วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

มีเรื่องให้น่าปวดหัวได้ทุกๆ วัน
เฮ้ออ เลยไม่รู้จากทำไรดีก่อน
ช่างมันเต๊อะ
เซ็งจริงๆ

วันนี้พาแม่ไปเที่ยวงานอีซูซุมา
หนุกดี มีดารามาด้วย
แอน ทองประสม สวยมาก ๆ
กัปตัน ก็โอเคนะ
แต่ตั๊ก บริบูรณ์นี่นิน่ารักเชียว
ไม่เหมือนในทีวีเลยแฮะ แต่ตัวเล็กไปหน่อย
คิคิ....

ส่วนคอนเสริตก็ไม่ได้ดูหรอก
ก๊อต กะ ต่าย แอบกลับบ้าน
ไม่อยากดู ดูบ่อยละ อยากกลับบ้านมาพักมากกว่า
เพราะพรุ่งนี้ต้องลุยงานต่อ คงจะเลิกดึกอีกแน่ๆ
นอนพักเอาแรงน่าจะดี คิคิ...

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ทำงานทั้งวันทั้งคืน

ถึงงานเทศกาลลอยกระทงอีกแร้วว
งานที่ต้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำกันทั้งวันทังคืน
ทำกันสามวันรวด
ความจริงก็หนุกนะ
นานๆ ทีได้ทำงานตอนกลางคืน หุหุ
จะเสียตรงที่ว่า ต้องขับรถเข้าบ้านดึกๆ นี่แหละ
กัวทั้งคนกัวทั้งผี เฮ้ออออออ
ทนเอา ๆ

สองสามวันมานี้ พีก้อยบอกให้เอาหวยไปลองขาย
ก็ขายได้นะ แต่ขายแบบบังคับให้พี่ๆ น้องๆ ช่วยกันซื้อ
เพราะไม่รู้จาไปขายให้ใคร
งวดหน้าคงไม่เอาอีกแล้ว
ไม่อยากแบกหน้าไปอ้อนวอนให้ใครมาซื้อ
เค้าคงไม่ชอบที่ให้เราไปบังคับ
มันก็คงอารมณ์เดียวกันกับเราที่เวลามีใครมาบังคับให้เราซื้อหวย
เพราะเราไม่มีวาทศิลป์ด้านการขายเลย
ขี้อายอีกต่างหาก กว่าจะขายได้แทบแย่
ได้กำไรสามร้อยต่อหวยหนึ่งเล่ม
อันที่จริงก็ไม่ต้องทำไรมากนะ แค่ไปบอก/บังคับให้ใครๆ ซื้อหวย หุหุ
กำไรเห็นๆ แต่ขอบอกไว้เลยว่า ไม่เอาแล้ว
ไม่ไหวๆ ๆ ขออดตายดีกว่าที่จะต้องไปขายหวย
ต่อไปนี้คงไม่เอาอีกแล้ว เข็ดจนตาย


เฮ้ออออ นอนดีกว่า
เตรียมตัวทำงานวันอาทิตย์ วันจันทร์ วันอังคาร ทำกันแต่เช้ายันดึก
คงผอมอีกแน่ๆ เลยเรา
แค่นี้ก็เหลือแต่กระดูกอยู่แล้ว

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

มันอยู่ที่ใจ

หัวเราะ...เมื่ออยากหัวเราะ
ร้องไห้...เมื่ออยากร้องไห้
และต้องหัวเราะให้ได้หลังร้องไห้ทุกครั้ง!

อย่าทำอะไรที่ไม่อยากทำ...
จงทำอะไรที่ใจอยากทำ...!

ตัวหนังสือ...เขียนผิด...ลบได้
การกระทำ...ทำผิด...เอาอะไรลบ

นึกว่าหมากำลังไล่ฟัดซิ...!
...จะได้รีบวิ่งรี่เข้าเส้นชัย...
...ล้มเมื่อไหร่จะได้รีบลุก...

ทุกย่างก้าว ของ ความฝัน คือ ย่างก้าว ของ ความเหน็ดเหนื่อย
ทุกย่างก้าว ของ ความเหน็ดเหนื่อย คือ ก้าวย่าง ของ ความสำเร็จ

ต่อให้ทุกข์ที่สุด....ก็ต้องผ่านพ้นไปจนได้
เมื่อเรานั่งมองอดีต เรายังผ่านทุกข์มาได้ตั้งหลายทุกข์
ก็ในเมื่อ..ชีวิต...มันยังมีชีวิต
ขอแค่อย่าทุกข์ก่อนเจอทุกข์
หลังทุกข์ อย่าทุกข์อีก
ให้ทุกข์ แค่ตอนทุกข์
แล้วทุกข์ที่สุด...ก็จะเป็น ทุกข์ แค่นี้เอง!

ให้ทำหน้าที่ทุกหน้าที่ด้วยหัวใจ
ให้หัวใจตระหนักในหน้าที่....
แล้วเราจะไม่รู้สึกว่าหน้าที่เป็นหน้าที่
แต่เป็นการกระทำที่เกิดจาก...หัวใจเรียกร้อง...ต่างหาก

ดีไม่ดี...อยู่ที่ใจเรา...
ถ้าใจเรา...คิดดี เราก็จะเจอแต่สิ่งดีๆ
ถ้าเรามองในทางที่ดี...ใจเราก็จะรู้สึกดี
ถ้ากำลังใจดี...สิ่งเลวร้าย...ก็จะคลี่คลายเป็น...ดี!

ทัวร์รถราง

ที่ทำงานเอารถรางมาให้นั่งเล่น
ก็หนุกดีนะ ไม่เคยได้นั่งก็ได้มานั่ง
แต่ช้าไปหน่อย ไม่ค่อยทันใจเลย
ก็รถรางนีเนาะ ต้องช้าเป็นธรรมดา (น้องๆ เต่า)
เอออ พี่เต่าเราก็กำลังมีปัญหาเหมือนกัน
ก็ไม่มีไรแตกต่างจากเรามากนัก
ปัญหารถชน หุหุ แต่ของพี่เต่าดีกว่าเรานิดหน่อย
ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อม เฮ้อออ เราดิ จ่ายบานเบอะเลย
ยังคิดไม่ออกว่าจะไปหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าซ่อม เซ็งงงงงงงง

นั่งรถรางชมเมืองเชียงราย ก็โออยู่
ได้ขึ้นไปบนวัดที่เราไม่ได้ไปมาเกือบปีละ
ดูกี่ทีกี่ทีก็ยังสวยเหมือนเดิม
อากาศดีสุดๆ ไว้ว่างๆ คงต้องหาโอกาสขึ้นไปไหว้พระ
เพราะไปครั้งล่าสุดก็สงกรานต์ปีที่แล้วหละ

วันนี้มีประชุมด้วย ตื่นเช้าในประวัติการณ์
ตื่นมาด้วยความไม่อยากลุกเลย ยิ่งวันนี้อากาศก็หนาวด้วย
อูยยยยย ขับมอไซด์ไปทำงานยิ่งหนาวเข้าไปใหญ่
ก็ดี รับอากาศดีๆ แบบนี้
งานยุ่งทั้งวันเลยอะ เหนื่อยสายตัวแทบขาด
ง่วงด้วย คงหลับเป็นตายแน่ๆ วันนี้
อ่อ มีคนทักว่าผอมไปต้องกินให้แยะๆ กว่านี้
จาให้ทำไงละทีนี้ถึงจะอ้วน
คงต้องกินทั้งวันเลย จาได้อ้วนๆ ๆ

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ชีวิตต้องสู้

เฮ้อออ ปัญหาโลกแตก
ยังไงก็ต้องสู้กับปัญหาให้ได้
ไม่ตายก็ต้องสู้กันต่อไป

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เศร้า

ไม่รู้จาบอกไง
น้องเซฟของเรา พังแล้ว
แง้ๆๆ
น่าสงสารนะ เฮ้อออออ
แต่คนไม่เป็นไรก็ดีละ
ขอบคุณสวรรค์ที่เมตตา

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552

โปรดส่งใครมารักฉันที

จะต้องเหงากันอีกนานไหม ต้องนั่งถอนในอีกกี่ครั้ง
จะต้องพบเจอกับรักที่ผิดหวัง กี่ครั้งถึงพอใจ
เปิดเพลงรักฟังอยู่คนเดียว มีรักข้างเดียวมันเปลี่ยวหัวใจ
มองไปรอบตัวก็ยังไม่เห็นใคร ทำไมต้องเป็นเรา

* คอยปลอบตัวเองว่ามีสักวัน ที่เจอคนที่เขาจริงใจ
ยังคอยบอกตัวเอง ว่าต้องมีสักวัน แต่ว่ามันก็ไม่รู้เมื่อไหร่

** โปรดส่งใครมารักฉันที อยู่อย่างนี้มันหนาวเกินไป
อยากจะรู้รักแท้มันเป็นเช่นไร มีจริงใช่ไหม
โปรดส่งใครมาเป็นคู่กัน ที่ไม่ทำให้ฉันเดียวดาย
ช่วยมาทำให้ฉันเข้าใจ และได้รักใครกับเขาสักครั้ง

มันอ้างว้างจนทนไม่ไหว พยายามห้ามใจ ไม่ได้สักวัน
อยากจะรู้จริงก่อนคนเขารักกันมันเป็นเช่นไร


กับเขาสักครั้ง..
ช่วยมาทำให้ฉันเข้าใจ และได้รักใครกับเขาสักครั้ง

ฟังวิทยุออนไลน์ ที่ izeemusic

เวลาตาย

ในกระจกมัวๆ มีคนเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง
คนที่เพิ่งลึกซึ้ง ถึงความเดียวดาย
นาทีที่กาลเวลา บอกว่าเธอมีค่าเพียงใด
คือนาทีที่สาย เกินหวังให้ใครกลับมา

เหมือนคนตื่นจากฝัน ตามทวงวันและคืนดีๆ
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยรักษา
เวลาที่คิดว่าพอ กลับไม่พอให้พูดคำลา
ทำได้เพียงแค่นึกรู้สึกโหยหามัน

ชีวิตนี้ ถ้าไม่มีเธอก้าวเข้ามา
ฉันคงเป็นคนไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น
แปลกที่คนไม่รู้ มีเพียงผู้เดียวคือฉัน
อยากกอดเธอแน่นๆ นานๆ ในวันที่เสียเธอไป

เชื่อว่าที่ตรงนั้น เธอยังพร้อมจะรอฉันอยู่
แล้วที่สุด ก็รู้เธอรอไม่ไหว
เจอเพียงแค่รอยน้ำตา หยดบนนาฬิกาที่ตาย
ให้ฉันได้กอดมันไว้ แล้วบอกว่ารักเธอ

ชีวิตนี้ ถ้าไม่มีเธอก้าวเข้ามา
ฉันคงเป็นคนไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น
แปลกที่คนไม่รู้ มีเพียงผู้เดียวคือฉัน
อยากกอดเธอแน่นๆ นานๆ ในวันที่เสียเธอไป

เชื่อว่าที่ตรงนั้น เธอยังพร้อมจะรอฉันอยู่
แล้วที่สุด ก็รู้เธอรอไม่ไหว
เจอเพียงแค่รอยน้ำตา หยดบนนาฬิกาที่ตาย
ให้ฉันได้กอดมันไว้ แล้วบอกว่ารักเธอ

เวลาทุกเสี้ยวนาที คนคนนี้จะเก็บมันไว้
จะจำจนวันสุดท้าย ว่าเคยได้กอดเธอ




เวลากับนาฬิกามันต่างกัน

นาฬิกา คุณให้ใครไปแล้วคุณยังขอกลับคืน มาได้

แต่ เวลา สี่พยางค์สั้น ๆ นี้ คุณให้ใครไปแล้ว

คุณไม่สามารถนำมันกลับคืนมาได้

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

รถไฟฟ้ามาหานะเธอ

อยู่บ้านก็ไม่รู้จะทำไร
วันหยุดแท้ๆ
เล่นเน็ตอยู่ครึ่งค่อนวัน ชักเบื่อๆ
นอนก็นอนไม่หลับ เฮ้ออออ
แวะไปดูหนังหนึ่งรอบ
หนุกดี โรแมนติกสุดๆ
มีทั้งสุขปนเศร้า เคล้าน้ำตาหลากหลายอารมณ์
ตั้งแต่ดูหนังมารู้สึกว่าเรื่องนี้เข้าท่านะ
แม้จะไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่
แต่ได้ใจเกินร้อย

ปวดหัวอีกแระ
เมื่อไหร่จะหายสักที
เมื่อวานเจ็บหน้าอกแป๊บๆ
วันนี้ปวดหัว
ตายแน่ๆฉัน อาการหนักขึ้นทุกวัน
แย่จริงๆ เลย

เอาอีกแล้ว

ไม่หายสักทีนะ ไอ้ที่ปวดหัวเนี่ย
เป็นๆ หายๆ
สงสัยใกล้ตายละ
เอ้อออ
ไปนอนดีกว่า เผื่อตื่นขึ้นมา
ไรๆ ๆ จะได้ดีขึ้น

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เศร้า...

ได้ยินแล้วรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก
น้องนอม จะฝึกงานวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว
ความจริงต้องสิ้นเดือนนะ ถึงจะสิ้นสุดการฝึกงาน
แต่บังเอิญคุงน้องเธอ สอบได้ไปเป็นครู กศน.
แล้วต้องเริ่มงานวันจันทร์นี้ละ...
ฝาแฝดเราจะไปอีกแล้ว
เศร้าจังอะ ..
พี่แอนก็หนีไปคนละ
น้องนอมก็ยังจะไปอีก
ทำใจมะค่อยได้
เฮ้ออออ เศร้า อย่างบอกไม่ถูก
เหงาด้วย
นอมเป็นคนแปลกหน้าที่เข้ามาในชีวิตได้ไม่นาน
แต่กลับเป็นคนที่เรารู้สึกสนิทมาก
นิสัยคล้ายๆ กัน
บ้าๆ บ๊องๆ
มีไรหลายๆ อย่าง ที่เหมือนกัน
มีหลายๆ คนถามว่า เป็นพี่น้องคลานตามกันมาเหรอ
หุหุ เข็มมีฝาแฝดแล้ว

ไม่อยากให้ถึงวันจันทร์เลย
วันที่ต้องนั่งคนเดียว
ครานี้คนเดียวจริงๆ แล้ว คงเหงาแน่ๆ
ไม่อยากจะคิดเลย เศร้าอะ....

ร.เรือ คือ รอคอย ก.ไก่ คือ กันและกัน

…“รอคอย”… คำ ๆ นี้คือบทพิสูจน์ชั้นยอด ความรักเป็นเรื่องของหัวใจ ไม่ใช่ความรู้สึกแรกของการสบตาแล้ว ปิ๊ง ใช้ความแน่ใจรักกัน ย่อมดีกว่าใช้ความอ่อนไหวรักกัน อย่ารีบร้อน อย่ารีบรัก เพราะถ้าคนนี้คือคนที่ใช่ ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องรอคอยได้ รอยคอยที่จะเรียนรู้นิสัยใจคอของอีกคนก่อน ทำความรู้จักก่อนรัก อย่ารักแล้วค่อยรู้จักกัน ไม่เช่นนั้น ปัญหาร้อยแปดจะตามมา


ส่วนคำว่า “กันและกัน” ควรจะเป็นคำที่นำมาใช้ หลังจากที่รักกันแล้ว ใครบางคนบอกไว้ “ข้อดีของการไม่มีความรักก็คืออิสระ” แต่ความรัก ก็ไม่ได้ทำให้อิสระของชีวิตหายไป คำว่า “ฉัน” หรือ “เธอ” มันโดดเดี่ยว แต่เมื่อรวม “ฉัน” กับ “เธอ” เป็น “เราสองคน” เป็น “กันและกัน” มันอบอุ่นดี และก็เพราะกว่าด้วย

รักที่ประกอบทั้งรอคอยและกันและกัน จะให้ผลลัพธ์ที่เป็นบวกเสมอ

ข้อมูลจาก...http://variety.teenee.com/foodforbrain/18756.html

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ก็แค่คะแนน ... คะแนนหนึ่ง

เป็นเรื่องบ้าบอคอแตกที่น่าปวดหัว
เห็นทุกวันวุ่นวายกันใหญ่
จัดนั่นจัดนี่ กันซะปวดหัว
วุ่นกันสามวันเต็มๆ เห็นจะได้
เหนื่อยกันสายตัวแทบขาด
จะให้เรียกง่ายๆ ก็ ผักชีโรยหน้า ก็ว่าได้
เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง
ถูกจัดขึ้นมายังกับเนรมิตได้
สวยขึ้นทันตา
ทุกคนทำเพื่อ ให้ได้ผลตอบกลับที่มีค่า
แม้จะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องทำ
ซึ่งเรียกว่า คะแนน เหรอ ....

สุดท้าย คนมาตรวจประเมิน
ใช้เวลาในการตรวจแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
แค่ครึ่งชั่วโมง ช่างโหดร้ายกะเราเหลือเกิน
ที่ทุ่มเทเนรมิตทุกอย่างขึ้น ซึ่งใช้เวลาอย่างคุ้มค่า
แถมด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย
บางคนต้องอดข้าวอดน้ำ เพื่อมานั่งรอ แถมมาก็ไม่ตรงนัด
มาสายตั้ง สองชั่วโมง ช่างใจร้ายกันจริงๆ

แม้ว่า.....ผลตอบแทนจะออกแบบไหนก็ตาม ก็ต้องยิ้มสู้กันต่อไป

ไม่มีคำบรรยาย.......

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

บ้าบอคอแตก

วันนี้ไม่เป็นอันทำไรเลย
นอกจากจัดบอร์ดทำเนียบสุสาน
ทำกันมันอยู่อย่างนั้นทั้งวัน
ทำกันสองคนเนี่ย ไม่เสร็จสักที
ไรอะ เดี๋ยวเปลี่ยน เดี๋ยวนี้ไม่เอา เปลี่ยนเอาอันนี้
โอยจะบ้าตาย

ทำไรไม่ถูกเลย
แต่ก็ทำกันมั่วๆ ตามประสาเราสองคนกะนอม
ทำไงได้สั่งๆ กันแล้วก็หาย
เออ ให้มันได้อย่างนี้

สุดท้ายก็สำเร็จไปได้ด้วยดี
เฮ้อออ
พรุ่งนี้ต้องไปทำไรต่อไม่รู้ที่สุสานเด่นห้า
คงมีคณะมาดูงานอีกตามเคย
เห็นวุ่นวายกันใหญ่กะเรื่องจัดสถานที่ในสุสาน
ไอ้เจ้าเกียรติหัวยุ่งหัวฟูเลย
น่าสงสาร
ไม่รู้จะต้องอยู่ทั้งวันป่่าวเนี่ย
ความจริงสุสานสวยนะ เงียบสงบด้วย
มีผลไม้เพียบเลย
ลุงๆ เค้าปลูกไว้หลายอย่าง
เวลาไปทีลุงเค้าก็จะเอานั่นเอานี่มาให้กิน คิคิ
มีดอกไม้สวยๆ เยอะเลย
นอนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเลย

ฝันดีผีหลอก ^^__^^

ที่สุดของชีวิต

ศัครูที่ร้ายกาจที่สุด...ของชีวิต...คือตัวเราเอง
ความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด...ของชีวิต...คือการทนงตน

ปัญญาอ่อนที่สุด...ของชีวิต...คือการโกหก
หยั่งรู้ยากที่สุด...ของชีวิต...คือใจคน
น่าเศร้าที่สุด...ของชีวิต...คืออิจฉาริษยา
ไร้ค่ามากที่สุด...ของชีวิต...คือไม่ทำความดี
กุศโลบายที่ดีที่สุด...ของชีวิต...คือความซื่อสัตย์
ประมาทที่สุด...ของชีวิต...คือคบเพื่อนชั่ว
มีค่ามากที่สุด...ของชีวิต...คือเวลา
น่าสงสารที่สุด...ของชีวิต...คือดูถูกตัวเอง
น่านับถือยกย่องที่สุด...ของชีวิต...คือความมานะหมั่นเพียร
ล้มละลายที่หนักที่สุด...ของชีวิต...คือสิ้นหวัง
ความร่ำรวยที่มั่งคั่งที่สุด...ของชีวิต...คือสุขภาพแข็งแรง
ความยากจนที่สุด...ของชีวิต...คือไม่รู้จักพอ
ความรักมากที่สุด...ของชีวิต...คือรักตัวเอง
บาปกรรมที่ใหญ่หลวงที่สุด...ของชีวิต...คือไม่กตัญญู
ความโง่เขลาที่สุด...ของชีวิต...คือติดยาเสพติด
ความชั่ช้าต่ำต้อยที่สุด...ของชีวิต...คือเหยียดหยามผู้อื่น
ความผิดพลาดร้ายแรงที่สุด...ของชีวิต...คือเล่นการพนัน
ของขวัญที่ดีที่สุด...ของชีวิต...คือให้อภัย
ความสุขที่มากที่สุด...ของชีวิต...คือการช่วยเหลือผู้อื่น
การยอมรับและนับถือมากที่สุด...ของชีวิต...คือความก้าวหน้า
สุดท้ายของชีวิต...คือความตาย
...จะวุ่นวายกันไปทำไม...

วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เมื่อไหร่จาหายเนี่ย

ไอ้การที่เราต้องมานั่งรองรับอารมณ์คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้า (เหรอ)
มันดูน่าเบื่อนะ เช้ามาก็ต้องมาดูกันว่า วันนี้หัวหน้าเราเป็นไง
รมณ์บ่อจอยอะป่าว หน้าตาบูดหรือยิ้ม
วันนี้ก็เช่นกันนะ มายังกะพายุโหมใส่
ใครต่อใครโดนกันเป็นแถว ๆ
ดีที่เราไม่โดนไรมาก แค่เฉียดๆ คิดก็ขำนะ
คนอาไร้ บ้าๆ บอๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
บทจะดีก็ดีใจหาย บทจะร้ายยังกะพายุ

วัยทองก็เงี้ย ทำใจกะเค้าหน่อยแล้วกัน

ปวดท้องมากๆ ปวดทั้งวันเลย
แล้วที่แย่ไปกว่านั้น
ต้องเดินไปเดินมาทั้งวันด้วย
ไม่ปวดแบบนี้มานานมากแล้ว
เดือนนี้ปวดเกินกินยาไปสองเม็ด ยังเอาไม่อยู่
อยากกลับบ้านใจจะขาด แต่ก็กลับไม่ได้ ....
แต่ถ้าเราจะกลับซะอย่าง มันก็กลับได้อยู่แล้ว
แต่ความรับผิดชอบที่ต้องทำงานให้เสร็จมันยังมีอยู่
ก็จะให้ใครมาทำแทนละ ใครก็ทำแทนไม่ได้
ใครก็ไม่อยู่ สักคน ความจริงก็มีคนอยู่นะ
แต่ แต่ละคนก็ต้องทำหน้าที่ของแต่ละคนไป

ไม่ไหวๆ ปวดจริงๆ
กลับถึงบ้านนอนเลย ปวดม้ากมาก

วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2552

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เกาะช้างเหรอ

เมื่อปีก่อนก็ไปมาแล้วนะเกาะช้าง
ตอนนี้ก็ยังอยากไปอีก
หาดทรายสีขาวๆ สะอาดตา
ไม่มีขยะแม้แต่น้อย
ห้องพักติดริมหาดเลย
อยากไปอีก
หมวดพาก กะครูแก้มจะไปกัน
หมวดจะพาครูดอยไปแอ่วทะเล เพราะหล่อนยังไม่เคยไป
เราก็ยังอยากไปอยู่นะ แต่เอ....
มันไม่มีฝนเหรอไปช่วงนี้ แล้วมันจะหนุกป่าวละเนี่ย
กลัวฝน กลัวพายุ กลัวหลายๆ อย่าง ไม่น่าไว้ใจ
ตอนเราไปช่วงเมษานี่นา อากาศดีมากๆ

อยากไปพักผ่อนสมองบ้างนะ
รู้สึกเครียดๆ
เครียดกะเรื่องไม่เป็นเรื่อง
เครียดคน เครียดงาน เบื่อๆ ๆ

วันนี้อยู่เวรแทนเจย์ มีเพื่อนมานั่งคุยด้วย
อยู่ไปกินติมไป นินทาคนนั้นคนนี้ไป
หุหุ หนุกหนานไปอีกแบบ
เพื่อนมันจะแอบหนีไปเที่ยวอีกแล้ว
สบายเลย เราก็คงต้องแห้วอีกตามเคย
ตาเริ่มร้อนอีกแร้วววววววว อิจฉาจัง

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

หยุดอีกแระ ทำไรดีเนี่ย

ความรู้สึกเหมือนว่าไม่ได้พักมานาน
พอได้หยุดทีก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง
เบื่อกับการทำงานที่ต้องสวมหน้ากากเข้าหากัน
ไม่รู้ว่าต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน
ความจริงเป็นไปได้
ก็ไม่อยากทำหรอกนะ
แต่....

วันนี้หยุด เลยได้ตื่นสาย
ความจริงก็ไม่สายนะ ตื่นแปดโมง
รีบอาบน้ำ แต่งตัว เพราะมีนัดกะพี่ไก่ พี่อัง
ไปตรวจสวอปกัน (ตรวจน้ำลาย)
จะทำประกัน
เรื่องนี้ก็ไม่รู้จะปฏิเสธไงนะ
ประกันชีวิตเนี่ย
ปัดมาหลายรอบละ ทีนี้คงจะต้องทำซะที
ก็ไม่เป็นไร ช่วยพี่เค้าละกัน
อีกอย่างเราก็คิดแล้วว่าอยากทำด้วย
คลีนิคเปิดเก้าโมงครึ่ง ไปนั่งรอหมออีก
ก็ราวๆ เกือบชั่วโมงเลย
ก็คุยกันเรื่อยเปื่อย ตรวจเสร็จก็กลับบ้าน

อยากไปเที่ยวนะ แต่ไม่รู้จะไปไหน
แต่ฝันว่าได้ไปเที่ยวละ คิคิ
ไม่รู้ว่าในฝันจะหนุกป่าว ก็คงโอเคนะ

เย็นนี้ความจริงเราต้องไปทำงานถนนคนเดินด้วยนะ
แต่เกิดผิดพลาดไรมะรู้ หัวหน้าบอกว่าไม่ต้องไป
สงสัยคงจะกลัวปัญหาหลายๆ เรื่อง เพราะตอนนี้ถนนคนเดิน
ยังไม่เข้าที่เข้าทาง กลัวเราจะงง หรือสับสน ก็ดี
อยู่บ้านสบายใจกว่า ขี้เกียจไปรบกับพ่อค้าแม่ค้า
เพราะมันไม่ได้หนุกอย่างที่คิด
อีกอย่าง ตอนนี้พี่แอนก็ไม่ไปละ ให้เราไปกะคนอื่น คงไม่หนุกแน่ๆ เลย

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ไม่มี.......

ไม่มีไรจะบอก
ไม่มีไรจะเขียน
ไม่มีไรจะทำ
ไม่มีไร....
ก็ไม่มีไรจริงๆ...
รู้แต่ว่า เหนื่อย เพลีย

คิดถึง....

อาการคิดถึงมันบอกไม่ได้นะ
ว่าคิดถึงมาก คิดถึงน้อย
แต่รู้แค่ว่าคิดถึง
คิดถึง...วันเวลาเก่าๆ
คิดถึง...อดีตที่หนุกหนาน
คิดถึง...เพื่อนๆ
คิดถึง...โรงหนังรามา 2 ที่แอบโดดเรียนไปดูกันประจำ
คิดถึง...พี่ชายที่ตัดช่องน้อยแต่พอตัว
เมื่อคืนก็ฝันถึง ว่าไปเที่ยวด้วยกัน หนุกมากๆ
คิดถึง...พี่แอน ที่เคยนั่งหันหน้าเข้าหากันทุกวัน
ปรึกษาปัญหาชีวิตด้วยกันตลอด (ปัญหาของพี่แอนนะ)
คิดถึง...ขนมที่แย่งกะพี่แอนกินทุกวัน
คิดถึง...ไอติมที่ไปกินด้วยกันบ่อยๆ
คิดถึง...น้าคำ ม่ายรู้ว่าอยู่ กรุงเตบคนเดียวจะเป็นไงบ้าง
จาคิดถึงหลานตัวน้อยคนนี้บ้างป่าว
คิดถึง...เจ้าหัวหอม กะ น้องฟูจัง ไม่ได้เจอหลายวันละ
คิดถึง...คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง

แต่ม่ายรู้ว่า.....จามีคนคิดถึงเราบ้างป่าวนะ

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

whatever will be will be

When I was just a little girl
I asked my mother what will I be
Will I be pretty
Will I be rich
Here's what she said to me

Que sera sera
Whatever will be will be
The future's not ours to see
Que sera sera

When I was just a child in school
I asked my teacher what should I try
Should I paint pictures
Should I sing songs
This was her wise reply

Que sera sera
Whatever will be will be
The future's not ours to see
Que sera sera

When I grew up and fell in love
I asked my sweetheart what lies ahead
Will there be rainbows day after day
Here's what my sweetheart said

Que sera sera
Whatever will be will be
The future's not ours to see
Que sera sera

What will be, will be
Que sera sera...

WHATEVER WILL BE WILL BE -

ว่างเปล่า

ชีวิตวุ่นวาย
เหมือนขาดหายอะไรไปสักอย่าง
ว่าง.........
เปล่า........

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ปวดเศียร เวียนเกล้า

จิตใจไม่อยู่กะร่องกะรอย
ใจลอยเป็นพักๆ
หายใจไม่ค่อยทั่วท้อง
รู้สึกใจไม่ค่อยดี
เหมือนกะว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกสักอย่าง
แต่ตอนนี้บอกไม่ถูก

มึนหัวตึบเลย

แย่จัง... รักใครคนหนึ่ง แต่กลับรู้สึกดีๆ กับอีกคน

บ่อยครั้งเคยสงสัยว่า . . .
ทำไมเราถึงเลือกที่จะบอก . . . รัก . . . คนหนึ่ง
ในขณะที่อีกคน กับบอกแค่ว่า . . . รู้สึกดีๆ


ใครคนหนึ่ง . . . เคยบอกไว้ว่า
ความรู้สึกดีๆ มันมีอณูที่เล็กกว่า ความรัก
มันสามารถแทรกซึม ผ่านช่องว่างของหัวใจ
. . . เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายได้ . . .


มันคล้ายกับ เมล็ดพันธุ์เล็กๆของ ความรัก
รดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ย ให้แสงแดดที่พอเหมาะ
เอาใจใส่ ดูแล ทะนุถนอม สักวันเมล็ดพันธุ์นั้น
. . . จะเติบใหญ่กลายเป็น . . . "ต้นไม้แห่งความรัก"


มันเป็นความรู้สึกที่มากกว่าชอบ . . . แต่ไม่ใช่รัก
และมีแนวโน้มว่า . . . จะพัฒนาต่อไป . . .


ในขณะเดียวกัน . . .
เรารักใครหนึ่งคนอยู่แล้ว . . . แต่กับรู้สึกดีๆ กับใครอีกหลายคน
นั่นคืออะไร?


เหตุผลนะเหรอ . . . เพราะโลกนี้ ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
คนหนึ่งคนไม่สามารถเป็น และให้ทุกอย่างๆ ที่เราต้องการได้
คนที่รัก . . . อาจไม่ใช่คนๆ เดียวที่เข้าใจเรา
คนที่รัก . . . อาจไม่ใช่คนๆ เดียวที่ใส่ใจเรา
คนที่รัก . . . อาจไม่ใช่คนๆ เดียวที่เชื่อใจเรา


เมื่อมีใครมาเข้าใจ ใส่ใจ เชื่อใจ มีหรือจะไม่รู้สึกดี
หัวใจก็ย่อมไหวเอน . . . เชื่อเถอะว่าเป็นทุกคน
. . . ถ้าไม่โกหกตัวเอง . . .


ความรู้สึกดีๆ . . . อาจเกิดขึ้นกับใครบางคนในช่วงระยะใด
เวลาหนึ่ง อิ่มใจ สุขใจ ประทับใจ อยู่ใกล้แล้วมีความสุข

ในขณะที่ความรัก . . . เกิดจากความผูกพันทางใจ สุข ทุกข์
เราร่วมรับรู้ ไม่ใช่แค่ระยะเวลาช่วงใดช่วงหนึ่งเท่านั้น


ในเมื่อโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ . . . เราเองก็ไม่สมบูรณ์แบบ
จงยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบ . . . ของกันและกัน

ความรู้สึกดีๆ . . . อาจเกิดขึ้นกับใคร ตอนไหน เมื่อไหร่ก็ได้
แต่ความรัก . . . มันเกิดจากกระบวนการซับซ้อนของหัวใจ
ต้องใช้เวลาในการถักทอ สายใยเบาบางนั้นขึ้นมา


มันอาจเป็นความรู้สึก . . . พิเศษๆ ละม้ายคล้ายกัน
แต่ ในเชิงความหมาย แตกต่างแน่นอน. . .

คุณอาจเคยรู้บ้างเหมือนกันรึเปล่า?

"แต่ยังไง สักวัน ถ้าคนรักของคุณ รู้ว่าคุณไปรู้สึกดีเข้ากับใคร คนรักของคุณก็น่าสงสารอยู่ดี"

บทความนี้คงโดนเข้ากับใครๆ หลายๆ คน *-*

thank you : http://variety.teenee.com/foodforbrain/18268.html

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เวียนหัวสุดๆ

เกิดมาเพิ่งเคยไป อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
ครั้งแรกในชีวิต อะไรจะทรหดขนาดนั้น
โห ไรจะโค้งเยอะได้ใจขนาดนี้
ทั้งมึนหัว เวียนหัว อยากอ๊วก มีในนี้หมดเลย
บอกอาการไม่ถูก ใจไม่ดี
ว่าจะถ่ายรูปมาให้ดูสักหน่อย
ไม่ไหวอะ ลุกนั่งไม่ได้ นอนหนุนตักพี่แอนตลอดทางเลย
พี่แอนก็ดีแสนดี ให้น้องนอนมาตลอดทั้งขาไป-ขากลับ
ไม่รู้ว่าจะปวดขาป่าว ขอบคุณนะคะหัวหน้าคนงาม
ตื่นมาเช้านี้ยังมึนหัวไม่หายเลย
ปวดหัวตุ๊บๆ

ว่าไปแล้ว เราต้องจากกะพี่แอนแล้วนะ
พี่แอนจะย้ายงานแล้ว
ต่อไปนี้เราจะคุยกะใครละ
หมายถึงในเรื่องบางเรื่องนะ
นั่งโต๊ะก็เห็นหน้ากันทุกวัน
กินหนมก็แบ่งกันกิน
ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันบ่อยๆ กินติมหลังจากข้าวเที่ยงประจำ
เดินช็อปปิ้งกระจาย
ต่อไปนี้ คงเหงาแน่ๆ คิดแล้วก็เศร้า
แม้ว่าจะแค่ย้ายไปอยู่ศูนย์น้ำลัด
แต่โอกาสเจอกันมันก็ยาก
เศร้า.......

จะถึงวันออกพรรษาแล้ว
หาซื้อของใส่บาตรดีกว่า
ทำบุญกันหน่อยเร้วววววววว