วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

คำสั่งเด็ดขาด

น้าโทรมาหา
สั่งไว้อย่างเด็ดขาด ว่าต้องทำตามคำสั่ง
บอกว่าห้ามเอาเสื้อเหลือง กับเสื้อแดงมาใส่
ตอนมากรุงเทพ
อ้าว ....
เรายิ่งชอบใส่อยู่ด้วย
ไม่เป็นไร
เอาตัวอื่นไปก็ได้
เอ...แล้วจามีมั้ยเนี่ย
แต่ละตัว ดูไม่ค่อยได้เลย

เปิดตู้เสื้อผ้า ดู ทำไมมันมีแต่เสื้อผ้าทำงาน
เต็มไปหมด ผ้าใส่ไปงานทำไมมันไม่มีเนี่ย
เฮ้อ...ลำบากแล้ว
ไม่ไปดีมั้ยเนี่ย

แล้วถ้าไป เราจะกลับมาได้ปล่าว
ยิ่งมีม็อบหลายจุดซะด้วย
แย่จริงๆ

ควันหลงงานประชุม

ลืมไปเลย ว่ามีรูปค้างอยู่อีกหลายกล้อง
หาเจ้าของกล้องไม่เจอ ช่างมันเต๊อะ
ไม่รู้จาเอามาทำไรตั้งมากมาย
ไม่ได้อัดเลย เก็บไว้ในแผ่นตรึม
เป็นพันๆ รูปเลย
ไม่ได้ชอบถ่ายรูปหรอกนะ
555+++
แต่เห็นกล้องเป็นไม่ได้ ต้องขอแจมนิดหนึ่ง




วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ขออัพบล็อคหน่อย เพราะจะหายไปอีกหลายวัน

ช่วงนี้งานยุ่ง อ่านหนังสือยังไม่ถึงไหน
จะต้องสอบอาทิตย์นี้แล้ว
และก็จะลายาวถึงวันอังคารเลย
ไม่รู้จะได้ไปเที่ยวไหนบ้าง
ต้องถามโชว์เฟอร์ก่อน

คงเหนื่อยน่าดูนะ นั่งรถทั้งคืน
ไม่เป็นไร ทนเอาๆ

*-*
Hihg : ไม่รู้อิ่มอกอิ่มใจคะ แต่หน้างี้ยิ้มได้ทั้งวัน ไม่มีเหตุผล ตอบไม่ได้
Low : สงสารประเทศไทย กำลังเจอปัญหาโลกแตกที่แก้ไม่ได้

วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

งานประชุมระดับเอเชียแปซิฟิก

เหนื่อยมากๆ เลย ยืนทั้งวัน ขาบวมด้วย
คนมาประชุมแยะนะ ไม่รู้จักใครเลย
ก็ไปตามคำสั่ง เค้าบอกให้ทำไรก็ทำตามคำสั่งไปงั้นๆ แหละ
ไม่อยากมีปัญหา ก็ไม่ได้ทำไรเลย นอกจากถ่ายรูปกันใหญ่
กล้องเป็นสิบตัว ของใครเป็นของใครก็ไม่รู้
ถ่ายกันให้มั่วไปหมด
นี่ขนาดวันแรกนะ ยังเหลืออีก 2 วัน
ทนๆ เอา เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว
กลับถึงบ้านหลับเป็นตายเลยคะ







วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

มีข่าวดีอีกแร้วววว

พ่อโทรมาบอกว่า ลูกสาวคลอดแล้ว
น้องวัวขาว คลอดลูกได้ลูกสาว ร่างกายสมบูรณ์แข้งแรงดี
ตั้งชือว่า น้องคำใส ชื่อสุดแสนจะเชย
แต่พ่อบอกว่าเนี่ยเหมาะกับมันสุดๆ แล้ว
ตัวแดงๆ หัวดำๆ อ้วนกลม น่ารักมาก

สองวันแล้วสินะ มีแต่ข่าวดีเกี่ยวกับสัตว์ที่บ้าน
เพนเค้กคลอดลูก น้องวัวขาวก็คลอดเหมือนกัน
พ่อตื่นเต้นใหญ่เลย ประคบประหงมมานาน
กว่าจะคลอดได้ แทบแย่เลยนะ
พ่อช่วยมันทำคลอดด้วย เพราะคำใสตัวอ้วน
น้องวัวขาวมันคลอดเองไม่ไหว พ่อต้องช่วยดึงลูกมันให้
เกือบจะตายคาระหว่างคลอดแล้วด้วยซ้ำ
ดีนะ ไม่เป็นไร

*-*
High : มีแต่ข่าวดีคะ
Low : ทำงานวันเสาร์อีกแล้ว แย่จัง

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

มีเรื่องน่ายินดีอีกแร้ววว

กลับถึงบ้านก็ค่ำพอดูนะ เพราะมัวแต่ไปหาซื้อของใช้ส่วนตัว
ก็ไม่ได้อะไรมากมายนัก คิดไม่ออกว่าจะต้องซื้อไรบ้าง
ไม่ไหวเลย คราวหลังต้องนั่งจดแล้วว่าจะเอาไร
สงสัยเริ่มแก่ จำไรไม่ค่อยได้
เดินแบบเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่อยากทำไร
คิดไรก็ไม่ออก มันรู้สึกมึนๆ งงๆ หัวสมองเบลอๆ
มีเรื่องวุ่นวายใจอย่างบอกไม่ถูก จับต้นชนปลายยังไม่ได้
เฮ้อ..คิดแล้วเวียนหัว

^ ^

ขับรถกลับบ้านแบบใจลอยๆ
เกือบโดนรถชนซะแล้ว เพราะใจลอยนั่นแหละ

ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าเป็นไรวันนี้ คิดไม่ออก บอกไม่ถูก

ถึงบ้านก็ห้าโมงครึ่ง แต่ขอบอกว่า เริ่มมืดแล้วนะ
หน้าหนาวจะมืดเร็วมาก ห้าหกโมงเนี่ย มืดแล้ว
แต่ถ้าตอนเช้านะ ก็สว่างช้า เพราะมีหมอกเยอะ
สองสามวันมานี้อากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว
จะบ้าตาย ปรับตัวไม่ทัน เช้านี้ก็หนาวอีกแระะะะะะะ

กำลังไขกุญแจบ้าน ได้ยินเสียงตัวไรก็ไม่รู้ร้อง
แถมร้องหลายตัวซะด้วย หาซะทั่วบ้านเลย
ก็ยังหาไม่เจอ พยายามหาตามเสียงที่ร้อง สุดท้าย
อยู่ใต้เครื่องซักผ้า เจอแล้ว
โอ๊ะ โอ ลูกสาวเรา คลอดแล้ว

T_T
เพนเค้กคลอดลูก 3 ตัว
น่าสงสารมากๆ มันไม่เข้าไปนอนในกล่องที่เตรียมไว้
ลูกมันโดนมดกัดทั้งตัว เลยรีบปัดๆ ให้ แล้วพาไปนอนในกล่อง
หาผ้าห่มรองตัวไว้ ลืมดูไปเลยว่าเป็นตัวผู้หรือเมีย
ไม่อยากจะจับเลย ตัวมันเล็กกระจิ๋ว จับไม่ถนัดมือ
กลัวมันจะเฉาตายก็เลยรีบวางไว้ รอมันโตอีกหน่อย ค่อยจับก็ได้

น่ารักนะ เสียดายมีแต่สีน้ำตาล ไม่มีสีขาวเลย

*-*
High : เป็นป้าอีกรอบแล้ว เย้ๆๆๆๆ
(ไม่ช่ายสิ ต้องเป็นยาย ลูกสาวคลอดหลานนี่นา)555+++
Low : เกือบจะไม่มีลมหายใจกลับบ้านซะแล้ว

เหงานะ

05-เหงาใช่ไหมจะไปหา - เสถียร ทำมือ

ฟังกี่ทีก็เพราะนะคะ
คราก่อนเอาวีดีโอลง
แต่คราวนี้เฉพาะเพลงก็พอแล้ว

*-*
High : หายจากอาการเป็นหวัดแล้ว ดีใจจัง
Low : เบื่อคนบ้าอำนาจที่สุดในโลกเลย

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ขอบอกว่า....ไม่ได้งกเลยคะ

มีบางคนหาว่าเรางก
จะมีใครรู้บ้างคะว่าเงินหายากแค่ไหน
กว่าจะได้มาแต่ละบาท
แล้วไอ้โบนัสที่ได้ ก็ไม่มากเท่าไหร่หรอก
ก็แค่พอค่ารถไปกลับ กรุงเทพ-เชียงรายแค่นั้น
แถมค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกตรึม
อย่าหาว่างกเลยนะคะ
ทุกวันนี้ต้องใช้อย่างประหยัด
ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านทุกอย่าง
อาทิ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันรถ ค่ากิน ฯลฯ
เดือนๆ หนึ่งก็หมดหลายตังเหมือนกันนะ
ได้เงินเดือนก็แสนจะน้อยนิด
ถ้าได้มากๆ ก็ว่าไปอย่าง
อยู่เชียงราย ค่าครองชีพก็ช่ายว่าจะถูกนะ
มันก็เหมือนๆ กับอยู่กรุงเทพนั่นแหละ
ใครไม่เป็นเรา ไม่รู้หรอก
ว่าทำงานทุกวันนี้ มันเหนื่อยแค่ไหน
เข้าใจกันบ้างนะคะ

ไม่มี High คะ
Low: เสียใจอย่างแรง....

ไม่ชอบอากาศแบบนี้เลย

เมื่อคืนนอนไม่หลับอีกแล้ว
อากาศร้อนอบอ้าว
นอนดิ้นไปดิ้นมา เลยเอาซีรี่เกาหลีมาดูอีกรอบ
ไม่รู้ว่าดูเป็นรอบที่เท่าไหร่นะ
แต่ที่รู้แน่ๆ ก็เกิน 5 รอบไปแล้ว
ก็ไม่มีไรดูนี่ ถึงจะดูกี่รอบก็ยังชอบ
ทำไมยุนอึนเฮน่ารักก็ไม่รู้
สงสัยเรากำลังตกหลุมรักยุนอึนเฮซะแล้ว

เอ วันนี้แปลกนะ อากาศร้อน
ผ้าห่มที่เคยห่ม 2 ผืน โดนถืบยันออกไป 1
แถมเปิดพัดลมนอนอีก

และแล้วเราก็หลับไปตอนไหนไม่รู้คะ
เปิดโทรทัศน์ท กับเปิดพัดลมทิ้งไว้ทั้งคืน
ผลพวงที่ได้คือ เป็นหวัดหนักกว่าเดิมอีกแล้วคะ
แถมเปลืองไฟอีก แย่เลย ถ้าแม่รู้ โดนด่าอีกแน่ๆ

*-*
High: หายจากการไอ+เจ็บคอ แล้วคะ
Low : แต่เป็นหวัดน้ำมูกไหลหนักกว่าเดิมอีก

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

และแล้ววันนี้ก็มีจริง

โบนัสออกแล้วค่ะ
กว่าจะได้ลุ้นแทบแย่
แก้เอกสารกันอยู่นั่นแหละ
แก้ทั้งอาทิตย์เลยเห็นจะเป็นได้
คะแนนประเมินก็ได้แบบงั้นๆ
อยู่ในระดับปานกลาง-ดี
ความจริงน่าจะได้มากกว่านี้นะ
ถ้า......
ไม่อยากจะพูดถึง

ขอนินทาสักหน่อยก็ยังดี
ให้คะแนนเด็กของตัวเองเกือบเต็ม
แล้วคนนอกก็ได้น้อยตามเคย
เป็นเรื่องปกติ
ของการเลือกที่รักมักที่ชัง
หรือไม่ก็ เลือกคนของตนเองไว้ก่อน
คนอื่นช่างหัวมัน

ไม่ได้เป็นคนของนายบ้างก็แล้วไป
หุหุ....

ได้มาก็พอใช้
ไม่ช่ายสิ พอยาไส้
ได้มาก็มีรายจ่ายดาหน้าเข้ามาแบบไม่ขาดสาย
โอพระเจ้า ทำไมไม่ให้มากกว่านี้คะ
แต่ยังดีกว่าปีที่แล้วนะ
ปีที่แล้วไม่ได้ใช้เลยก็ว่าได้ เอาให้พ่อหมดเลย
อีแก่พ่อพังพอดิบพอดี เปลี่ยนแบตใหม่ ยกเครื่องใหม่
หมดกัน

อิจฉาพวกที่ทำงาน อบจ.สินะ ได้ 3-4 เท่า
ปีที่แล้วได้ 5 เท่า อิจฉาสุดๆ เฮ้อ.....ข๋อยแต้ๆ

ปีนี้ได้แค่นี้ก็บุญโขแล้ว ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
แบ่งสรรปันส่วนแล้ว เหลือใช้ไม่กี่บาทก็ยังดีกว่าไม่ได้

*-*
จะทำบุญให้พี่ชายกับน้าชายสุดที่รักรอรับแล้วกันนะคะ 5555

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

รักยังคงเดิม

แม้บางครั้งความห่างจะทำให้เหงา
แต่รักเราก็ยังแข็งแรงเสมอ . . .
เพราะ " รัก " ไม่ได้วัดจากจำนวนครั้งที่เจอ
แต่วัดจากความเอาใจใส่ที่เธอมีให้มา


ขอบคุณความเหงา
ที่ทำให้ระหว่างเรา ยิ่งเพิ่มคุณค่า


ขอบคุณความไกล ที่ช่วยพิสูจน์อะไรๆ ในเวลา
โดยอย่างน้อยก็พิสูจน์ว่า . . . รักยังคงเดิม

จะได้เจอน้าแล้ว คิดถึงสุดๆ



วันนี้ที่รอคอยใกล้จะถึงแล้ว
เหลือเวลาอีก 2 อาทิตย์แค่นั้น
เราก็จะได้เจอน้าสุดที่รักแล้ว
ดีใจจัง ไม่ได้เจอมาเกือบปีแล้วนะ
ได้แต่คุยโทรศัพท์กันอย่างเดียว ไม่เห็นหน้าเลย
น้าไม่ค่อยว่าง นานๆ ทีจะกลับเชียงราย เค้างานยุ่ง
ธุรกิจรัดตัวตลอด
อยากบอกน้าว่า
ให้รักษาสุขภาพบ้างนะ
งานนะอย่าทำให้มากนัก เงินนะ หาเมื่อไหร่ก็ได้
แต่ถ้าหลานคนนี้อยากได้ ต้องมีนะ 55555
ไม่เคยขอเงินน้าสักครั้ง ไม่เคยเอ่ยปากเลย
แต่น้าก็ให้ตลอด ก็หลานสุดที่รักนี่นา
น้าคำใจดีนะ เราอยากได้ไร หามาให้ทุกอย่างเลย
แม้ว่าจะไม่ได้เจอกัน ก็ส่งเงินมาให้
รักน้าสุดๆ (ไม่ได้เห็นแก่เงินนะ 5555)
ก็ไม่ได้ให้เราคนเดียวนี่นา ได้กันทั้งหมดแหละ
ขวัญ พ่อ แม่ ลุง ป้า หลานๆ อีก4 คน ได้กันถ้วนหน้า
คิดถึงๆๆๆ
ไม่อยากให้น้าอยู่ไกล อยากให้กลับมาอยู่กับเราที่บ้าน
จะได้ดุแลน้าตลอดไป
ความเป็นจริงคงเป็นไปไม่ได้ เค้าอยู่กรุงเทพมากว่า 20 ปี
คงไม่คิดจะกลับมาเชียงรายแล้วแหละ
มาก็คงมาเที่ยวเท่านั้น

เฮ้อ....
ทำใจซะ

ไม่เป็นไร สิ้นเดือนจะไปหานะคะ

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ง่วงจริงๆ

กลับถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน
กว่าจะออกจากงานได้ แทบแย่
นี่ขนาดเอามอไซด์ไปนะ
ต้องค่อยๆ กระดิบๆ ออกมา
ขืนถ้าเอารถยนต์มาแย่แนๆ
กะว่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนเลยนะ
พอนอนไปนอนมาดันนอนไม่หลับอีก
เป็นไรก็ไม่รู้ เลยลุกไปอาบน้ำตอนตี 1
หนาวมาก ขอบอก
กลับเข้าที่นอน ก็ยังนอนไม่หลับนะ
สงสัยต้องเป็นชาเขียวแน่ๆ ลืมไปว่ากินไม่ได้
นึกว่าจะไม่ได้นอนซะแล้ว ดิ้นไปดิ้นมาเกือบชั่วโมง
แล้วก็หลับไปตอนไหนยังไม่รู้ ดีนะ ไม่ตื่นสายอีก
(ที่ตื่นได้ แม่เรียกต่างหาก ไม่งั้นคงไม่ตื่น)
เฮ้อ....
ประชุมอีกแล้ว เบื่อๆ
10 โมงเช้า ประชุมๆๆ ๆ

*-*
สงสัยงานจะเข้าอีกแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

หนุกมาก หนาวด้วย

เมื่อคืนแจกแบบสอบถามหนุกมาก
แจกไปโดนแซวไปคะ
เจอแต่คนรู้จัก เลยถูกยัดเยียดให้กรอกซะหลายแผ่น
ให้กรอกแบบสอบถามแค่นี้ทำบ่นกันนะ
รู้อะปล่าวว่าเราต้องแจกทุกคืน หนาวก็หนาว เมื่อยขาด้วย
ต้องยืนรอคนกรอกให้เสร็จ ลำบากแท้ๆ
แต่เมื่อคืนหนุกหนานคะ
มีหนุ่มๆแซวด้วย
แถมมีแขกไม่ได้รับเชิญมาช่วยแจกด้วย
ดีมากๆ เลย เสร็จเร็วคะ รีบกลับบ้านเลย
ที่บ้านมีงาน เดินหาพ่อกับแม่ให้วุ่น
ที่ไหนได้ พ่อเต้นอยู่กลางเวทีโน่น
คงจะม่วนขนาด เต้นกับเพื่อนๆ แก่ๆทั้งนั้น
เสียดายไม่ได้อยู่ร่วมขบวนด้วย เสียใจอย่างแรง

แต่ก็ยังได้ช่วยงานนิดหน่อย ไปช่วยด้านสอยดาว
ขายบัตรแทบไม่ทัน ของหมดเร็วด้วย ต้องมานั่งทำกันใหม่อีกรอบ

กลับบ้านเที่ยงคืนคะ หนุกหนานสุดๆ
เมื่อยขา เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนเลย
ไม่อาบน้ำแล้ว หนาวมากๆ เพราะอาบตอนหกโมงไปรอบแล้ว
ขืนอาบตอนเที่ยงคืน ต้องหนาวตายแน่ๆ
แค่แปรงฟันก็พอแล้วคะ

*-*
ผันดี นอนหลับสบายคะ

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

คืนนี้มีงาน

ทำงานกลางคืนอีกแล้วคะ
ปีหนึ่งก็เร็วเหมือนกันแฮะ ต้องมาทำงาน
ในงานสี่ชาติ งานเทศกาลอาหารอีกแล้ว
ปีนี้ดีหน่อย มีแค่ 3 วัน
เพราะถ้ามีต่อจะติดกับงานพระราชพิธีเพลิงศพพระพี่นางฯ
ทางเทศบาลเลยให้มีแค่ 3 วันก็พอ
แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้ว เหนื่อยจะแย่
กลับบ้านดึกๆ ทุกวันเลย ไม่ไหว
บ้านเราทางเข้ามืดตึบเลย น่ากลัวจะตาย
แล้วยิ่งเราขับมอไซด์ไปด้วยน่ากลัวเข้าไปใหญ่
ก็ทำไงได้ เอารถยนต์ไป มันเข้ายากออกยาก
รถก็ติด ลำบากสุดๆ เอามอไซด์ไปนะดีแล้ว
ปีนี้หนาวกว่าทุกๆ ปีที่เคยทำมา
มืองี้เย็นแข็งไปหมด
ผู้คนก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการกรอกแบบสอบถามเท่าไหร่
ไม่เป็นไรคะ นั่งกรอกเองเป็นสิบเลย
ไม่สนแล้ว ก็คนมาเที่ยวไม่อยากกรอกนี่นา มันก็ต้องเอาแบบนี้แหละ
กรอกมันซะเอง

พิธีเปิดก็สวยดี มีหลายๆ อย่าง แต่ที่ชอบก็คือ ได้ไปปล่อยโคม แล้วก็พลุสวยๆ
สวยมากๆ กล้องไม่ได้เอาไป ใช้มือถือถ่ายแทน
แต่ก็ยังสวยอยู่





วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

คู่บ้านคู่เมืองเชียงราย

ไม่ได้ไปสักการะบูชาพ่อขุนซะนาน
วันนี้มีโอกาสได้ไปไหว้
มีคนมาแก้บนกันแยะเลย
ไม่รู้แก้อะไรกัน ของงี้เต็มลานเลย
เราก็เลยแอบขอท่านสักหน่อย
ไม่หน่อยแล้วมั้งเนี่ย ขอไปซะแยะเลย
ไม่รู้ว่าท่านจะจำได้หมดปล่าว 555

ที่พึ่งทางใจชาวเชียงราย

คิดถึงคนไกล

บังเอิญเปิดเน็ตไปๆ มาๆ กดแบบเรื่อยเปื่อย เจอเพลงนี้
ไม่ได้ฟังนานแล้ว ฟังกี่ทีก็รู้ถึงเหงาทุกที
ความรู้สึกที่มีกับทุกคน เวลาคิดถึงคนที่อยู่ไกล
ก็คงเป็นแบบนี้
คิดถึงนะคะ

คิดถึงคนไกล - ตุ๊กตา

ไม่รู้ว่าคนไกลจะคิดถึงกันบ้างมั้ยคะ

หนาวจัง เหงาใจ

ลมหนาวพัดโชยมาไม่ได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้มานานแล้ว
หนาวซะ ขนลุกขนพอง หนาวมากๆ นะ
บนท้องถนนก็ว่างปล่าว คล้ายกับว่าเมืองนี้ร้าง
ไม่มีคนอยู่ วันหยุดแบบนี้ ใครๆ ก็อยากจะพักผ่อนอยู่กับบ้าน
คงมีแต่เราซิท่า ต้องมานั่งอยู่เวร ทำไงได้
ก็ต้องอยู่ ไม่รู้จะไปแลกเวรกับใครแล้ว
ไม่เป็นไร ทนๆ เอา เดี๋ยวก็เลิกแล้ว

เมื่อคืนเดินขาลากกลับบ้าน
ตื่นมาตอนเช้ายังปวดขาไม่หาย
เดินไปได้ก็ไม่ไกลนะ แต่ไม่ถึงจุดหมายสักที
คนเยอะเกินไป มองดูอะไรก็เห็นแต่หัวคนเต็มไปหมด
ไม่ไหวๆ เดินได้ครึ่งทาง กลับบ้านดีกว่า

แย่เลยคะ มอไซด์ออกไม่ได้ มีคันอื่นขวางเต็มไปหมด
ดีนะ เจอคนรู้จักให้พี่เค้าช่วยขยับรถคันอื่นๆ ให้
ไม่งั้น คงได้กลับบ้านเที่ยงคืนแน่ๆ
สรุปคือ ได้แต่โคมอันจิ่ว 2 อันเท่านั้น
อย่างอื่นไม่ได้ไรเลย

อีกอย่างไม่มีใครเดินเป็นเพื่อน
รู้สึกเหงาๆ ก็เลยรีบกลับบ้าน

ไหงได้ กลับถึงบ้านไม่มีใครอยู่เลย
พ่อแม่ ขวัญ พากันไปเที่ยวถนนคนเดินหมด
ไปตอนไหนกันเนี่ย แล้วทำไมไม่โทรหาเราบ้างนะ
ปล่อยให้เดินคนเดียวอยู่ได้ เอ้ออ
สรุปแล้ว
รีบอาบน้ำแล้วนอน สบายใจที่สุดแล้ว

เหงาแบบไม่มีลิมิต

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ชีวิตคือ......

ในวันที่เราอ่อนแอ ยอมรับเถิดว่าเราอ่อนแอ
ไม่ต้องดันทุรังบอกว่า ตัวเองยังไหวอยู่
ในวันที่เรารู้สึกแพ้ ยอมรับเถิดว่าเราไม่ชนะ
ไม่ต้องหลอกตัวเอง เพื่อที่จะได้เป็นคนเข้มแข็ง
ความอ่อนแอไม่ได้น่ารังเกียจแต่อย่างใด

ถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว
ก็หมายความว่า เราได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าแล้ว
ถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว
ก็ไม่เห็นต้องเสียดายเวลาเลย
ถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว
จะแพ้หรือชนะก็ไม่ใช่ความหมายใหญ่โตอะไร

ประเด็นคือ...เราเคยยอมรับบ้างไหม
ว่าเราก็เคยอ่อนแอ

มิตรภาพระหว่างใจ

การที่เราได้รู้จักใครสักคน...
>>>…ก่อให้เกิด “มิตรภาพที่งดงาม”

การที่เราจะชอบใครสักคน..
>>>…ก่อให้เกิด “มิตรภาพแห่งความประทับใจ”

การที่เราจะประทับใจใครสักคน..
>>>…ก่อให้เกิด “มิตรภาพที่แสนหวาน”

การที่เราจะรักใครสักคน....
>>>…ก่อให้เกิด “มิตรภาพระหว่างหัวใจ”

การสร้างมิตรภาพนั้นง่าย...
แต่การจะรักษามิตรภาพให้คงอยู่ต่อไปนาน ๆ นั้น..
เป็นการกระทำที่ทำได้ยากอย่างยิ่ง...

รู้จักคนมากหน้าหลายตา...
เป็นร้อยเป็นพันคน..
ก็ยังถือว่า...มิตรภาพยังน้อยอยู่..

แต่การรู้จักใครสักคน..
อย่างจริงใจ..และมั่นคง..
แม้จะมีเพียงไม่กี่คน..
ก็ได้ชื่อว่า...มีมิตรภาพอย่างแท้จริง...

ในทางกลับกัน..
การมีมิตรภาพเป็นพัน..เป็นหมื่นคน..
>>>…ชื่อว่า..น้อย..ก็จริง...
>>>…แต่การสร้างศัตรูแม้เพียงคนเดียว..
>>>…ก็ถือว่า..มาก..แล้ว..

คนที่รัก...คนที่ชอบ...
แม้จะมีมากเพียงใด...
ขอให้รักษามิตรภาพเหล่านั้นไว้..ในจริงใจของคน ๆ นั้น..
แม้เพียงคนเดียว...ด้วยความจริงใจ..
>>>…มิตรภาพ ..คือ..ความงดงามในจิตใจ..นั้น
>>>…ก็ถือว่า...เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุด..ยิ่งใหญ่ที่สุด..
>>>…มากกว่า..การสร้างศัตรูแม้เพียงคนเดียว...

คนที่รัก..
อาจกลับกลายเป็นศัตรูได้...เมื่อทำผิดใจ..

คนที่เราไม่รัก...
อาจกลับกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดก็เป็นได้...เมื่อให้อภัย...

จงพยายามรักษามิตรภาพที่มีอยู่...
และจงสร้างมิตรภาพใหม่..ในศัตรู..
>>>…โดยการให้ความจริงใจ...เชื่อใจ...ให้อภัย..รักษาน้ำใจ..
>>>…ให้คงอยู่กับทุก ๆ คน..อย่างจริงใจ..



บทความ...โดย..ชายน้อย...
อ่านแล้วชอบ ความหมายดีคะ

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

บ่ลืมสัญญา

เพิ่งเคยได้ยินนะ เพราะดี

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

กำลังใจกับตัวเอง

...คนเรา
ไม่ต้องเก่งไปทุกอย่าง
แต่จงสนุกกับงานทุกชิ้น
ที่ได้ทำ ..

หัวใจของการเดินทางไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย
หากอยู่ที่ประสบการณ์สองข้างทาง .. มากกว่า

". ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่า
แม้แต่คนโง่ที่สุดยังฉลาดในบางเรื่อง
และคนฉลาดที่สุด
ก็ยังโง่ในหลายเรื่อง ..

.. ไม่มีอะไรเสียเวลาไปมากกว่า
การคิดที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต

ไม่เคยมีอะไรช้าเกินไป
ที่จะทำให้สิ่งที่ตนฝัน ..

ปัญหาทุกอย่างล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป
หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง

ความสำเร็จที่ผ่านความล้มเหลว
ย่อมหอมหวานกว่าเดิม ..

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

บันทึกไว้เผื่อลืม

เขียนสิ่งที่ใฝ่ฝัน
ติดไว้ในที่ที่มองเห็นอยู่ตลอดเวลา
เพราะสิ่งที่เขียนจะตักเตือน
และบอกให้รู้ว่า
วันเวลาที่ผ่านไป
ทำให้อยู่ใกล้ความฝัน….. หรือห่างไปทุกที....

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

หอนาฬิกาเจียงฮาย

ไปซื้อของมา ขับรถผ่านแถวๆ หอนาฬิกาใหม่มา
พอดีมีกล้องติดรถก็เลยจอดถ่ายรูปสวยๆ มาฝาก
ตอนกลางคืนสวยมากๆ เลย มีแสงสี ดูแล้วสบายตา
แต่ถ้าดูตอนกลางวันก็สวยอีกแบบ
คนสร้างก็ไม่ช่ายใครที่ไหน
อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ คนเจียงฮายฝีมือระดับโลกนั่นเอง
เจ้าของคนเดียวกันกับคนสร้างวัดร่องขุ่นไง
วัดที่สวยที่สุดในโลกก็ว่าได้นะในตอนนี้



งานกล่อยนิดๆ

งาดกาดเจียงฮายรำลึก
งานกล่อยคะ อันเนื่องจากว่าฝนตก
แถมตกๆ หยุดๆ แบบว่าฟ้ารั่วอะไรประมาณนั้น
เราก็เลยหมดอารมณ์ หัวยุ่งกระเชิง อุบาทก์ตัวเองสุดๆ 5555
แต่ก็หนุกดี สงสารแต่พวกสาวๆ พริตตี้ซิ แต่งมาซะเต็มยศ
แต่ก็ต้องมาเสียเพราะฝนตก

ลานอาหารของเราก็วุ่นกันซะ
มีคนแย่งมารับขันโตกไปกินกับข้าวเมืองๆ กันใหญ่
มีแฃกคนสำคัญของประเทศมาเปิดงานด้วยคะ
นายสมชาย วงค์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของประเทศไทย
ตัวเล็กมากๆ เลย เตี้ยกว่าเรานิดหน่อย ยิ้มเก่งมากๆ
ยิ้มไม่หุบเลย ท่าทางใจดีมาก
ได้คุยกับท่านนิดหน่อย
ท่านมาซุ้มขนมเทียนแก้ว กับเมี่ยงคำที่เรายืนเฝ้าอยู่
มากินเมี่ยงคำตั้งหลายคำ บอกว่าไม่ได้กินนานแล้ว ชอบมาก
ท่านน่ารักนะ ขนาดฝนตกยังเดินชิมทุกซุ้มเลย
เสียดายเราไม่ทันถ่ายรูปคู่กับท่าน เพราะนักข่าวเยอะเกิน
แล้วเราก็ต้องบริการอาหารให้กับแขกผู้ใหญ่ อดถ่ายรูปเลย
เสียดายจริง ก็เลยได้แต่เก็บภาพพิธีเปิดบางส่วนมาให้ดู
สวยนะ แต่ถ้าจะดีกว่านี้ ถ้าฝนไม่ตก

เฮ้อ... เสียดาย

สงสารแต่พ่อค้าแม่ค้าซิ เตรียมของมาขายกันให้วุ่น
สุดท้ายก็ต้องผิดหวังเพราะขายของไม่ได้ ฝนตกหนัก
ไม่รู้ว่าจะขาดทุนกันขนาดไหน
แต่ของขายเยอะมากๆ ไม่เป็นไร เสาร์หน้าต้องไปเที่ยวใหม่
จะไปหาของฝากให้คนบางคนก่อน
55555
รอไปก่อนนะคะ
เหนื่อยกับการทำงานมากๆ แถมฝนก็ตกด้วยเลยรีบกลับบ้าน
อดเดินซื้อของเลย เสียดายจริงๆ