอออซะงั้น
น้ายากัวลืม เลยยกแผ่นนั้นให้ไปเลย
555
ขำอะ

ทุกฟีเจอร์ iPhone 5 ใหม่ อย่างเป็นทางการ



อยากได้ๆๆๆๆ