วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ชอบอ่านหนังสือ

เราสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
ด้วยการทำงาน  ด้วยการฝึกคิด
และด้วยการอ่านหนังสือ

ฉันเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก
แต่หนังสือเรียนไม่ค่อยเท่าไหร่  คิคิ
ถึงได้ยังสอบไม่ผ่านกะคนอื่นเค้า หุหุ
แต่ถ้ามีคนถามว่าชอบมากแค่ไหน
คำตอบของฉันก็คงจะเป็น....
"มากเท่าๆ ๆกับที่อยากหายใจอยู่บนโลกใบนี้"


วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สิ้นปีแล้วซินะ

จาสิ้นปีแล้วนะเนี่ย
ยังทำไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันกะเค้าเลย
ยังไม่มีผลงานอะไรน่าดีใจกะคนอื่นเค้า
ก็ปล่อยไปงี้แหละ เรื่อยๆ  เปื่อยๆ  
ปล่อยชีวิตให้ลอยไป ลอยไป  แล้วก็ลอยไป
มันต้องมีสักวันที่เป็นวันของเรา ว่ามั้ยละ

^^
ชีวิตมีทั้งสุข ทุกข์ปนเปกันไป
ก็ดี มีสีสัน
ม่ายรู้ขึ้นปีใหม่จะเป็นไงบ้าง

ขอให้ดีๆ ขึ้นบ้างก็โอแล้ว


วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ไดอารี่มีชีวิต4

ทุกวันนี้ฉันยังเก็บไดอารี่ที่เขียนทุกเล่มไว้เป็นอย่างดี
ในเวลาที่ฉันคิดถึงอดีต....
เวลาที่ฉันอยากนำบทเรียนชีวิตเก่าๆ  มาสอนตัวเองในปัจจุบัน
ฉันก็จะหยิบมันขึ้นมาอ่าน...
และทุกครั้งก็จะรู้สึกว่า    "นี่แหละ...ประวัติศาสตร์ชีวิตของฉัน"
........................
เพราะฉะนั้น...มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตกันเถอะ
ใช้มือเขียนไปตามที่หัวใจคิด
ไดอารี่ไม่ใช่ข้อสอบ...จึงไม่มีคำว่า  "ถูก"  หรือ  "ผิด"
ที่เหลือก็อยู่ที่เราแล้วละว่า....จะคิดดีหรือร้าย!!!!!!!!

(---)




วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ไดอารี่มีชีวิต 3

ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ไม่ได้เป็นนักเขียนจะไม่ช่ายคนที่เขียนไม่ดี
และคนที่เป็นนักเขียนก็ช่ายว่าจะเป็นนักเขียนที่ดีทุกคน
หากสิ่งสำคัญมันอยู่ที่ "ความรู้สึก"
ถ้าอยากเขียนแล้วเขียนด้วยใจ  ไม่ใช่เขียนด้วยความหวัง
ไม่ว่าสิ่งสุดท้ายที่เราเขียนมันจะกลายเป็นหนังสือสักเล่ม
หรือมันจะกลายเป็นแค่เพียงไดอารี่ที่มีเราเพียงคนเดียวได้อ่าน
แต่ฉันว่ามันก็มี  "ชีวิต"  ในตัวของมันเองแล้ว

^^

กะเพาะกำเริบอีกแน่ๆ ปวดท้องจังเยยย

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ไดอารี่มีชีวิต 2

การได้เขียนไดอารี่ก็ดีไปอีกแบบ
เป็นการระบายความทุกข์ที่ได้ผลดียิ่ง
ใครไม่สนช่างคนเค้า เราได้ระบายแล้วสบายใจก็ดี
จะได้ไม่อึดอัด สบายใจโล่งอก
เหมือนยกของหนักออกจากตัว
ความจริงไม่อยากแบกรับหรอกนะ ไอ้ของหนักๆ  นะ
แต่ทำไงได้ละ
พยายามเอามันออกแล้ว ก็ทำได้แค่เป็นบางส่วนเท่านั้น
ไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากตัวเราเอง
ฉะนั้น การที่ได้ระบายเรื่องราวออกมาบ้าง
ก็ทำให้รู้สึกดี ....
ขึ้นมานิดหนึ่งก็ยังดีนะ....

คริสมาสแสนเศร้า

ม่ายรู้ว่าจะไปไหนดี คริสมาสนี้
อยู่บ้าน แล้วก็อยู่บ้าน
เหนื่อย ไม่อยากไปไหน อยากพักสมอง
อยากอยู่นิ่งๆ ปวดหัวกะเรื่องต่างๆ นานา
อยากหายตัวได้จัง
อยากหายจากโลกนี้ไปได้ยิ่งดี
โลกนี้ช่างวุ่นวายจิงหนอ

----

คริสมาส

               ..:* *:..


         ..:* *:....:* *:..

         ..:* *:....:* *:..

    ..:* *:....:* *:....:* *:..

    ..:* *:....:* *:....:* *:..

..:* *:....:* *:....:* *:....:* *:..

    ..:* *:....:* *:....:* *:..

    ..:* *:....:* *:....:* *:..

                 I    I

                 I    I
Merry ..:*          *:.. Christ mas!

 
  ^^


 
★Merry★* 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ • •


。★Christmas★ 。* 。° 。 ° ˛

˚˛ * _Π_____*。*˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •˛

•˚ */______/~\。˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •˛

• ˚ | 田田 |門| ˚ ˛ ˚ ˛ •

& Happy New Year 2010-BEST CHRISTMAS WISHES TO YOU

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ฝนหลงฤดูอีกแล้ว

นึกว่าฝนจาตกแยะซะอีก
ก็แปลกเนาะฤดูหนาวมีฝนซะงั้น

วันนี้ก็ตื่นมาแต่เช้าเลย
รับอากาศเย็นๆ  หนาวมากๆ
หมอกกระจาย
สงสัยวันก่อนฝนตกส่งท้าย   เลยส่งผลให้วันนี้มีหมอกแยะ
ขับรถไปทำงานเสื้องี้เปียกน้ำไปหมด
ดีนะใส่หมวกกันน็อค  มิงั้น หน้าก็คงเปียกไปหมดเหมือนกัน


หมอกหนากระจายเลย



แถวๆ  ลานพ่อขุน  ตอนเช้าๆยังไม่ค่อยมีรถเท่าไหร่  มีแต่หมอกเต็มเลย

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ไดอารี่ มีชีวิต1

ฉันเริ่มเขียนบันทึกประจำวันเมื่อตอนเรียนมัธยมสาม
จำได้ว่าตัวเองแอบไปเห็นพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันเขียน
ตอนนั้นอารมณ์ประมาณเห็นพี่สาวเป็นเหมือนแบบอย่าง
และด้วยความที่เราก็อยู่ในช่วงกำลังเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น
พอเห็นคนที่เราชื่นชมทำอะไร....ก็อยากทำอย่างนั้นด้วย
ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองรักการเขียน

ฉันไม่รู้หรอกว่า  ฉันอยากเป็นนักเขียนรึป่า.....
รู้แต่ว่าพอเขียนแล้ว....มันสนกุ
อะไรที่มันเป็นความทุกข์  ...ที่พูดออกมาไม่ได้
ฉันก็เลือกที่จะระบายลงในหน้ากระดาษ
อะไรที่มันเป็นความสุข...ที่เล่าใครแล้วก็ยังไม่หนำใจ
ฉันก็เลือกที่จะบรรยายเอาไว้เป็นตัวหนังสือ
กว่าจะรู้ตัว...ฉันก็เป็น "นักเขียนไดอารี่" ไปแล้ว  
คิคิ  นักเขียนสมัครเล่น

^^
ตื่นตั้งแต่ตีสี่ละ
ไม่รู้ทำไร  นั่งเขียนไปเรื่อยๆ  คิดไรออกก็เขียน
นอนนี้ก็เริ่มง่วงแล้ว  ตีห้าสิบเจ็ด  นอนอีกรอบก็ยังทัน -อิอิ-

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ไดอารี่ มีชีวิต

การเขียนไดอารี่  มันดีตรงที่...
คิดอย่างไร...ก็เขียนมันไป
ไม่ต้องใช้หัวใจบังคับปากกา
แต่สิ่งที่ "คิด"  นั้น...จะ  "ทำ" ได้จริงหรือไม่?
อย่าลืมใช้สมองไตร่ตรองก่อนด้วยนะ


ปล..  ง่วง  ขอนอนก่อน  ไว้มาต่อวันใหม่

ดาว

หลายครั้งที่มองดาวบนฟ้า
แล้วบอกกับคนข้างๆว่า  "ดาวสวยจัง"
ความจริงแล้วไม่มีใครเลย
ก่อนที่จะกระซิบบอกตัวเองดังๆ
"แต่ถ้าได้นั่งมองอยู่ที่บ้าน...  คงสวยกว่านี้"


วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552

มิตรภาพระหว่างหัวใจ

การที่เราได้รู้จักใครสักคน...
ก่อให้เกิด ?มิตรภาพที่งดงาม
การที่เราจะชอบใครสักคน..
ก่อให้เกิด ?มิตรภาพแห่งความประทับใจ
การที่เราจะประทับใจใครสักคน..
ก่อให้เกิด ?มิตรภาพที่แสนหวาน
การที่เราจะรักใครสักคน....
ก่อให้เกิด มิตรภาพระหว่างหัวใจ
การสร้างมิตรภาพนั้นง่าย...
แต่การจะรักษามิตรภาพให้คงอยู่ต่อไปนาน ๆ นั้น..
เป็นการกระทำที่ทำได้ยากอย่างยิ่ง...
รู้จักคนมากหน้าหลายตา... เป็นร้อยเป็นพันคน..
ก็ยังถือว่า...มิตรภาพยังน้อยอยู่.. แต่การรู้จักใครสักคน.. อย่างจริงใจ..
และมั่นคง.. แม้จะมีเพียงไม่กี่คน.. ก็ได้ชื่อว่า ...
มีมิตรภาพอย่างแท้จริง... ในทางกลับกัน..
การมีมิตรภาพเป็นพัน..เป็นหมื่นคน..
ชื่อว่า..น้อย..ก็จริง... แต่การสร้างศัตรูแม้เพียงคนเดียว..
ก็ถือว่า..มาก..แล้ว.. คนที่รัก...คนที่ชอบ...
แม้จะมีมากเพียงใด... ขอให้รักษามิตรภาพเหล่านั้นไว้..
ในจริงใจของคน ๆ นั้น.. แม้เพียงคนเดียว...
ด้วยความจริงใจ.. มิตรภาพ ..คือ..ความงดงามในจิตใจ..นั้น
ก็ถือว่า...เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุด..
ยิ่งใหญ่ที่สุด.. มากกว่า..การสร้างศัตรูแม้เพียงคนเดียว...
คนที่รัก.. อาจกลับกลายเป็นศัตรูได้...เมื่อทำผิดใจ..
คนที่เราไม่รัก... อาจกลับกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดก็เป็นได้...
เมื่อให้อภัย... จงพยายามรักษามิตรภาพที่มีอยู่...
และจงสร้างมิตรภาพใหม่..ในศัตรู..
โดยการให้ความจริงใจ...เชื่อใจ...ให้อภัย..
รักษาน้ำใจ.. ให้คงอยู่กับทุก ๆ คน..อย่างจริงใจ..
มิตรภาพระหว่างหัวใจ...

ปล. ข้อมูลจาก www.teenee.com

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ปาย อิน เลิฟ

ฉันมีความทรงจำดีดี ในหลายที่ที่เคยไป


ทะเลภูเขา สายธารเมฆหมอกขาว

แต่มีเรื่องราวที่หลากหลาย

ได้เคยเห็นความหวัง ในรอยยิ้มของผู้คน

เคยมีความกังวล บนถนนเมื่อฝนพรำ

และมีความสุขใต้ฟ้าสีดำ ในคืนที่มีดาวพร่างพราย



แต่สิ่งเหล่านั้น มันคงเป็นเพียงความทรงจำล่วงเลยผ่านไป

ที่มันมีความหมายต่อใจฉัน

เพราะเธอได้ผูกพันรักไว้ในความทรงจำ

ไว้คอยย้ำเมื่อยามมองดูรูปถ่าย

ยิ้มของเธอทำให้เวลานั้นมีความหมาย

เหมือนมันมีเธอมาเขียนเรื่องราวให้



เธอทำให้รู้ว่าความสุขนั้นมีค่า

เมื่อเธอมาแบ่งปัน

อะไรที่มีความหมายมากมาย

ย่อมไม่ดีกว่า ถ้าเธอไม่ผูกพัน



แล้วชีวิตฉันพร้อมจะวางเอาไว้

ลงในมือเธอคนที่สำคัญกว่าตัวฉัน

กว่าชีวิตฉัน ฉันสัญญา

มากกว่าตัวฉันกว่าชีวิตฉัน ฉันสัญญา



อยู่บนทางเดินที่สวยที่งาม

ที่บางทีแค่วันผ่าน ไม่นานก็เผลอลืมเลือน

หากแต่มีเธอคอยเตือนให้ปลูกรักไว้รอเรากลับมา



เพราะชีวิตบางทีก็วนมาบนทางสายเก่า

วันหนึ่งรักจะโตเป็นเงาให้เราพักสายตา

ถ้าไม่มีรักแล้วใครจะรู้ว่า จะเป็นเช่นไร



เธอทำให้รู้ว่าความสุขนั้นมีค่า

เมื่อเธอมาแบ่งปัน

อะไรที่มีความหมายมากมาย

ย่อมไม่ดีกว่า ถ้าเธอไม่ผูกพัน



แล้วชีวิตฉันพร้อมจะวางเอาไว้

ลงในมือเธอคนที่สำคัญกว่าตัวฉัน

กว่าชีวิตฉัน ฉันสัญญา

มากกว่าตัวฉันกว่าชีวิตฉัน ฉันสัญญา



ฉันฉันฝันถึงวันดีดี ในหลายที่ที่เคยไป

หากเธอเป็นภูเขา ฉันจะเป็นเมฆหมอกขาว

ที่โอบกอดเธอชิดใกล้

และเธอเป็นทะเล ฉันจะเป็นแม่น้ำ

ที่ไหลรินตามไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ใด



ฉันจะไปหา ฉันจะไป

เพราะความรักทำให้รู้ว่า

จะมีชีวิตเพื่อคนที่สำคัญกว่าตัวฉัน

กว่าชีวิตฉัน ฉันสัญญา


ชอบจัง




ฝันรึป่าว

เมื่อคืนกึ่งหลับกึ่งตื่น
ไม่รู้ว่าฝันหรือว่าจิงนะ
รู้สึกว่าฝนตก
แต่เอ......
ฤดูหนาว  จามีฝนได้ไง
แต่รู้สึกว่าเหมือนได้ยินเสียงฝนตกป๊อกแป๊ก

เปลี่ยนที่นอน 
นอนไม่หลับเล้ยยยยย
ตื่นมาตั้งแต่หกโมงฝ่าๆๆ  ละ
อยากนอนต่อก็นอนไม่หลับ

ตอนนี้เริ่มง่วงอีกแล้ว

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ลาอ่วยไป 1 วัน

งดไปทำงานวันหนึ่งคะ
เนื่องว่ามาทำธุระต่างจังหวัด

วันเสาร์ก็ต้องรีบกลับบ้านไปส่งแม่งานอารายนะจำมะได้
อ่อ  งานขอบคุณลูกค้า  แม่จาไปดูคอนเสิร์ต
ต้องไปเป็นเพื่อน เพราะพ่อไม่ไป  เฮ้ออออ

ความจริงอยากจะลาสักสิบวัน ท่าจะดี  หุหุ

แล้วจาลาทำอารายละเนี่ย
ลาแค่วันเดียวก็เริ่มเบื่อแล้ว
ไม่มีอะไรให้ทำเลย
นอกจากอยู่เฉยๆ
นอนก็นอนไม่หลับ
เนื่องว่าไม่ได้นอนกลางวันมานานโขแล้วนะ

ทำงานก็หนุกดี  แต่ว่าปวดหัวกะคนซะมากกว่า
เคิ้ววววววว

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อันธพาลครองเมือง

พักนี้ได้ยินบ่อยมาก   เรื่องโทรศัพท์แปลกๆ 
ที่คอยโทรหาคนนั้นคนนี้
แล้วบอกว่าคุณค้างชำระหนี้
เป็นจำนวนเงินเท่านั้นเท่านี้
ซึ่งบางคนที่รู้ก็จะไม่พูดไร  ก็วางสายไป
ส่วนคนที่ไม่รู้ดิ  ก็คุยกะเค้าเป็นเรื่องเป็นราวไป
โดยไม่รู้ว่ากำลังโดนหลอกอยู่

ซึ่งวันนี้ก็มีพี่ที่ทำงานสามคน  เจอกะเหตุการณ์แบบนี้จังๆ  เข้าแล้ว
บอกว่าค้างชำระค่าภาษีต่างๆ  เป็นจำนวนเงิน สามหมื่น
พี่เค้าตกใจใหญ่  แต่ก็ยังไม่ได้ปรึกษากะใคร  ก็คุยโทรศัพท์ต่อ
พอเค้าเริ่มถามมาก ๆ เข้าก็เริ่มเอะใจ
แล้วก็ถามเกี่ยวกับชื่อ - สกุล 
หนักเข้าก็ เลข 13 หลัก 
ตอนนี้ก็เลยเริ่มรู้ตัวละ
กดปิดโทรศัพท์เลย
แต่ก็ยังโทรหาอีก
พี่เค้าก็เลยเริ่มรำคาญ  บอกว่าถ้าโทรมาอีกจะแจ้งตำรวจ
แป๊บเดียวแค่นั้นแหละ วางหูไปเลย
งี้ก็มีด้วย หากินกันแบบนี้  คงเจริญกันละ เฮ้อออออ

น่าสงสารคนที่ไม่รู้นะ  คงถูกหลอกไปหลายรายแน่ๆ 
สงสารจริงๆๆ เลย

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อิจฉาคนถูกหวยเฟ้ย

วันนี้หวยออก
พี่ๆ  น้องๆ  ในห้องก็คิดกันใหญ่
ว่าจะซื้อไรกันดี  อีลุงกุ้ง ก็เป็นอีกคนที่ซื้อหวย
มาถามเราว่าหวยออกไร ใครจะไปรู้ละเนี่ย
ถ้ารู้ก็คงไม่ต้องมานั่งทำงานให้เหนื่อยแล้วละลุง
อยู่บ้านใบ้หวยหาเงินน่าจะดี  คิคิ
ก็เห็นแกนั่งครุ่นคิดอยู่นาน
นั่งดูนั่นดูนี่ งานการไม่ทำละคะวันนี้ เพราะคิดเรื่องหวยอยู่
เป็นอันว่า สรุปแล้วได้ซื้อหวยไปหลายตัวเหมือนกัน
โดยใช้วิธีการสุ่มมั่วไปเรื่อย
เลขที่ได้ก็มีห้าตัว  หนึ่งในนั้น  ก็มี 141
ซึ่งเป็นตัวที่ถูกรางวัลด้วย

รู้มั้ยว่าแกเอามาจากไหน

แกนั่งดูปฏิทิน  พลิกไปพลิกมา
ก็ได้คำตอบว่า วันนี้เป็นวันพระ  แรม 14 ค่ำ  เดือน 1
สรุปซื้อเบอร์นี้แหละ เต็งๆ  10 บาท
มีแต่คนบอกว่าเพี้ยน  ซื้อไปได้ไง
แต่มันออกจริงๆ  ด้วยแหละ
คนที่หัวเราะๆๆๆๆ  จ๋อยไปเลย    หุหุ สนน.

พรุ่งนี้ได้กินข้าวฟรีคะ
ลุงจาเลี้ยงข้าว

ปล.  ร้อนๆ หนาวๆ เป็นหวัดไม่หายสักที

โลกกลมจิงๆๆ


ไม่ได้เจอเพื่อนรุ่นน้องคนนี้นานละ
สิบกว่าปีเห็นจะได้
รู้จักต๊อกสมัยเรียนมัธยมต้นแล้ว
เราเรียนกันคนละโรงเรียน
แต่ไปเรียนพิมพ์ดีดที่  กศน.ด้วยกัน เลยรู้จักกัน
อยู่ด้วยกันเกือบสามสี่เดือน 
ต๊อกเป็นเด็กน่ารักนะ ตาโต ๆ แก้มป่องๆ  น่ารักมากๆๆ
ต๊อกเป็นเพื่อนกะนายโล้นซ่าส์  เพื่อนที่ทำงานด้วยกัน  คิคิ
เห็นรูปปั้บ บอกเลยว่าช่ายยัยต๊อกแน่ๆ
และแล้วก็ช่ายจริงๆ  ด้วย  ดีใจอย่างบอกไม่ถูก

ตอนนี้ก็ได้คุยกันบ้างละ
แต่ยังไม่หนำใจเท่าไหร่
เพราะต่างคนต่างก็มีงาน
ยิ่งช่วงนี้เราก็ยุ่งมากๆ ด้วย
ทำสรุปงานประจำปี    นั่งหน้าคอมทั้งวัน  ปวดลูกกะตาไปหมด
แต่กำลังนัดเจอกัน  หุหุ 
อยากเจอหน้าสุด ๆ

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ถ้าหาได้ง่ายคงดี

ถ้าหากความสุขมันหาซื้อได้ง่าย
ตามร้านสะดวกซื้อก็คงดีนะ
ทุกคนบนโลกใบนี้ก็คงไม่มีใครที่รู้จักกับคำว่า  "ความทุกข์"

แต่เพราะ...ชีวิตจริงมันไม่ง่าายขนาดนั้น
ไม่ว่าที่ใดบนโลก..ความเป็นจริงคือมันมีสองด้าน
บางความทุกข์...เราไม่สามารถกำหนดได้
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกเผชิญหน้ากับมันแบบใด 
และเราก็รู้ดี...
บางความสุข...เราสามารถสร้างขึ้นมาได้ในหัวใจ
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกเผชิญหน้ากับมันไหม  ...ก็เช่นกัน

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

โกหกอีกจนได้

กลับบ้านไปเอาสมุดบัญชีธนาคาร  ตอนเที่ยง
ดันไม่มีใบขับขี่ เลยโดนตำรวจจับซะเลย
ไอ้เราก็หาทางเอาตัวรอดซะหน่อย
โกหกไปว่าต้องรีบไปทำธุระให้เจ้านาย
ก็เลยขอโม้เอาชื่อรองปลัดเทศบาลไปอ้างซะ
ปรากฏว่าได้ผลซะด้วย
คุงพี่ตำรวจปล่อยไปอย่างง่ายดาย
แต่ก็ปล่อยขอแกล้งจดชื่อกะนามสกุล
แล้วก็แกล้งเขียนนั่นเขียนนี่
ที่ทำอย่างนี้ไม่ช่ายไรหรอก
ต้องแกล้งทำทีว่ากำลังเขียนใบสั่ง
เพราะมีประชาชนตาดำๆ  อีกหลายคนที่โดนจับอยู่
จึงต้องทำอย่างนั้น

*-*
คิคิ

วันนี้ตำรวจเชียงรายน่ารักมาก ๆ

กลับมาถึงสำนักงานเรียบร้อย
ก็เลยสารภาพกับรองฯ  ว่าได้ยืมชื่อไปแอบอ้างนิดหน่อย
แกหัวเราะใหญ่เลย
ดีนะที่หัวเราะ ไม่ด่าเราก็ดีแล้ว หุหุ

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สู้...ต่อไป

เจ็บปวดกับความผิดพลั้ง เหมือนหนทางผิดกั้นมืดสนิท


มีบ้างไหมความสุขในชีวิต ใครหนอใครที่ลิขิตชีวิตเรา

มองดูแล้วก็คงไม่มีใคร ที่คอยปลอบใจยามปวดร้าว

ถ้าอย่างนั้นจงทำเสียเถิดเรา อย่ามัวเศร้าหรือเสียใจไปเลย

ไม่มีอะไรน่าเสียใจ


ถ้าเราต้องเริ่มต้นใหม่อยู่เสมอ

เพราะถ้าพระอาทิตย์ไม่ตกดิน

เราก็จะไม่ได้เห็นรุ่งอรุณที่สวยงาม

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

แจ๋วอีกแล้ว

วันหยุด ก็ไม่ได้หยุด
งานบ้านตรึม
ปลวกก็ขึ้นเกาะเต็มประตูเลย
สงสัยคงอยากได้ประตูใหม่แน่ๆ
วันนี้ทำบาปอีกแล้ว
ฆ่ามด ฆ่าปลวกไม่รู้กี่ตัวเลย

แต่เมื่อเช้าตื่นมาตั้งแต่หกโมงแล้ว
ตื่นมาใส่บาตร  แต่ไม่รู้จาล้างบาปครั้งนี้ได้ป่าวนะ 

ผิดหวัง

ชีวิตของฉันที่ผ่านมา...
มีอะไรหลายอย่างที่อยากทำ แต่ทำแล้วไม่ได้ดี
มีอาชีพที่ฉันเคยฝันว่าอยากทำให้ได้  แต่ก็ไม่ได้ทำ
แต่ฉันไม่เคยเสียใจ
....
มีเพียงแค่ความผิดหวัง...
ที่ความฝัน...สุดท้ายแล้วมันก็เป็นความฝัน
แต่ฉันก้เลือกที่จะยิ้มรับกับความผิดหวังนั้น
เพราะอย่างน้อย ฉันก็ได้พยายามทำแล้ว
และแม้ว่าในตอนสุดท้าย...
คำตอบที่ได้มันจะไม่ใช่อย่างที่ฉันฝันไว้
ความเป็นจริงในสิ่งที่ฉันทำได้ดี
กลับกลายเป็นอีกอย่างที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อน
แต่มันจะแปลกอะไร?????

ปล.  เสียใจ+ผิดหวังนิดหน่อย  สอบ กพ.  ไม่ผ่าน  เฮ้ออออออ

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อยากย้อนเวลาได้จัง

วันนี้ไปตรวจโรงครัวที่โรงเรียนสามัคคีมา
หนุกหนานกันไปตามประสา
เด็กๆ น่ารักดี วัยอยากรู้อยากเห็น อยากลอง
ขอทำนั่นทำนี่บ่อยๆ  ก็เลยบ่อยให้ลองทำดู


ให้นักเรียนลองทำดู
ชอบกันมาก ๆ

แม่ค้าก็กัวกันใหญ่ ว่ามือตัวเองจะสะอาดป่าว
พากันล้างยกใหญ่  คิคิ
ความจริงก็อยากให้ไปตรวจโรงเรียนเก่าของเราบ้าง
ดำรงราษฏร์สงเคราะห์  หุหุ   คิดถึงโรงเรียนจังเลย
ไม่ได้เข้าไปนานละ ล่าสุดไปไหว้ครูกะเพื่อนๆ  แต่เมื่อสามปีที่แล้วละ
เพราะไม่มีเพื่อนไป มันอยู่ต่างจังหวัดกันหมด
ไว้กะว่าจะไปอีกทีตอนสงกรานต์ ไปรดน้ำดำหัวพร้อมกันใหม่อีกรอบ

เห็นเด็กๆ  นั่งทำข้อสอบกัน
หน้าตาเคร่งเครียด
บางคนแอบลอกกันด้วย เป็นภาพที่คุ้นๆ ตา
เหมือนกับว่าเราก็เคยทำ  หุหุ
คิดแล้วอยากย้อนกลับไปเรียนหนังสือบ้าง  คงหนุกน่าดู



ไอ้ที่ทำได้ก็ทำใหญ่เลย  ส่วนไอ้คนที่ทำไม่ได้  ก็นั่งหลับไปตามๆ  กัน

วันนี้ไม่ได้อยู่สำนักงานเลย
ทัวร์ตลอด 
ส่งหนังสือประชาสัมพันธ์งานปีใหม่ให้เทศบาล
เกือบจะทั่วนครเชียงรายเห็นจะได้
นั่งรถไปก็ง่วงไป  เฮ้อออ   ตื่นเช้าไปหน่อย
ไม่ไหวๆ 
เดินส่งหนังสือไป สะดุดเท้าตัวเองไป หัวแทบขมำ
เฮ้อออ  ยังไม่หายโก๊ะนะเรา

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552

พักหนึ่งวัน

ได้พักหนึ่งวัน ก็ดีมาหน่อย
แต่พรุ่งนี้ลุยงานต่อ
แล้วก็จะได้หยุดอีกสองวัน
ม่ายรู้จะต้องทำอะไรต่อมิไรอีกน้ออออออ

ตื่นซะสายเลยวันนี้  ปาไปเกือบเก้าโมง
แล้วก็มาลุยงานบ้านต่อ
ทำนั่นทำนี่  ก็ใช้เวลามากโขเหมือนกัน
ค้นหาหนังสือในเน็ต ก็ยังไม่ได้ดั่งใจ
ไปร้านหนังสือก็ไม่มี
สั่งจองไปแล้้วไม่รู้จาได้รึป่าว
เซ็งอีกแล้ว
จาเอาไรมาอ่านละทีนี้

นอนเอาแรงดีฝ่าพรุ่งนี้เริ่มงานอีกหนึ่งวัน
ก็ได้พักแล้ว ดีใจจริงน้อ

ยังไม่รู้คำตอบ

ชีวิตของฉัน...มีอะไรอีกหลายอย่างที่อยากทำ   แต่ยังไม่ได้ทำ
          มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายที่ที่อยากไป แต่ยังไม่ได้ไป
มีสิ่งของอีกหลายอย่างที่อยากได้   แต่ยังไม่มีกำลังที่จะซื้อ
มันเป็นความหวัง    เป็นความฝัน  เป็นจุดหมายที่อยู่ในใจ
                                         แต่ในอนาคตจะทำได้หรือไม่?
                                 ...แม้แต่ฉันเอง ก็ยังไม่รู้คำตอบ.....
.                                 ......................................................

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อ้อมกอด


"อ้อมกอด"
การแสดงออกแทนคำพูดนับพัน
ฉันชอบดูคนกอดกัน
เปล่านะ...ฉันไม่ได้ชอบเห็นฉากเลิฟซีนแต่อย่างใด
แต่ฉันหมายความว่าฉันชอบเห็นภาพ  "คนกอดกัน"  จริงๆ
....................................
เพราะการกอดกัน..เป็นการแสดงออกถึงความรู้สึก  "รัก"
และ "ความรัก"ก็เป็นความรู้สึกดีดีที่ยากจะหาคำใดมาอธิบายได้
เวลาที่เรารู้สึกรักใครสักคน...หรืออยากบอกเขาว่าห่วงใย
การกอด...จึงเป็นวิธีการแสดงออกง่ายๆ  ที่ทำให้เข้าใจถึงความหมายนั้น

"เพราะแค่  "กอด"  เท่านั้น   ...มันก็แทนคำพูดว่า  "รัก"  นับพันครั้งแล้ว"

สดชื่น.....

ได้นอนพอแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย
ตื่นมาพร้อมกะความสดชื่น 
วันนี้หนาวนะ
ขับรถใส่ถุงมือ ผ้าพันคอ แถมถุงเท้าด้วย
เหอๆๆ  ต้องดูแลตัวเองหน่อย
ไม่อยากเป็นหวัด
เดี๋ยวไม่ได้เที่ยวปีใหม่กะคนอื่นๆ
เอ...  ว่าแต่เรายังจะได้ไปเที่ยวอีกเหรอเนี่ย
ยังไม่มีโปรแกรมเลย 
ต้องรอโชว์เฟอร์ขวัญอย่างเดียว
ขวัญไปไหน  เข็มไปด้วย  คิคิ...

*-*

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ใจไม่อยู่กะร่องกะรอย

หน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลม
เอ...วันนี้เป็นไรน้อ
รู้สึกมึนๆหัวนะ
ขับรถก็ใจลอยชอบกล
วันนี้นับได้ก็สามครั้งแล้ว
ที่ขับรถแล้วไม่ได้เอาขาตั้งมอไซด์ขึ้น
ดีซิที่รถไม่ล้ม

ลุกๆ นั่งๆ ก็เหมือนจะไม่ไหว   อาการน่าเป็นห่วง

สงสัยจาพักผ่อนไม่เพียงพอแน่ๆ ๆ

เมื่อกี้ก็นอนไปรอบละ
นอนแบบไม่ได้ตั้งใจ
เดินเข้าไปในห้องแล้วไม่รู้นอนตอนไหน
พอดีได้ยินเสียงหมาเห่าสะดุ้งตื่น
โอ!!!  ไหงมานอนข้างเตียงได้หนอเรา
จะว่าเป็นลมก็ไม่น่าใจ  ง่วงเหรอ  ยังงงตัวเองอยู่เลยนิ
เฮ้อออออออ  ไม่เข้าใจ

พี่ไก่ก็ทักว่าช่วงนี้ผอมนะ
แก้มหายไปไหน
หน้างี้ตอบเชียว
คงจาไม่ได้พักอย่างที่ว่านั่นแหละ
เหนื่อยกะเรื่องไม่เป็นเรื่อง
เครียดกะเรื่องบ้าบอคอแตก
ตอนนี้กำลังพยายามทำใจให้สบาย
จาได้หาย
เพราะไม่งั้นคงได้ไปนอนโรงบาลแน่ ๆ

วันนี้จานอนแต่หัวค่ำเลย

เออ... เมื่อคืนก็ฝันเห็นผีด้วย
นอนละเมอทั้งคืน
ไม่น่าดูหนังผีเลยเรา
ความจริงก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลยนะ
ไม่น่าเอาไปฝันได้เป็นเรื่องเป็นราว 
ในฝันน่ากลัวสุดๆ  คิดแล้วสยอง
ขืนฝันอย่างนี้บ่อยๆ  คงต้องตายแน่เลยเรา

อูยยยยยยย  ฝันร้าย

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทัวร์เจียงใหม่กลับมาแล้วเจ้าาาาา

กลับจากเชียงใหม่ก็เกือบๆสี่ทุ่มละ
อาบน้ำแล้วกะว่าจะนอนเลย
แต่ดันไม่อยากนอน ก็เลยมานั่งเลยบล็อคเล่นๆ
รถติดมาก ๆ เหนื่อยกับการเดินทางสุดๆ
รู้งี้ไม่ไปซะก็ดี
แต่ก็หนุกดี  เดินทั้งวันขาแทบหลุด
น่องระบมเลยเรา

บัณฑิตใหม่  หน้าตาสดใสสวยสมวัย



เหอๆ  นี่ใครก็ไม่รู้




สามพี่น้อง คนกลางนะ ยัยบ้าไหนก็ไม่รู้
แต่ไอ้สองคนนะ  บัณฑิตคือน้องอ้อม  อีกคนยัยอี๊ด  เป็นพี่น้องกัน




ส่วนยัยสองคนเนี่ย  น้องน้ำกะน้องนุ่ม  สองพี่น้องยอมวุ่นวาย
อ๊วกกระจายในรถเลย เฮ้อออ ชวนพากันเวียนหัวไปหมด

วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ร่วมพิธีวันพ่อ

ที่หมู่บ้านจัดพิธีถวายพระพรพ่อหลวง
เลยไปร่วมกะเค้าหน่อย
เจอเพื่อนเก่าๆหลายคนเลย
มีพระมาให้พรด้วย
จุดพลุกันดังสนั่น
ปล่อยโคมไปหลายลูก
สุดท้ายก็จุดเทียนถวายพระพรแด่ในหลวง
เป็นอันเสร็จพิธี

ภาพออกมาไม่ค่อยสวย มือสั่น  หนาวอะ

หนาวแต่บรรยากาศอบอุ่น คับคั่งไปด้วยผู้คน

เราจุดเทียนแบบนี้มาหลายปีละ แล้วก็ยังอยากจะทำต่อไปอีกทุกปี 

^^  รีบๆ ไปนอนดีฝ่าาา
พรุ่งนี้ต้องตื่นไปเชียงใหม่แต่เช้า
เดินทางโดยสวัสดิภาพนะจ๊ะทุกๆคน
ฝานดีด้วยนะจ๊ะ

กราบเท้าพ่อกะปู่เรียบร้อยด้วยคราบน้ำตา
แต่เป็นน้ำตาแห่งความรักและเคารพ  หุหุ

Happy holiday & Father's Day

วันหยุดนี้ต้องทำงานบ้านให้เสร็จ
ซักผ้ารีดผ้า อาบน้ำน้องหมา
ทำทุกอย่างๆ ที่ยังไม่ได้ทำ
เพราะพรุ่งนี้ต้องเข้าเชียงใหม่
ไปรับปริญญาน้องสาวสุดสวย
^^

ขี้เกียจนั่งรถสุดๆ  ตอนแรกว่าจะนั่งไปกะรถตู้
แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจละ จะไปพร้อมกะนายขวัญ
ดีเหมือนกันจาได้ออกสายๆ 
ป้าๆ น้าๆ ที่ไปกะรถตู้ ออกตีสี่  เจ้าขวัญจะออกหกโมง
ยังมีเวลานอนต่ออีกหน่อย
ไอ้จิปร์ก็ดันมานัดกินข้าววันนี้ ก็เลยขอปัดไปก่อน
ทีตอนที่ว่างๆ  ก็ไม่ชวนนะไอ้เพื่อนคนนี้
ไม่รู้จางอนป่าว
รับรองได้เจอกันแน่ๆ  ไม่ต้องงอนนะคุงเพื่อน
คิดถึงแกเสมอแหละ อยากเจอน้องโมเดลด้วย
ไม่ได้เจอหลายเดือนแล้ว  โตขึ้นบ้างรึยัง
อยากเห็นตอนใส่ชุดนักเรียน คงน่ารักดี  คิคิ....

อาการโก๊ะเกิดแต่เช้าเลย
เดินสะดุดขาโต๊ะ หัวแทบขมำ แย่จริงๆ เลยเรานิ

นัดกะอี๊ดไว้จะให้ตัดผมให้ คงบ่ายๆ  จาไปหา
ขอไปซื้อของให้แม่ก่อน
เอ....วันนี้มีถนนคนเดินด้วย  ชวนอี๊ดไปเที่ยวดีฝ่า
เอ....วันนี้วันพ่อนะ ต้องอยู่บ้านกะพ่อซิเนาะ 

Love  Daddy

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

รำลึกความหลัง

หูชา มือชา เท้าชา ไปหมด
ขับมอไซด์มาทำงานตอนหกโมงครึ่ง
หนาวสุดๆ  แทบจะแข็งตาย
ไม่มีหรอกที่ต้องแหกตาตื่นมาแต่เช้าก็เพราะว่า.....
วันนี้มีจัดนิทรรศการ วันที่ 4 ธันวา  วันสิ่งแวดล้อมโลก


เลยมาแต่เช้าเลย
เพราะตื่นสายหรือไม่ก็ทำงานบ้านจนต้องมาทำงานสาย
เป็นอย่างนี้มาเกือบห้าเดือนละ
ไม่ได้เจอบรรยากาศแบบนี้นานละ
เห็นพระสงฆ์เดินบิณฑบาตรควักไคว่
เลยแวะซื้ออาหารใส่บาตร
ก็ไม่ได้ใส่นานเหมือนกันนะ
ปกติเทศบาลจะมีการจัดเวรไปใส่บาตรกันตอนเช้า
เราก็ไปนะ อาทิตย์ละครั้ง
วันนี้ก็เลยขอรำลึกความหลังซะหน่อย

T_T   อิ่มบุญไปตามๆๆ กัน 
---พรุ่งนี้วันพ่อ  รักพ่อมากมาย
---เจ้าขวัญกลับจากเชียงใหม่วันนี้ ขับรถดีๆ นะน้องรักของพี่
    กลับมาต้องมาเคลียร์เงินเคลียร์ทองกันก่อน  หมดไปหลายเลย
    พี่มันจะกินแกลบอยู่แล้ว  คิคิ ....



เด็กๆ กำลังสาละวนทำความสะอาดคลองหน้าโรงเรียน
ท่าทางน่าสนุก นั่งเรือเล่น  คิคิ

ทูอินวัน

เหอๆๆ ต้องปลอมแปลงเอกสารกัน
อ้ายกุ้งจะทำสัญญากู้เงินเพื่อปลูกสร้างบ้าน
แต่ภรรยาคุณท่านไม่อยู่
เลยขอร้องแกมบังคับให้เราช่วยกลายร่างเป็นศรีภรรยาคุณเธอหน่อย
ก็ต้องช่วยซิคะ  เฮ้ออออ  ทำไงได้ละ
เป็นทั้งภรรยา  แล้วยังต้องเป็นพยานในเอกสารการกู้เงินอีก
เฮ้อ เอาเข้าไป คิคิ....

เลยบอกไปว่า ถ้าจะปลูกบ้านนะ ขอทำให้ห้องหนึ่ง
เพื่อภรรยาคนนี้ หุหุ... เวลาไปพักจาได้มีห้องนอน
พี่แกก็เลยก็ว่าจะทำให้ แต่จะให้อยู่ห้องบนเพดานนะ
ทำไปได้นะเรา  คนบ้าที่ไหนจาขึ้นไปอยู่บนเพดาน
หุหุ นอกจากหนูเท่านั้นหรือไม่ก็แมลงสาบ

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ง่วงมาก

จากการที่ไปตักบาตรเมื่อคืน
กลับมาถึงบ้านตีหนึ่งกว่านิดๆ 
นอนต่อ แล้วดันตื่นมาตอนตีห้า
ไม่รู้ตื่นมาทำ...ไร
ยังไม่เข้าใจตัวเองเลยนิ
เซ็งสุดๆ 

บ่ายๆ  มากินส้มตำไก่ย่างกันอีก

สรุปคือ  ง่วงมาก ๆ
พิมพ์หนังสือผิดๆ  ถูกๆ
ม่ายไหวๆ ๆ

ตักบาตรเป็งพุด

ครั้งแรกกับการที่ได้ออกมานอกบ้านตอนดึกๆ คนเดียว


ครั้งแรกในชีวิตกับการตักบาตรตอนเที่ยงคืน
เข้านอนตั้งแต่สามทุ่มละ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้
ตื่นมาตอนห้าทุ่มครึ่งเก็บของแล้วก็ขับรถออกบ้าน
ขับรถไปเรื่อยๆคนแยะแฮะ นึกว่าจะไม่ค่อยมีคน ที่ไหนได้
เดินแทบจะชนกัน วุ่นวายไปหมด
นึกว่าจะต้องยืนหนาวคนเดียวซะแล้ว
ไหนได้ ร้อนดับแตก
เพราะคนวุ่นวายเสียงดังโกลาหล



ครั้งแรกกับการต้องใส่บาตรคนเดียว
เห็นคนอื่นๆเค้ามีคู่ใส่กัน บ้างก็ใส่กะครอบครัว กะแฟนบ้าง
เราเหรอ เหอๆๆๆใส่คนเดียว ก็ชวนใครไปแล้วไม่มีใครไป
แม่ก็ไม่ค่อยสบายเลยต้องไปคนเดียว แต่ก็ช่ายว่าจะใส่คนเดียวซะที่ไหน
มีคนใส่ด้วยเป็นร้อยเลย เต็มถนนไปหมด
ก็ดีเพราะการได้ทำอะไรคนเดียวๆ เป็นเรื่องปกติของเราอยู่แล้ว
ส่วนมากไปไหนทำอะไรก็ต้องทำคนเดียวจนชินแล้ว เลยไม่คิดมาก
ใครจะไปอยากไปก็ไปไม่อยากไปก็ไม่อยากบังคับ เบื่อกับการต้องมานั่งคิดนั่งรอ
สู้ทำอะไรคนเดียวแล้วสบายใจดีกว่า

ครั้งแรกในการตักบาตรนี้ประทับใจ
และหวังว่าคงจะมีครั้งต่อไปอีก

T_T
สบายใจขึ้นมาอีกขั้น แต่ไม่รู้ว่ามากน้อยแค่ไหน

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

----------

เหนื่อย....

อยากพัก....

ไม่อยากรับรู้ปัญหา....

แต่มันเป็นความจริงที่ต้องเผชิญ....

ต้องสู้กันต่อไป....