วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

"กำลังใจคือพลังสำคัญ"

บ่อยครั้งที่ชีวิตคนเรา..มักจะพบเจอกับเรื่องเศร้า..เคล้าน้ำตา
ปัญหาที่เข้ามา..ประหนึ่งพายุฤดูร้อน..ถาโถมเข้าใส่..ลูกแล้วลูกเล่า..
ชีวิตก็อาจจะเหนื่อยล้า..และบอบช้ำเหมือนดอกไม้กลีบบาง
ไม่อาจต้านทานซึ่งแรงลมได้
ดอกไม้กลีบบางดอกนั้น..ก็ย่อมบอบช้ำ..และร่วงโรย
เปรียบเสมือนชีวิตที่หมดสิ้นเรี่ยวแรงและกำลังใจ..

แต่หากเข้าใจได้ว่า..
"ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาร่วงโรย
ไม่ช้านานก็จะมีดอกใหม่ผลิบานสะพรั่ง
ดวงอาทิตย์ที่มืดมิดลาลับหลังแนวไม้
รุ่งขึ้นก็จะฉายแสงขึ้นมาใหม่เหนือแมกไม้เหล่านั้น

ดังนั้นคนที่มีความคิด
ต้องรู้เท่าทันว่า
โลกนี้ไม่มีความเศร้าหมอง
หรือความทุกข์ทรมานที่ยาวนาน"

"ขอชีวิตงดงามตามความฝัน
ขอทุกวันเป็นวันอันสดใส
ขอทุกก้าวเป็นก้าวย่างที่มั่นใจ
ขอวันใหม่ก้าวไกลไปกว่าเดิม"

กำลังใจจากใครสักคน ในวันที่ท้อแท้และสิ้นหวัง..ทำให้เรารับรู้ได้ว่า..

"กำลังใจคือพลังสำคัญ"

ที่จะผลักดันให้เราก้าวเดินไปข้างหน้า..อย่างมีจุดหมาย
ตราบใดที่เรายังมีคนคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ
คอยเป็นแรงผลักดันให้เรารู้สึกมีพลังและมีความรู้สึกอยากลุกขึ้นสู้เพื่อวันพรุ่งนี้และวันต่อ ๆไป

สุดท้ายวันปิดปีงบประมาณ

เป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณ 2551
สุดแสนจะวุ่นวาย
ทุกอย่างต้องให้เรียบร้อยภายในวันนี้
ไม่ว่าเรื่องเงินๆ ทองๆ เบิกจ่ายทุกอย่าง
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ใบเสร็จรับเงิน กว่า 50 ฉบับ
รวมเงินได้ก็ประมาณ 2-3 ล้านเนี่ยแหละ
ต้องเคลียให้เสร็จ ซึ่งห้องคลังมีกำหนดให้ส่ง
ภายในวันนี้ ไม่เกิน 4โมงเย็น
ไม่งั้นถือว่ามีความผิดทางวินัย
โอ วุ่นวายมากๆ
อยากจะมีมือสักสิบมือ
ทำอะไรก็ไม่ทัน
หาเอกสารกันให้วุ่น
เก็บดีเกินไป หาไม่เจอ
555
ตลกตัวเองอีกแล้ว
ไม่รู้เอาใบเสร็จอีกเล่มไปเก็บไว้ไหน
ค้นไปค้นมา ดันเจออยู่ในกล่อง
ขอบคุณฟ้าคะ ที่ยังหาเจอ
ไม่งั้น โดนสอบแน่ๆ

ที่ซวยไปกว่านั้น
ก็ขับรถไปจ่ายเงินค่าไฟฟ้า ดันเกือบโดนรถชน
ไม่รู้เป็นไงนะ รู้สึกใจคอไม่ค่อยดี
ตั้งแต่ขับมอไซด์ออกไปแล้ว
ปวดหัวเหมือนจะเป็นไข้
ไม่ทันมองรถ นึกว่าไม่มี
ที่ไหนได้ ขับมาด้วยความเร็วสูงมาก ถึงมากที่สุด
พี่เขาแตะเบรคล้อหมุนเลยคะ
ดีนะที่เบรคได้ทัน
แต่ตัวเรานะ ตกใจทำไรไม่ถูก ยืนจอดรถอยู่เฉยๆ พูดไม่ออกคะ
พอได้สติ ก็รีบขอโทษพี่เค้าเป็นการใหญ่
โอยๆ ดีนะ ไม่เป็นไร แค่ตกใจเฉยๆ
นึกว่าจะได้ไปนอนอยู่โรงบาลซะแล้ว

*-*
โชคดีนะ ที่ยังมีลมหายใจอยู่

เยาวชนของชาติ

เมื่อคืนกำลังนอนหลับปุ๋ยสบายอารมณ์
ต้องตื่นมาเพราะเสียงดังของวัยรุ่น
เด็ก ม.ราชภัฏ คงจะไปดูคอนเสริตอะไรสักอย่าง
ในมอมากแน่ๆ แล้วก็คงจะเมากันเป็นปกติ
แต่ที่ไม่ปกติ ก็คือ มีการตะโกนเสียงดัง
แถมเสียงมอเตอร์ไซด์ ก็ดังก้องไปหมด
เหมือนกับไล่ฆ่ากันประมาณนั้น
ก็ต้องตื่นมาคะ ไม่ตื่นก็ไม่ได้แล้ว เพราะเสียงดังมากๆ
เปิดหน้าต่างดูไปข้างถนน
โอ ไล่ตีกันจริงๆ ด้วย
ถือมีด ถือไม้ ยังกับซามูไร ในหนังยังไงยังงั้นแหละ
น่ากลัวนะ เนี่ย
เนี่ยเหรอ เยาวชนของชาติ
แม่พ่อส่งมาเรียนหนังสือ ยามว่างไม่มีไรทำ
ก็ไปดูคอนเสริตหรือไม่ ก็กินเหล้ากันเมามาย
ทะเลาะกันเสียงดัง
ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหล้ามันมีดีอะไรนักหนา
ถึงชอบกินชอบดื่มกันนัก
น่าจะเอาเงินไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นมากกว่านี้
สงสารคนส่งเสียจริงๆ เลย
ถ้าใครมาเห็นเหตุการณ์อย่างที่เราเห็นเมื่อคืนนี้
คงเป็นภาพที่น่าเวทนาซะเหลือหลาย

แล้วอย่างนี้ อนาคตของชาติในภายหน้าจะเป็นยังไงน้อ
ไม่อยากคิดเลย

t-t
ไม่ช่ายเรื่องที่ดีเลยนะเนี่ย

วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551

ชมวัดโบราณ+วัดใต้น้ำ







สวยมากๆ นะ กว่าจะเดินมาถึงวัดเนี่ย ขาแทบลาก บันไดสูงเกิน

ด้านล่างมีปลาแยะไปหมด สงสาร ไม่ค่อยได้กินอาหาร ผอมโซ

กำลังกราบพระขอพร ขอให้มีแต่ความสุข 5555



ถ่ายจากจุดกึ่งกลางของวัด แล้วมองไปด้านล่าง สูงมากๆ
แต่ไม่กล้ามองอะ กลัวตก

วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2551

"ฟ้าหลังฝน" ย่อมสดใสเสมอว่ามั้ย

อันตรายที่สุดของชีวิตคนเราคือ การคาดหวัง
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
เหตุผลขอคนๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่เหตุผลของคน อีกคนนึง
ถ้าคุณไม่ลองก้าว คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า ทางข้างหน้าเป็นอย่างไร

ปัญหาทุกอย่างล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป
หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง ..

คนเราไม่ต้องเก่งไปทุกอย่าง
แต่จงสนุกกับงานทุกชิ้นที่ได้ทำ ..
หัวใจของการเดินทางไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย
หากอยู่ที่ประสบการณ์สองข้างทาง .. มากกว่า

ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่า
แม้แต่คนโง่ที่สุดยังฉลาดในบางเรื่อง
และคนฉลาดที่สุดก็ยังโง่ในหลายเรื่อง ..
ไม่มีอะไรเสียเวลาไปมากกว่า

การคิดที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต
ไม่เคยมีอะไรช้าเกินไป
ที่จะทำใหสิ่งที่ตนฝัน ..
คนที่ไม่เคยหิวย่อมไม่ซาบซึ้งรสของความอิ่ม
ความสำเร็จที่ผ่านความล้มเหลวย่อมหอมหวานกว่าเดิม

Happy Birthday To Me

Happy Birthday ให้กับตัวเองคะ
แก่ขึ้นอีกปีแล้วซินะเนี่ย
ก็ยังดี ยังไม่ขึ้นเลข 3 5555
แต่อีกไม่นานเกินรอถึงแน่ๆเลย เรา
ไปทำบุญที่วัดมา รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
น้าสุดที่รัก โทรมาอวยพรแต่เช้าเลย
บอกว่าฝันถึงเรา
แล้วก็บอกให้ไปทำบุญด้วย
เพราะฝันไม่ค่อยดี
โอ ตื่นมาเช้าวันเกิด แต่ได้ยินเรื่องแย่ๆนิดๆ แล้ว
ไม่เป็นไร ไปทำบุญมาแล้วคะ สบายใจมาก
ปล่อยนกปล่อยปลา ปล่อยเต่า ปล่อยหอยอีกแยะเลย
เพื่อนโทรหาไม่ขาดสาย
ตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก นึกว่าจะไม่มีใครจำได้แล้ว
คิดไปคิดมา เราก็เป็นคนสำคัญอีกคนหนึ่งนะ 555
แต่ไม่สำคัญเท่าพ่อกับแม่ แล้วก็น้องชายสุดหล่อ (ตัวดำ)
ไม่ได้โทรหาหรอก แต่ส่ง sms มาให้
ดีใจอย่างบอกไม่ถูกคะ
ปกติแล้ว น้องชายจะจำวันเกิดของพี่คนนี้ไม่ได้นะ
ตั้งแต่จำความได้ มันไม่เคยจำวันเกิดของพี่สาวมันได้เลย
ทั้งๆ ที่เกิดเดือนเดียวกันนะ
ปีนี้มาแปลก แฮะ ดีใจคะ ที่จำได้
แถมบอกให้รีบๆ กลับบ้านด้วย
แต่ก็ไม่บอกเหตุผล ว่าทำไมต้องรีบกลับ
สงสัยมีเซอร์ไพร์แน่ๆ เลย
คิดเองไปก่อน

*-*
รู้สึกมีความสุขมากๆคะ ในวันเกิดปีนี้

ทั้งๆ ที่ยังมีปัญหาอีกมากมายที่เข้ามาในชีวิตตอนนี้
ปัญหาโลกแตกทั้งหลาย
เรื่องงานทั้งนั้นเลย
แม่ก็บอกให้ปล่อยวางซะบ้าง
เครียดนะ ไม่ช่ายว่าจะไม่เครียด สิวขึ้นตรึม
ตอนนี้นะ เต็มหน้าผากเลย
ไม่รู้ว่าจะหายเมื่อไหร่
กำลังพยายามอยู่

ไปเที่ยววัดโบราณในเมืองพะเยามาด้วย
แต่วันนี้กล้องน้องเอาไปถ่ายงานเลี้ยง
เลยไม่ได้เอารูปมาอวด
ไว้เสร็จจากงานเลี้ยงเมื่อไหร่
จะเอารูปมาฝากนะคะ
สวยมากๆ
บรรยากาศดี
แต่ดีในที่นี้ หมายถึง น่าจะไปนั่งสมาธิ วิปัสสนา
เพราะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีพระโบราณเก่าแก่อยู่มากมาย

สวยคะ
ชอบ ๆ นานๆ ได้ไปพักผ่อนซะที
สุขสันต์วันเกิดนะหนูเข็ม
คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนานะ

น้านนนนนน....
อวยพรให้กับตัวเองคะ

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551

กินข้าวฟรีอีกแล้วแระ

วันนี้ วันเกิดรองประสังข์
รองนายกคนใหม่คะ
มีแต่ผู้คนเอาของขวัญมาแสดงความยินดี
เต็มห้องไปหมดเลย
ถ้าวันเกิดเราจะมีมั้ยน้อ ....
ใกล้จะถึงแล้วเนี่ย แก่ขึ้นอีกปี
แก่ขึ้น แต่รู้สึกว่า ความคิดยังเหมือนเด็กอยู่เลย
แม่บอกเสมอ ว่าเราไม่โตสักที

นายพาไปเลี้ยงข้าววันเกิดคะ
อิ่มมากๆ
กลับมาถึงสำนักงานแทบจะหลับ
ตามันจะปิดซะให้ได้
ม่ายไหวๆ จริงๆ ขึ้นกินแบบนี้ทุกวัน
ต้องอ้วนตายแน่เลย

หนุกหนานคะ วันนี้
ไม่มีงานทำ
หัวหน้าประชุมกันหมด
เราก็นั่งจับเข่านินทาคนอื่นกับพี่ส่ง อ้ายกุ้ง 5555 เออ อ้ายแดงอีกคน

*-*
ไม่อยากออกไปข้างนอกเลย อากาศร้อนสุดๆๆ

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

เรื่องสิวๆ

หลังจากที่คร่ำเคร่งกับการอ่านหนังสือสอบ
5555 (ตลกพูดออกได้ว่าคร่ำเคร่ง)

สอบเสร็จสิวตรึมคะ
เต็มหน้าผากเลยอะ
หน้าโทรมมากๆ เบื่อจริงเลย
เมื่อไหร่จะหายก็ไม่รู้

*-*
ต่อไปนี้ต้องเปลี่ยนฟอร์มการทำงานใหม่หมด
ตายแน่ๆ หมดเงินค่าซื้อเสื้อผ้าใหม่อีกแล้ว
ม่ายไหวจริงๆ เลย
ช่วงนี้มีแต่เรื่องเสียเงิน
เฮ้อ...
เมื่อไหร่จะรวยคะ
*-*
5555
เดี๋ยวจะไปซื้อลอตเตอร๊
เพื่อจะถูกรางวัลที่ 1 กับเค้าบ้าง กิ้วๆๆ

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551

เคยคาดหวังอะไรไหม....

คงจะเป็นความจริง
เมื่อทุกสิ่งอย่างในโลกนี้ไม่มีสิ่งไหนที่จีรัง
คนโง่ ก็คือคนที่ยึดติด และคนฉลาดเท่านั้น
ที่จะรู้จักคำว่า ปล่อยวาง

เพราะคนเรา ไม่มีใครที่เราจะสามารถ
ควบคุมคนอื่นนอกจากตัวเองได้ทั้งหมด
และแม้แต่ตัวเราเอง ก็ยังมีบางครั้ง
ที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ในบางครั้ง
แล้วจะหวังอะไร ให้คนอื่นมาเป็นได้ในแบบที่เราต้องการ

เพราะฉะนั้น การยึดติดจึงเป็นสิ่งที่โง่มาก
เพราะมีแต่จะทำให้คนที่ยึดติดนั้น
เจ็บปวด กับความเป็นจริงที่ต้องเจอมากขึ้น

แต่หากเรารู้จักการปล่อยวาง
มองทุกอย่างให้เป็นเรื่องของธรรมชาติ จะนำพาไป
เมื่อเกิดปัญหาอะไร ให้มองเป็นเรื่องง่าย
และเข้าใจสัจธรรมชีวิตมากขึ้น
ว่าในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราไปตลอด
โดยที่ไม่มีวันสูญเสีย

เราจะสบายใจมากขึ้น หากวันหนึ่งต้องสูญเสียบางอย่างไป
เพราะนั่นคือสัจธรรม...มันคือหลักความจริง

การจะคบใครซักคนหนึ่งก็เหมือนกัน
หากเราคาดหวังจากใครซักคนมากเกินไป
คนที่จะเจ็บก็คือ "เรา" นั่นล่ะ
เพราะไม่มีใครในโลกนี้ ชอบการถูกบีบ
และถูกบังคับความรู้สึก ธรรมชาติคนเรา
เมื่อถูกบีบจนถึงชีดสุด มันก็เหมือนลูกโป่ง
ที่ต้องแตกออกมาในซักวัน และเมื่อถึงเวลานั้น
ก็จะมีแต่คนที่เจ็บ ...เจ็บกันทุกคน
ทั้งคนที่เรารัก หรือแม้กระทั่งตัวเราเอง

จงใช้ชีวิต อยู่บนความไม่คาดหวัง เพราะการถูกคาดหวัง
คือภาระที่หนักเกินไป ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็ตาม

555 ได้สอบอีกแล้ว แทบจะอ้วก

ออกห้องสอบมา แทบอ้วกเลย
ไม่ไหวคะ ภาษาไทยเยอะมาก
วิเคราะห์ทั้งนั้น
แต่คณิตศาสตร์ทำได้ทุกข้อเลยนะ
เก่งปล่าว ....

T_T
พูดจริงนะเนี่ย ทำคณิตได้
กลัวภาษาไทยนี่แหละ
เราอาจจะคิดว่าตัวเองทำถูกนะ
แต่คนแต่งข้อสอบ นะ จะคิดอย่างไรเราก็ไม่รู้
เค้าถึงได้ว่า "ภาษาไทยดิ้นได้"
ความจริง อ่าน พรบ.ไปแยะนะ
แต่ออกแค่ 10 ข้อเอง พระเจ้าช่วยกล้วยทอด
แต่ก็ทำได้อยู่

มาเสียตรงภาษาไทยนี่แหละ
ทำให้ความหวังช่างดูเลือนลางซะเหลือเกิน

นั่งรถกลับบ้าน พี่ๆ ในรถคุยจ้อซะ ว่าทำได้
มานั่งคิดในใจ ทำไมตูไม่ทำได้อย่างเค้าบ้างนะ
คิดแล้วสงสารตัวเองจริงๆ

แต่ไม่เป็นไร ความฝันอาจจะเป็นจริงก็ได้ ใครจะรู้
555

*-*
สาธุ ขอให้สอบผ่านทีเถอะคะ จะได้ไม่ต้องงมอ่านหนังสือหัวฟูอีก

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551

วันสุดท้ายสำหรับการเตรียมตัว

พรุ่งนี้ต้องสอบแล้ว
อ่านหนังสือพอใช้ได้คะ 555555
ความจริงจะว่าไปแล้ว
หนังสือจะอ่านเราซะมากกว่า
อ่านทีไร ตามันจะปิดจะให้ได้
แต่สู้ๆ คะ เราต้องทำให้ได้
ความฝันไม่ไกลเกินเอื้อม

*-*
ขอเวลาพักอ่านหนังสือก่อนนะ
พรุ่งนี้ต้องขึ้นเขียงแล้ว

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551

.. คำบอกรักภาษาต่าง ๆ ..

ภาษาไทย เรียกว่า ฉัน รัก คุณ
ภาษาอังกฤษ เรียกว่า ไอ เลิฟ ยู (I love you)
ภาษาพม่า เรียกว่า จิต พา เด (chit pa de)
เขมร เรียกว่า บอง สรัน โอน (Bon sro Iahn oon)
เวียดนาม เรียกว่า ตอย ยิ่ว เอ๋ม (Toi yue em)
มาเลเซีย เรียกว่า ซายา จินตามู (Saya cintamu)
อินโดนีเซีย เรียกว่า ซายา จินตา ปาดามู (Saya cinta padamu)
ฟิลิปปินส์ เรียกว่า มาฮัล กะ ตา (Mahal ka ta)
ญี่ปุ่น เรียกว่า คิมิ โอ ไอ ชิเตรุ (Kimi o ai shiteru)
เกาหลี เรียกว่า โน รุย สะรัง เฮ (No-rui sarang hae)
เยอรมัน เรียกว่า อิคช์ ลิบ ดิกช์ (Ich Liebe Dich)
ฝรั่งเศส เรียกว่า เฌอแตม (Je t''''aime)
ฮอลแลนด์ (ดัชต์) เรียกว่า อิค เฮา ฟาวน์ เยา (Ik hou van jou)
สวีเดน เรียกว่า ย็อก แอลสการ์ เด (Jag a Lskar dig)
อิตาลี เรียกว่า ติ อโม (Ti amo)
สเปน เรียกว่า เตอ เควียโร (Te quiero)
รัสเซีย เรียกว่า ยาวาส ลุยบลิอู (Ya vas Liubliu)
โปรตุเกส เรียกว่า อโม-เท (Amo-te)
จีนกลาง เรียกว่า หว่อ อ้าย หนี่ (Wo ai ni)
จีนแคะ เรียกว่า ไหง อ้อย หงี (Ngai oi ngi)
ฮกเกี้ยน เรียกว่า อั๊ว ไอ้ ลู่ (Auo ai Lu)
ตุรกี เรียกว่า เซนี เซวีโยรัม (Seni Seviyorum)

*-*
เลือกใช้ตามใจชอบ 5555+++

เคยคาดหวังอะไรไหม....

คงจะเป็นความจริง
เมื่อทุกสิ่งอย่างในโลกนี้ไม่มีสิ่งไหนที่จีรัง
คนโง่ ก็คือคนที่ยึดติด และคนฉลาดเท่านั้น
ที่จะรู้จักคำว่า ปล่อยวาง

เพราะคนเรา ไม่มีใครที่เราจะสามารถ
ควบคุมคนอื่นนอกจากตัวเองได้ทั้งหมด
และแม้แต่ตัวเราเอง ก็ยังมีบางครั้ง
ที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ในบางครั้ง
แล้วจะหวังอะไร ให้คนอื่นมาเป็นได้ในแบบที่เราต้องการ

เพราะฉะนั้น การยึดติดจึงเป็นสิ่งที่โง่มาก
เพราะมีแต่จะทำให้คนที่ยึดติดนั้น
เจ็บปวด กับความเป็นจริงที่ต้องเจอมากขึ้น

แต่หากเรารู้จักการปล่อยวาง
มองทุกอย่างให้เป็นเรื่องของธรรมชาติ จะนำพาไป
เมื่อเกิดปัญหาอะไร ให้มองเป็นเรื่องง่าย
และเข้าใจสัจธรรมชีวิตมากขึ้น
ว่าในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราไปตลอด
โดยที่ไม่มีวันสูญเสีย

เราจะสบายใจมากขึ้น หากวันหนึ่งต้องสูญเสียบางอย่างไป
เพราะนั่นคือสัจธรรม...มันคือหลักความจริง


การจะคบใครซักคนหนึ่งก็เหมือนกัน
หากเราคาดหวังจากใครซักคนมากเกินไป
คนที่จะเจ็บก็คือ "เรา" นั่นล่ะ
เพราะไม่มีใครในโลกนี้ ชอบการถูกบีบ
และถูกบังคับความรู้สึก ธรรมชาติคนเรา
เมื่อถูกบีบจนถึงชีดสุด มันก็เหมือนลูกโป่ง
ที่ต้องแตกออกมาในซักวัน และเมื่อถึงเวลานั้น
ก็จะมีแต่คนที่เจ็บ ...เจ็บกันทุกคน
ทั้งคนที่เรารัก หรือแม้กระทั่งตัวเราเอง


จงใช้ชีวิต อยู่บนความไม่คาดหวัง เพราะการถูกคาดหวัง
คือภาระที่หนักเกินไป ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็ตาม

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

จะทันมั้ยเนี่ย

เหลือเวลาสำหรับการอ่านหนังสือสอบ
อีกแค่ 2 วัน เหนื่อยนะ
ที่ต้องนั่งงมอ่านหนังสือเนี่ย
งม ภาษาเหนือแปลว่า หมกมุ่นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง)
รู้สึกล้าเหลือเกิน
หัดทำข้อสอบ อ่านหนังสืออย่างหนัก
ไม่รู้ว่าจะสอบผ่านรึปล่าว
ความหวังดูจะเลือนลางเหลือเกิน
สอบมารอบหนึ่งแล้วนะ ไม่ผ่าน
รอบนี้เป็นรอบที่สอง ไม่รู้จะเป็นไง
ทำไม๊ ทำไมเราไม่กาแม่นๆ เหมือนคนอื่นเค้าน้า
เฮ้อ....
สาธุ ขอให้สอบผ่านทีเตอะ

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

รูปรับคณะเทศบาล ไม่สวยเลยอะ หัวฟูมาก ๆ





ได้เพื่อนใหม่ คะ

suriyun-sr.blogspot.com

ยังอยากรู้


MV - ยังอยากรู้

อาจมีคำถามที่มีมากมาย ที่ยังค้างคา ว่าทำไมฉันต้องมารักเธอ
แต่มันก็เหมือนสายไป ถ้าจะค้นเจอ ในวันที่ฉันรักเธอหมดใจ

ก็นั่งลงนึกภาพเธอไปอีกหลายปี หน้าตาแบบนี้ แต่ฟันหายไป
แต่ที่ยังรัก รัก เธอฉันเองมั่นใจ ไม่รู้ ว่าเธอคิดอย่างไร

ฉันเองก็ยัง อยากรู้ ถ้าวันหนึ่งเธอไม่สบาย
ในวันที่เธอนั้นแก่ สายตาเริ่มแย่ อยากให้ใคร มาเดินอยู่ใกล้ๆ
หรือว่าไม่เคย คิด

เอิ้น : ไม่เคยคิดเลย ว่าจะเป็นใคร เพราะว่ารู้ดี ว่าทั้งหัวใจ
ฉันมีเธอเท่านั้น ที่อยู่ในใจฉัน ตลอดเวลา

Scrubb: ไม่ใช่ชายในฝัน

เอิ้น : มากกว่าความฝัน เพราะเธอมีอยู่จริง คนที่เข้าใจฉันในทุกสิ่ง
ที่ฉันนั้นเป็นอยู่ และอยากจะขอให้เธอนั้น อยู่ข้างฉันตลอดไป

Scrubb: ฉันเองก็ยัง อยากรู้ ถ้าวันหนึ่งเธอไม่สบาย
ในวันที่เธอนั้นแก่ สายตาเริ่มแย่ อยากให้ใครมาเดินอยู่ใกล้ๆ
หรือว่าไม่เคย.... คิด

เอิ้น : ไม่เคยคิดเลย ว่าจะเป็นใคร เพราะว่ารู้ดี ว่าทั้งหัวใจ
ฉันมีเธอเท่านั้น ที่อยู่ในใจฉัน ตลอดเวลา

หยุดอยู่กับเธอคนเดียว


สื่อรัก MSN - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่

“ฉันอยากจะหยุดเวลานี้ ตั้งแต่วินาทีที่ชีวิตมีเธอเข้ามา
เธอทำให้คนที่ใจเหนื่อยล้า นั้นกล้าจะเปิดหัวใจ
หยุด หยุดชีวิต หยุดกับคนนี้ หากแม้ว่าใครจะดีสักแค่ไหน
หยุด หยุดความรักทั้งหัวใจ จะหยุดอยู่กับเธอคนเดียว”

หลับเป็นตาย

กลับถึงบ้านเกือบสองทุ่มแล้ว
เหนื่อยโคตรเลยคะ
รีบอาบน้ำเข้าที่นอน
รู้สึกว่าจะยมไปทั้งตัว
(ยมภาษาเหนือแปลว่า เพลีย ไม่มีแรง)
เผลอหลับไปตอนไหนยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
เปิดเพลงในมือถือทิ้งไว้อีกต่างหาก
กะว่าจะนอนฟังเพลงสักครู่ ค่อยปิดแล้วนอน
ที่ไหนได้ หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
พอตื่นมาอีกที
ได้ยินเสียงเอแปคเห่า เอ ไม่ช่ายซิ หอนต่างหาก
มันคงจะเห็นหรือได้ยินเสียงอะไรสักอย่าง
หอนกันใหญ่
แถมหอนกันเป็นทอดๆ ต่อๆ กันไป
อูย ขนลุกซู่เลยนะ
ไม่ไหวแล้ว กลัวผีคะ
ต้องนอนคลุมโปงทั้งคืนเลย
ตื่นมาหัวฟูไปหมด ยุ่งด้วย 5555
ต้องมานั่งไดร์ผมอีกแล้ว
เฮ้อ....

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

ร้อน เหนื่อย เมื่อย เซ็ง มีในวันนี้แหละ

มีคณะมาตรวจเทศบาลคะ
ต้องทำให้เรียบร้อยที่สุด หมายถึงทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว ตู้เก็บของ โต๊ะทำงาน
ต้องให้เรียบร้อยสะอาดกว่าปกติ
แถมเราต้องใส่ชุดไทย เพื่อไปยืนต้อนรับอีก
โอ งานหนักนะเนี่ย ไม่ได้ยืนไหว้ต้อนรับอย่างเดียวแล้ว
ต้องเสริฟน้ำ เสริฟของ่างอีก เซ็งเลยยยยยยย
คนเป็นร้อย วุ่นวายสุดๆ
แถมคนหนึ่งจะเอาอย่าง อีกคนจะเอาอย่าง

ที่วุ่นวายอย่างเห็นได้ชัดก็ สท. นี่แหละ
อะไรกันนักหนานะ
จะเอาโอวัลตินไม่เอากาแฟ
อีกคนเอากาแฟ ไม่ใส่ครีมไม่ใส่น้ำตาล
อีกคนเอากาแฟใส่ครีมไม่ใส่น้ำตาล
อีกคนไม่เอาสักอย่าง จะเอาแต่น้ำปล่าวอย่างเดียว
อีกคน ไม่ชอบขนมแบบนี้ จะเอาอีกแบบ
ตายๆ ๆ ๆ
โอยจะบ้าตาย อะไรกันเนี่ย
เรื่องมากกันซะจริง
นี่ยังไม่หมดนะ
ยังมีอีกแยะ

แถมประชุมเกินเวลาอีกคะ เที่ยงครึ่งแล้ว ยังไม่เสร็จอีก
หิวตาลายมากนะ
เลยแว๊บออกไปกินข้าวข้างๆ
กลับมายังไม่เสร็จอีก
รออีกต่อไป

โห กว่าจะเลิกได้ บ่ายสองคะ
ผู้เข้าประชุมเดินออกมาหน้างี้บูดเชียว
5555 สงสัยจะหิวกันแน่ๆ
ดีนะที่เราแอบไปกินก่อน ไม่งั้นปวดท้องแหงๆๆ

*-*
T_T
ชุดบ้าอะไรก็ไม่รู้
ใส่แล้วร้อนสุดๆ อึดอัดด้วย
เดินเหินก็ลำบากโคตร

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

ใครสักคนที่ห่วงใย

ในช่วงชีวิตของคนเรา ต่างมีสุขทุกข์ปะปนกันไป
ในยามสุขเรามักมีความสบายอกสบายใจ มีความพึงพอใจในชีวิต
สามารถยิ้มแย้ม โลกดูสวยสดใสน่าชื่นชม
แต่เมื่อความทุกข์มาเยือนก็อาจทำให้เรารู้สึกเครียด
วิตกกังวล ไม่สบายใจ ดูโลกช่างหม่นหมอง ไม่น่าชม

อย่างไรก็ตาม คนเราจะสุขหรือทุกข์อย่างเดียวคงไม่มี
ดังนั้น หนทางในการคลายเครียดคงต้องขึ้นอยู่กับรูปแบบของแต่ละบุคคล
และหนทางหนึ่ง ที่สามารถช่วยให้เราคลายทุกข์ได้ก็คือ
การหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ นั่นคือการค้นหาคนที่เรารักและเขาก็รักเรา
จะเป็นเพื่อนหรือใครสักคนที่สามารถร่วมทุกข์ร่วมสุขได้
สามารถพูดคุย ปรับทุกข์ ช่วยเหลือเกื้อกูล ปลอบขวัญ
ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน รวมถึงปรึกษาขอความคิดเห็น
แนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เสมอ
ก็จะเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยให้มีทางออก มีคู่คิดให้เราได้พูดคุยปรึกษา
ซึ่งจะช่วยให้เราสบายใจขึ้นได้ในระดับหนึ่ง
แต่ท้ายที่สุดหากเรายังไม่สามารถหาทางออกแก้ปัญหา
หรือคลายความทุกข์ได้
เราคงต้องขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ
ซึ่งขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาที่เกิดขึ้น

หาเพื่อนที่ดีที่รักและเข้าใจไว้เป็นเพื่อนทั้งในยามสุขและทุกข์
เพื่อที่เราจะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
และเราจะรู้สึกได้ถึงความรักและห่วงใยที่เราได้รับ

วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2551

งานกล่อยอีกแล้ว

วันหยุดทั้งที อยากไปเที่ยวให้สบายใจซะหน่อย
ก็ไม่ได้ไปไหนเลย
ต้องอยู่บ้าน เฝ้าบ้านอย่างนี้
ความจริงก็เซ็งเหมือนกันนะ
ทำไงได้ ไม่รู้จะไปกับใครนี่
ไม่มีใครพาไป
ก็เลยต้องนั่งกินแห้วอยู่กับบ้านต่อไป

ความจริงช่วงนี้ก็ไม่ควรจะไปไหนนะ
ควรจะอ่านหนังสือให้มากๆ
แต่เราขี้เกียจอ่าน
แต่ถ้าไม่อ่านก็ทำไม่ได้อีก
ฉะนั้นต้องอ่านให้เยอะๆ
แงงงงง.....
อ่านได้ไม่กี่หน้า ก็ง่วงแล้ว ทำไงดี
แล้วเราจะทำได้มั้ยเนี่ย

เอ้อ...
เบื่อตัวเองจริงๆ

ของใหม่

เอากล้องมาจากน้องชายคะ
เลยขอลองของใหม่สักหน่อย
ก็ขอเก็บภาพไว้เลย
ไม่ค่อยบ้ากล้องหรอกคะ
ถ่ายๆ ไปงั้น

รู้สึกว่าหน้าจะอ้วนนะเนี่ย


ทำไงดี อ้วนขึ้นมากๆ

แม่บอกว่า หน้าซีด ตัวซีดมากเลย

สิบสองเป็ง

วันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง
เป็นวันไหว้พระจันทร์ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราเลย 555
เพราะเราไม่ใช่คนจีน
แต่เป็นวันที่ชาวพุทธต้องไปทำบุญกัน
แม่บอกว่าเป็นวันสอบสองเป็ง (ภาษาเหนือนะ)
ต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้คนที่ล่วงลับไปแล้ว
และที่สำคัญวันนี้เป็นวันปล่อยผีคะ
น่ากลัวนะ ปล่อยผีเหรอ
เลยตื่นเช้าเป็นพิเศษไปทำบุญที่วัดกับแม่
ทำบุญแล้วรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเลย
เหมือนกับได้ทำความดีอะไรสักอย่าง
เหมือนกับได้ยกความรู้สึกที่แย่ๆ มาหลายวัน
ออกไปจากชีวิต

รู้สึกโล่งๆ แบบบอกไม่ถูก
สบายใจจังคะ

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551

หาอะไรไม่เจอเลย

เซ็งๆ กับตัวเองเหลือเกิน
หาไดราอี่ ที่เก็บไว้ไม่เจอ
หงุดหงิดจริงๆ ไม่รู้หายไปไหน
สงสัยจะเก็บไว้ดีเกินไป
กะว่าจะอ่านรำลึกความหลังซะหน่อย
แย่จัง พรุ่งนี้ค่อยหาใหม่
เอ...
หาเป็นชั่วโมงแล้วนะ
เอ้อ....
เซ็งตัวเองจริงเลย

มีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายในวันเดียวกัน

ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีนะ
โตโต้มาชวนให้นั่งรถบัสโรงเรียน
ไปสอบเชียงใหม่ด้วยกัน
ไอ้เราก็ตอบตกลงไป ใส่ชื่อทุกคนที่ไปสอบ
รวมๆ ก็ประมาณ 15 คน
ก็ดีนะ จะได้ไม่ต้องไปเหมารถตู้ให้เปลืองตัง
ประหยัดไปอีกส่วนหนึ่ง

บ่ายๆ มา เข้ามาบอกว่า
รถบัถให้แต่ครูไปเท่านั้น
โอ เซ็งเลยตู
ทำไมสำนักศึกษาลำเอียงอย่างนี้
ให้แต่คนของตัวเองไป
คนกองฯ อื่นๆ งด
ข่าวร้ายมาแล้ว ต้องจ่ายตังค่าเช่ารถตูู้ไปเอง
เฮ้อ....
ไม่รู้ว่าจะหมดอีกกี่บาท
เซ็งจริงๆ

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

เป็นไรไปเนี่ย

รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตทุกวันนี้เหลือเกิน
เหมือนกับว่า ทำงานหนักมากๆ แล้วไม่ได้พัก
ความจริงจะว่างานหนักก็ไม่นะ
แต่จะเป็นที่ หนักใจกับคนมากกว่า
ทำงานกับคนหมู่มากก็เงี้ย
ต้องทำใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา
เพราะทุกคนต่างก็เกิดมาไม่เหมือนกัน
มีจิตใจที่ต่างกันออกไป
มีทั้งคนดี คนไม่ดี ปะปนกันอยู่ในสังคม
โดยที่เราไม่มีทางรู้เลยว่า
คนที่เรากำลังคบ พบ เจอ อยู่ทุกวันอย่างนี้
เป็นคนยังไง บางครั้งต่อหน้า
เขาอาจจะแสแสร้งแกล้งทำดีกับเรา
ก็เป็นไปได้
ว่ามั้ย....

งานเข้าแล้วตู

วันที่ 16 นี้ ต้องไปรับคณะอะไรอีกละเนี่ย
ไม่อยากไปนะ
ใส่ชุดบ้าบออะไรก็ไม่รู้
ชุดก็ไม่มี ไม่มีใครตัดให้
ตั้งแต่เข้ามาทำงาน 3 ปีเนี่ย
ใส่แต่ชุดสีครึม แล้วเราก็ไม่มีนะ
อาศัยยืมคนอื่นตลอด
ความจริงไม่ชอบใส่เสื้อผ้าของคนอื่นนะ
แต่ทำไงได้ มันไม่มีอะ
ต้องทนใส่ไป
เซ็งอีกแล้ว


*-*
ไม่อยากไปเลย
แงงงงงงง.....

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

สบายใจ ไม่มีใครกวน

หัวหน้า 4 คนไปประชุมกันหมด
ประชุมกัน 2 วัน ไม่รู้ว่าจะไปกันทั้งวันรึปล่าว
ไม่อยู่ก็ดีเหมือนกัน สบายอกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
รู้สึกโล่ง ปลอดโปร่ง มากๆ
ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานมาโขนะ
555+++

มีเรื่องให้หัวเสียอีกแล้ว
เข้า msn ไม่ได้
เป็นไรอีกเนี่ย
ไม่ได้ใส่เมลล์ กับพลาสเวิดผิดสักหน่อย
ถูกต้องทุกอย่าง เฮ้อ...
ยังดีนะ ที่ไปเข้าเครื่องอื่นยังใช้ได้
อุตส่าห์ดีใจแล้วนะ หัวหน้าไม่อยู่
กะจะเล่นให้หนำใจซะหน่อย
ต้องมานั่งเล่นเครื่องหลังเนี่ย
ก็ยังดีนะ เล่นได้ แต่เครื่องเต่าไปหน่อย
ค่อยใจชื้นมาอีกนิดส์หนึ่ง

ช่วงนี้เป็นไรก็ไม่รู้
กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
รู้สึกว่าไม่หิวเลย
บางวันไม่กินก็ยังได้นะ
ขอแค่ให้มีน้ำกินก็พอแล้ว
ข้าวนี่ไม่ค่อยจะกินหรอก
วันๆๆ หนึ่ง เนี่ย กินแต่น้ำ รึว่า....
อากาศจะแปรปรวนเลยทำให้เราเป็นอย่างนี้
ลองไปชั่งน้ำหนักดูนะ เหลือ 44 555+++
กลายเป็นยัยกุ้งแห้งในพริบตาเลยคะ

*-*
หวัดรับประทานอีกแล้วคะ
หายใจไม่ออก
เวลานอนต้องหายใจทางปาก ลำบากโคตรๆๆ

ต้องสู้ ต้องสู้ ไม่งั้นจะชนะเหรอ

หากชีวิตคือการดิ้นรน คนหนึ่งคนต้องเดินก้าวไป
ให้เรารู้เส้นทางแห่งใจ แล้วก็ไปให้ถึงที่นั่น

เพราะชีวิตคือการต่อสู้ ให้เรียนรู้ด้วยใจตั้งมั่น
เส้นทางไกลแค่ไหนช่างมัน คนช่างฝันเท่านั้นทำได้

ฉันคือหนึ่งคน ที่ทนฟันฝ่า พลังศรัทราคือสิ่งดี
ได้มาเท่ากัน เหมือนกันทุกที่ เตรียมใจที่มีให้มั่นคงเข้าไว้

ขอเพียงแค่ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึงที่จุดหมาย
โปรดจงมั่นใจ ที่ทำลงไปนะถูกแล้ว
อย่าฟังคำคน อย่าสนใจใคร อย่าเปลี่ยนแนว
คนแน่แน่วเท่านั้น ผู้ชนะ

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

ความสุขของเรา ... มีเท่ากัน

บางที ความสุข ก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆ จากสิ่งที่เราอาจมองข้ามไป อย่างเช่น

การได้ตกหลุมรักใครสักคน

การได้รับโทรศัพท์จากใครสักคนที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี

การได้ยิ้มกับใครสักคนอย่างจริงใจ

การได้ตื่นลืมตาขึ้นมาตอนเช้า และรู้ว่าเรายังมีลมหายใจอยู่...ฯลฯ

สิ่งต่างๆ เหล่านี้ แม้ดูว่าเป็นสิ่งเล็กน้อย

แต่เราก็เรียกมันว่า "ค ว า ม สุ ข" ไม่ใช่เหรอ

เชื่อไหมว่า...ชีวิตทั้งชีวิตของเราอยู่มาได้ก็เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้นี่แหละ

แล้วจะมองหาความสุขอื่นๆ ที่ไกลตัวไปทำไม?

~* สำหรับวันที่ท้อแท้ *~

หากใครเคยพลาดพลั้งกับชีวิต
เดินทางผิดคิดไม่ถูกสุดสับสน
ลองหาใครมาคบดูสักคน
ความกังวัลที่มีอาจหายไป

ถึงวันนี้ยังไม่มีชัยชนะ
วันหน้าเราอาจจะพบมันได้
ขอเพียงเรามีแรงเดินต่อไป
สิ่งที่เราหวังไว้คงเป็นจริง

แต่ถ้าหากเราหมดแรงลุกขึ้นสู้
ขอให้ดูรอบตัวสิ่งที่เห็น
ทุกๆอย่างอาจไม่จริงอย่างที่เป็น
สิ่งที่เห็นแค่เปลือกนอกหลอกลวงคน

คนตาบอดแขนไม่มียังอยู่ได้
แล้วเหตุใดเราจึงไม่ลุกขึ้นสู้
ถ้าหากเรามัวแต่นั่งมองดู
อยากให้รู้เรามีค่าต่อตัวเราเอง

ไม่ว่างเลย แทบตาย

อ้ายกุ้งไม่อยู่นี่ หัวหมุนเลยเรา
หมดสวยเลย
สิวก็ขึ้นอีกแระ เซ็งเข้าไปใหญ่
แถม หวัดรับประทานอีก โอยยย แย่แน่ๆ เลย

หายใจไม่ออกเลย
เสียงกับประชาชนเสียงก็ไม่ค่อยมี
เจ็บคอด้วย
คุยไปคุยมา เสียงหาย โอพระเจ้า
แย่จริงๆ
ชีวิตวุ่นวายจริงเลยเรา

ใกล้สอบ กพ. แล้ว
เออ ไม่ใช่ซิ สอบภาค ก. ก่อน
ยังอ่านหนังสือไม่ถึงไหนเลย
จะสอบได้มั้ยเนี่ย
เซ็งชีวิตเหลือเกิน

ไม่รู้ว่าจะทำได้แค่ไหนกัน
เฮ้อ....
สาธุ ขอให้สอบได้ทีเถอะ
จะทำบุญ 9 วัดเลยคะ

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2551

Happy Birthday น้องชาย

สุขสันต์วันเกิดนะน้องชายที่รัก
วันเกิดทั้งทีแต่ไม่ได้อยู่บ้าน
เพราะไปสอบกรุงเทพ กลับอีกทีก็พรุ่งนี้โน่น
ไม่เป็นไร ขอให้โชคดีกับการสอบ
ได้เป็นข้าราชการเร็วๆ สมใจนึก
ประสพความสำเร็จในหน้าที่การงาน
มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงนะ
พี่สาวคนนี้จะเป็นกำลังใจให้

*-*
อ้าววววว สู้ๆๆ

ระยะห่าง

คุณเคยนึกย้อนกลับมามอง ระยะห่าง
ของคุณกับผู้คนรอบตัวกันบ้างไหม..

เคยรู้สึกไหมว่า บางที ความห่างไกล กับ ระยะห่างของความรู้สึก
กลับเป็นตัวแปรผกผันกัน

เคยรู้สึกได้ถึงระยะห่างทั้งที่ตัวอยู่ใกล้ ๆ
หรือรู้สึกใกล้กันแล้วทางความรู้สึกทั้งที่ตัวอยู่แสนไกล กันบ้างไหม.???

เคยคิดกันบ้างไหมว่า ระหว่างคนพยายามเดินหนี คนที่พยายามเดินตาม
และคนที่พยายามยังไงระยะห่างกลับ! เท่าเดิม คนไหนเจ็บปวดไปกว่ากัน ...

อาจเป็นเพราะ .... โลกกว้างเกินไป
หรือไม่ .... หัวใจเราแคบเกิน

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2551

น้องชายจะเป็นไงบ้างน้อ...

นายขวัญจะเป็นไงบ้างนะ
ไปสอบชลประทาน ที่ปากเกร็ด กทม.
ไปคนเดียวด้วย
จะหาที่พักได้ยังเนี่ย
จะไปพักบ้านน้ารึปล่าวน้า
ไม่รู้ว่าที่สอบกับบ้านน้าจะใกล้กันมั้ย
สงสารมันจัง
เดินทางคนเดียว คงลำบากแน่ๆ

ช่างเถอะ ลูกผู้ชาย ต้องทำได้อยู่แล้ว
พี่จะเอาใจช่วยนะ
ขอให้สอบให้ได้นะ
สู้ๆ

*-*
เพราะเธอคือความหวังของบ้าน

โลกแห่งความฝัน กับวันที่เป็นความจริง. . .

โลกแห่งความฝัน . . .
มันมักจะสวยงาม สดใส
จนบางครั้ง คนเราปิดหู ปิดตา ปิดหัวใจ
เพียงเพราะไม่อยากจะตื่นขึ้นมา
เพื่อยอมรับว่าเรื่องจริง เป็นเช่นไร

บางครั้งคนเรา สร้างเกราะขึ้นมาเพื่อป้องกันความจริง
จนหลงลืมไปว่า “เวลา” มันไหลผ่านตัวเราอยู่ตลอดเวลา
แต่สุดท้ายแล้ว โลกแห่งความจริงก็ค่อยๆกลืนความฝันไปอย่างช้าๆ
กว่าที่เราจะรู้สึกตัวขึ้นมายอมรับความจริง ก็อาจจะสายเกินไป

ช่วงเวลาหลังจากฉันตื่นจากความฝัน. . .ที่ผ่านมา

ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่า. . .
การยอมรับความจริงไม่ใช่สิ่งเลวร้าย

ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่า. . .
ยิ่งรู้ความจริงเร็วแค่ไหน ฉันก็จะมีเวลาแก้ปัญหามากเท่านั้น

ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่า. . .
ถ้าไม่คิดจะลุกขึ้นสู้ด้วยใจของตัวเอง กำลังใจจากใครๆก็ไม่มีความหมาย

ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่า. . .
ความจริงถึงแม้มันจะเจ็บปวดแต่สุดท้ายแล้ว เราต้องยอมรับมัน

และที่สำคัญ ฉันได้เรียนรู้ว่า
ความจริง เป็นสิ่งที่มนุษย์เรา ไม่มีวันจะหนีมันพ้น

หากวันนั้น ฉันนั่งลงเพื่อยอมรับความจริงอย่างสงบตั้งแต่แรก
ฉันคงมีเวลานั่งคิดแก้ปัญหามากกว่านี้

วันนี้. . . โลกของฉันคงจะสวยงามมากกว่านี้

แต่ถึงแม้ว่า ความจริงในวันนี้. . .
โลกของฉันจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ฉันสัญญากับตัวเองไว้แล้ว ว่า. . .
ฉันจะยอมรับมัน ด้วยความเต็มใจ
เพราะนั่น มันคือความจริงของตัวเราเอง

การฟูมฟายไม่ได้ช่วยให้ความจริงเปลี่ยนแปลง

ทำบุญกันหน่อย

เช้านี้ตื่นเร็วเป็นพิเศษค่ะ
กะว่าจะไปทำบุญกับแม่ที่วัดสักหน่อย
ทำบุญให้จิตใจสงบ
จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน
จะได้ไม่วายกับชีวิต
ช่วงนี้มีแต่เรื่อง เครียดๆ ทั้งนั้น
หลายเรื่องเข้ามามีแต่เรื่องไม่ค่อยดี
ทำให้วุ่นวาย จิตใจว้าวุ่น
เหนื่อยนะ
เจอแต่ปัญหา ไม่รู้จักจบจักสิ้น

*-*
ได้ทำบุญแล้วค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
ขอให้หมดทุกข์ หมดโศกซะทีนะ
ยัยเข็มเอ้ย....

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551

โดนใจ โดนจัง

ยุ่งนิดๆ คนยุ่งนะ เซ็ง

รองปลัดนี่ยุ่งไม่พอ แถมวุ่นวายอีกนะ
ให้เราดูนั่นดูนี่ ซ่อมนั่นซ่อมนี่อยู่นั่นแหละ
เราไม่ช่ายช่างซ่อมมือถือสักหน่อย
มีปัญหาอะไรก็มาถามเรานี่แหละ
เฮ้อ...
วันนี้ยิ่งยุ่งๆ อยู่ด้วย
ไม่ทำให้ก็ไม่ได้
เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่มีน้ำใจอีก
เบื่อจริงๆ คนแก่ นี่ วุ่นวายสุดๆ

มีดีอยู่อย่างหนึ่ง
เลี้ยงข้าวเราบ่อย อันนี้ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
บางครั้งก็ไม่อยากไปนะ แต่ต้องจำใจ จำยอมไปกินด้วย
ลำบากใจแท้ๆ ไปกินกับคนแก่ ไม่หนุกอะ

ยิ่งถ้าเมียแกไปกินด้วยนะ
วุ่นกำลังสองเลยหละ
ไม่รู้เป็นไง สองผัวเมียเนี่ย
จะเถียงกันตลอดทางที่จะไปกินเลย
ยิ่งถ้าไปกินไกลๆ นะ โอยๆๆๆ
หนวกหูสุดๆ เถียงกันสุดทาง
ไม่รู้จักเกรงใจกันบ้าง
แต่ดูๆๆ ไป ก็รักกันดี
เสียอย่างเดียวชอบเถียงกันแค่นั้นแหละ
อันนี้แหละ ที่ไม่ชอบ

*-*
5555+++

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551

"Bad day is just a day"

ไม่ต้องกลัวหรอกว่าวันร้ายๆ จะอยู่กับเรานาน

ตราบใดที่โลกยังหมุนอยู่ตลอดเวลา

ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาก็จะต้องผ่านไปทั้งนั้น



จะเป็นไรไป หากชีวิตจะมีวันร้ายมากหน่อย

วันดีน้อยหน่อย ดีเสียอีกที่เป็นอย่างนี้

เราจะได้เรียนรู้คำว่า "ชีวิต" ได้อย่างเต็มที่

ให้คุ้มค่ากับที่ได้เกิดมาเป็นคน

*-*
ถูกมั้ย ถ้าคิดอย่างนี้

ของขวัญ

ของขวัญอันล้ำค่าเหล่านี้
ไม่ต้องรอมอบให้กันในช่วงเทศกาล
เราสามารถมอบให้ผู้อื่นได้ตลอดปี
และเมื่อเรามอบของขวัญนี้แก่ผู้ให้แล้ว
ผลที่ได้รับ มีคุณค่ามากมายมหาศาล

ของขวัญจาก การฟัง
จงตั้งใจฟังผู้อื่นให้มาก
อย่าขัดจังหวะการพูด หรือขัดคอคนอื่น
พูดให้น้อย ฟังให้มาก

ของขวัญจาก
อย่าอายที่จะแสดงความรักแก่ครอบครัว หรือเพื่อนของคุณ
การแสดงออกเล็ก ๆ น้อย ๆ
ที่บอกให้พวกเขารู้ถึงความสนิทสนมที่คุณมีให้
จับมือ โอบไหล่ สวมกอด หอมแก้ม ฯลฯ

ของขวัญจาก ความเบิกบาน
แบ่งปันเสียงหัวเราะ และความสนุกสนานให้คนรอบข้าง
มีเรื่องสนุก อย่าแอบหัวเราะคนเดียว

ของขวัญจาก
กระดาษโน้ตที่เขียนด้วยลายมือของคุณเอง
เช่น ฉันรักคุณจังเลย ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ
จะสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับคนอ่านได้ไม่น้อย

ของขวัญจาก คำชม
ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ ไม่ว่าใครก็อยากจะได้รับคำชม
เช่น ผมทรงนี้ดูดีจัง กับข้าวอร่อยมากเลยนะ

ของขวัญจาก
ความจริงพวกเราทุกคนล้วนมีน้ำใจ
สภาพสังคมที่ต้องแก่งแย่งแข่งขันอยู่ตลอด
ทำให้น้ำใจของหลายคนเกิดอาการหลับใน
การแบ่งปันให้กัน จะทำให้โลกเราน่าอยู่ขึ้น

ของขวัญจาก เวลาส่วนตัว
บางเวลาคนเราก็อาจอยากอยู่เงียบ ๆ ตามลำพัง
อย่าลืมเคารพสิทธิผู้อื่นด้วยปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว
เมื่อเขาต้องการ

ของขวัญจากการ
คนเรายามที่จิตใจท้อแท้ ก็เหมือนรถน้ำมันหมด
ช่วยเติมกำลังใจให้คนอื่นทุกครั้งที่มีโอกาส
ใจเย็น ๆ นะ เดี๋ยวก็มีทางแก้ ยากกว่านี้ เธอยังทำได้เลย
สักวันรถคุณเองก็อาจจะขาดน้ำมันเหมือนกันก็ได้

ของขวัญจาก มธุรสวาจา
คำพูดดี ๆ ทำให้เกิดความประทับใจต่อกันได้ดี
อย่าลืมคำพื้นฐานอย่าง ขอบคุณ ขอโทษ
คุณอยากฟังคำพูดดี ๆ คนอื่นเขาก็เหมือนกัน

และที่สำคัญ
มันเป็นของขวัญที่มาจากใจโดยไม่ต้องลงทุนสักแดงเดียว

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551

สบายใจจริงเลย

หัวหน้าไม่อยู่ 2 วันคะ
ดีใจมากๆ คะ ไม่ค่อยมีงาน ชอบ ชอบ
แต่ยังเหลืออีก 3 คน
เอ จะกำจัดยังไงดีนะ 5555
ฆ่าทิ้งดีมั้ยเนี่ย

*-*
สบายใจจริงๆ เลยเรา

เพราะอะไร

เธอเคยถามกับฉัน ที่ฉันรักเธอ ว่าอยากจะรู้รักเพราะอะไร
กลับไปคิดไปค้น ใคร่ครวญมากมาย ไม่เจอ...คำตอบ
ที่ผ่านมานั้นไม่คิดอยากรู้ที่มา และไม่เคยหาเหตุผลใดๆ
แค่ตัวฉันเพียงรู้ ว่าเป็นสุขใจเมื่ออยู่เคียงกัน

อาจจะฟังแล้วไร้เหตุผล ว่าสิ่งที่ทำให้คนรักกัน
หรือเป็นเพียงรอยยิ้ม รอยนั้นเมื่อวันแรกเจอ
หากจะหาเหตุผลสักคำ ว่าสิ่งที่ทำให้ฉันรักเธอ
นั่นเป็นเพราะตัวฉันมาเจอ เจอสิ่งดีงาม

อาจจะฟังแล้วไร้เหตุผล ว่าสิ่งที่ทำให้คนรักกัน
หรือเป็นเพียงรอยยิ้ม รอยนั้นเมื่อวันแรกเจอ
หากจะหาเหตุผลสักคำ ว่าสิ่งที่ทำให้ฉันรักเธอ
นั่นเป็นเพราะตัวฉันมาเจอ เจอสิ่งดีงาม

ตั้งแต่วันฉันพบเธอ ก็เจอแต่สิ่งดีงาม

ตั้งแต่วันฉันพบเธอ ได้เจอแต่สิ่งดีงาม

ช่วงนี้อากาศแปรปรวน รึว่าคนแปรปรวน

คนที่ทำงานเรานี่ก็แปลกนะ
ฝนตกก็บ่น อากาศร้อนก็บ่น
พอฝนไม่ตกก็บ่น อากาศหนาวก็บ่น
แล้วจะให้ทำไงละเนี่ย
สภาพอากาศคงจะเวียนหัวแน่ๆ เลย
ถ้ามันพูดได้

ธรรมชาติก็รู้อยู่แล้ว ว่าเป็นไง
คนเรานี่ก็แปลกจัง ไม่รู้จักปล่อยวางซะบ้าง

ช่วงนี้เราก็อารมณ์แปรปรวนเหมือนกันนะ
อ่านหนังสือยังไม่ไปถึงไหนเลย
ใกล้จะสอบแล้ว
ไม่ค่อยมีเวลาเลย
งานก็แยะ เฮ้อ....
เบื่อนิดๆ อยากเปลี่ยนงานนะ
แต่ถ้าให้ไปหางานใหม่ที่ดีกว่านี้คงไม่มีแล้ว
ไหนจะสบายเท่า เทศบาลอีก คงไม่มี
จะไปจะลา เมื่อไหร่ก็ได้

เออ อยากลานะ
แต่ช่วงนี้งดก่อน ลาไม่ได้
ใกล้จะปิดงบประมาณแล้ว ต้องทำตัวให้ดีๆ ก่อน
เดี๋ยวโดนประเมินได้คะแนนน้อย ไม่ไหวแน่ ๆ
กลัวมีผลมีโบนัส 55555
ที่แท้ก็งกนี่เอง

*-*
ไม่รู้ว่าปีนี้จะได้โบนัสเท่าไหร่
ถ้าเหมือนปีที่แล้ว ไม่ไหวนะ ได้ก็เหมือนไม่ได้
เซ็งเลยตู....

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551

ทุกวันนี้เรากำลังใช้ชีวิตแบบนี้หรือเปล่า

ตื่นเช้าขึ้นมา...ทำงานๆ ๆ ๆ ตกเย็น กลับบ้านนอน
ตื่นเช้าขึ้นมา...ทำงานๆ ๆ ๆ สิ้นเดือนใช้หนี้

เสร็จแล้วก็อยากได้อีก...ซื้ออีก...ออกแรงตักน้ำอีก
พยายามเติมน้ำลงในแก้วรั่วๆ ของเราต่อไปไม่สิ้นสุด

จะดีกว่าไหม...ถ้าเราจะเริ่มเปลี่ยนตัวเอง
เลิกทำตัวเป็นแก้วน้ำก้นรั่ว
ที่เติมน้ำลงไปเท่าไรก็ไม่เคยเต็มซะที

ทำตัวว่างว่าง ทำใจว่างว่างเหมือนแก้วเปล่า
บางทีความสุขก็อยู่แค่นั้นแหละ

แย่ๆแน่ๆ เลยเรา

ทำไงดี
เราดันทำใบเสร็จธนาคารกรุงไทย
ที่ไปจ่ายตังค่าสมัครสอบของนายขวัญหาย
ตายแน่ๆ จะได้สอบมั้ยเนี่ย

หาจนทั่วบ้านแล้ว ค้นจนไม่รู้จะค้นที่ไหนแล้วนะ
ทำยังไงดีเน้อ

ปวดหัวตึบเลย

สาธุพระคุณเจ้า
ช่วยดลบันดาลให้หาเจอทีเถอะ
สาธุ

*-*
ฮือๆๆๆ ทำไงดี

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551

เหนื่อยนัก ก็พักซะบ้างนะ

การเดินทางของชีวิต เราต่างก็เหนื่อยกันทั้งนั้น
และคงจะไม่มีใครกล้าพูดได้เต็มปากหรอกว่า
เส้นทางสายนี้ช่างสวยงาม และเต็มไปด้วยความสุข
มีคำเปรียบเทียบที่น่าคิดว่า

คนขลาด. . . คือคนที่ไม่กล้าออกเดินทาง
คนอ่อนแอ. . . มักตายไประหว่างทาง
คนแข็งแกร่งเท่านั้น. . . ที่ไปถึงจุดหมาย

แล้วตัวเราล่ะ อยากเป็นนักเดินทางแบบไหน
แล้วความแข็งแกร่งที่ว่านั้น
ฉันว่าเขาคงไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องของร่างกาย
เพียงอย่างเดียว แน่นอน. . .

*-*
"ถ้ามันเหนื่อยเกินไป ก็พาหัวใจกลับบ้าน"

ไม่สบายอีกแล้วเรา

รู้สึกเบื่อๆ ไม่อยากทำไรเลย
เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว บอกไม่ถูกว่าเป็นไร
ปวดหัวตุบๆ ๆ
ช่วงนี้ปวดหัวบ่อยแฮะ ทำไงดี
ไม่อยากไปหาหมอ
สงสัยจะเครียดมากไปหน่อยนะ
สิวก็ขึ้นตรึมเลย เฮ้อ...
ปวดกะบาลจริงเลยตู

*-*
อยากลาหยุดหลายๆ วันจัง
ความฝันที่เป็นไปไม่ได้