วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ลองใช้ใจมอง


เชื่อในพรหมลิขิตไหม ?
ถ้าไม่ . . . แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้เรามาพบกับคนหลายคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน

ถ้าไม่ . . . แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้เราถูกชะตาจนเรียกคนๆ นั้นว่า "เพื่อน"

เพื่อน . . . คนที่ครั้งหนึ่งก็เป็นได้แค่คนแปลกหน้า

เวลาผ่าน เวลา คนแปลกหน้าคนนั้นก็กลับกลายมาเป็นคนที่เรา "ไว้ใจ"


เพื่อน . . . คนที่พร้อมอยู่กับเราเสมอๆ ไม่ว่า สุข ทุกข์ เหงา เศร้า

เพื่อน . . . คนที่พร้อมแชร์ความรู้สึกต่างๆโดยไม่เคยเอ่ยปากว่า "ถ้าทำอย่างนั้นแล้วฉันจะได้อะไร"

เพื่อน . . . คนที่ไม่เคยสนใจว่าเราจะหน้าตาดี มีสกุล ร่ำรวย ยากจน สูง ต่ำ ดำ ขาว หรือไม่

เพื่อน . . . คนที่ไม่เคยเสแสร้ง แกล้งทำ

แต่ . . . เพื่อนตายหายากเหลือเกิน



เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่า . . . คนๆ นี้เป็นเพื่อนตายของเราหรือไม่

เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่า . . . คนๆ นี้ เป็นคนที่พร้อมจะเคียงข้างเราเสมอไปไหม

เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่า . . . คนๆ นี้จริงใจกับเราแค่ไหน



ทั้งหมดนี้ เราใช้ "ตา" มองไม่เห็น

แต่ทั้งหมดนี้เราใช้ "ใจ" มองเห็นได้



เมื่อบทความ ล่วงเลยมาถึงตอนนี้ คุณล่ะ?

ใช้ "ตา" มองเพื่อน หรือใช้ "ใจ" มองเพื่อน

เราบอกไม่ได้ว่าคนๆ ไหนดี ไม่ดี จนกว่าเราจะมีโอกาส รู้จักกับคนๆ นั้น

แล้วใช้ใจของเราสัมผัส . . . การคบใครสักคน คบเพียงกายก็ไร้ประโยชน์

แต่การคบใครสักคน จำเป็นต้องคบกันด้วย "ใจ"


วันนี้ . . . คุณใช้อะไร คบเพื่อนของคุณ

อย่าบอกนะว่า . . . คุณก็เป็นคนที่คบเพื่อนแค่ "ตา"
เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็คงเป็นคนที่ไม่น่าคบคนหนึ่ง



อย่าลืมบอกรัก "เพื่อน"

หรือมองเพื่อนด้วยใจ . . . ด้วยความรักนะคะ
แล้วคุณจะเจอเพื่อนแท้ และรักคุณ

ไม่มีความคิดเห็น: