วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หลับให้สบายนะอุ้ยยืน

ต่อไปนี้ชีวิตบางส่วนก็ขาดหายไป
จากที่ทุกๆเย็นจะแวะไปหา
ไปกอด ไปนั่งคุยด้วย
หาไรให้ทาน นวดบ้างเป็นบางเวลา
ทายาให้ ป้อนยาให้
ซักผ้าให้ ใส่เสื้อตัวเก่งที่อุ้ยชอบ  ฯลฯ
คงจะไม่มีอีกแล้ว
นอกจากความทรงจำที่ดีๆ
ไม่คิดว่าวันนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวของเรา
การสูญเสียอุ้ยยืนถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
อุ้ยบอกว่าอยากไปงานแต่งงานขวัญกะบี
นี่ก็ใกล้แล้วนะทำไมไม่รอกันบ้าง
อุ้ยยังไม่เห็นขวัญใส่ชุดทหารเลย
มันจะไปเดือนมกรานี้แล้วหนา
ไปตัดชุดเรียบร้อยแล้ว
ว่าจะใส่มาอวดอุ้ยอยุ่  แล้วทำไมไม่รอกันบ้าง
อุ้ยบอกว่าอยากอุ้มเหลน
ก็ไหนเราคุยกันแล้วว่าถ้าไม่ได้อุ้มลูกของเข็มก็อุ้มลูกของขวัญก็ได้
แต่ตอนนี้อุ้ยก็ได้อุ้มแค่น้องมีนคนเดียว
ทำไม  ทำไม  ที่เราคุยกันไว้อุ้ยลืมสัญญา
ต่อไปนี้เข็มจะไปบ้านอุ้ยแล้วจะไปหาใครละ
จะซื้อขนมไปให้ใครกิน
มะละกอที่พ่อปลูกไว้ให้อุ้ยใครจะกิน
แม่จะตำน้ำพริกกะหมูทอดให้ใครกิน
น้ายากะน้าพลจะปิดร้านพาใครไปหาหมออีกละ
น้าน้องจะตะโกนโหวกเหวกเสียงดังให้ใครได้ยินอีกละ
น้าผ่าน น้าดม น้องแพงจะไม่มีอุ้ยกินข้าวเช้าด้วย
อี๊ด อ้อม นิว โน่ น้ำ นุ่ม เข็ม ขวัญ บี ภูมิ  ลูกหลานทุกๆ  คน
รักและคิดถึงอุ้ยยืน ตลอดเวลา
ไม่อยากให้วันนี้เกิด
รู้ว่าอุ้ยเหนื่อย และทรมานมามานกับโรคนี้
ตอนนี้อุ้ยไปสบายแล้ว
ไม่ต้องห่วงหรือกังวลกะคนข้างหลัง
จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้


ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเห็นหน้าตา ยาย ย่า
มีแต่ปู่คนนี้  ปู่คนเดียวที่ลูกหลาน เหลน  เรียกกันว่าอุ้ยยืน
รักอุ้ยยืนมาก
ขอให้อุ้ยไปสู่สุขคติ

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ชอบๆๆ

อย่าเชื่อว่า...เราทำไม่ได้..ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำ..
อย่าท้อแท้..ตราบใดที่เรายังไม่ได้พยายาม..
อย่าสิ้นหวัง...ตราบใดที่เรายังมีกำลังใจ..
อย่าแพ้ชีวิต...ตราบใดที่ใจของเรายังมีหวัง..
จงอย่าทำลายความหวัง...เพียงเพราะ....
การดูหมิ่นตนเองว่า... “ทำไม่ได้”...


ขอยืมของเจ้อ้อยมา  ... 

พยายามทำจิตให้เป็นกลางให้ได้


พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้ละ อคติสี่ประการ
อย่าไปยึดมั่นอยู่ในอคติ

ฉันทาคติ มีลำเอียงเพราะความรักกัน
โทสาคติ ลำเอียงเพราะไม่ชอบกัน
โมหาคติ ลำเอียงเพราะหลง
ภยาคติ ลำเอียงเพราะกลัว
อย่างว่าเห็นเขามีเงินมากกว่าเขามีอำนาจ
อย่างนี้เมื่อ เขาทำผิดลงเราจะไปทักท้วงก็กลัว
กลัวอำนาจเงินเขา
กลัวเขาจะทอดทิ้งอะไรต่ออะไรอย่างนี้และชื่อว่า ภยาคติ
แปลว่า มีความลำเอียงเพราะความกลัว
ถ้าไม่ลำเอียงเพราะความกลัว
เขาทำผิดเราก็ต้องว่าตามความผิดของเขาไปอย่างงั้น
เขาทำถูกเราก็ว่าไปตามการกระทำถูกของเขา 

เรามีจิตเป็นกลาง ขอให้เข้าใจ พยายามทำจิตให้เป็นกลางให้ได้
เมื่อทำจิตให้เป็นกลางได้ จึงจะผ่านโลกธรรมแปดประการนี้ไปได้
ถ้าไม่ทำจิตให้เป็นกลางอย่างนี้เดี๋ยวก็จะเกิดวิกฤติทางจิตใจขึ้นมา
เดี๋ยวก็คนนั้นนินทา เดี๋ยวก็คนนี้สรรเสริญ
แล้วจิตหวั่นไหวไปกับสรรเสริญนินทา อยู่อย่างนั้นแล้ว


เมื่อเวลามีลาภ มียศมาก็ดีอกดีใจ
ถ้าเวลาเสื่อมลาภเสื่อมยศก็เสียใจเศร้าโศก
นี่เรียกว่าคนผู้ถูกโลกธรรมครอบงำจิตใจ
ย่อมมีแต่ความทุกข์ ความโศกเป็นยังงั้น
ถ้าหากว่าเรามีอุบายรู้เท่าว่า
ลาภยศ สรรเสริญ สุข ทุกข์ ทั้งหลายเหล่านี้
นินทาว่าร้ายต่างๆ มันเป็นธรรมประจำโลก
ธรรมเหล่านี้ล้วนแต่เป็นของไม่เที่ยง เกิดขึ้นมาแล้วก็ดับไป
ก็ต้องพิจารณาให้เห็นอย่างนี้ 
เมื่อมีลาภมา ลาภนั้นมันก็ไม่ยั่งยืน ใช้ไปจ่ายไปก็หมดไป
แต่ในเมื่อมียศถาบรรดาศักดิ์
เขาสมมุติแต่งตั้งให้เป็น เจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ
หรือเจ้าหน้าที่ทำราชการงานเมืองต่างๆ นานา
หมู่นี้นะก็อย่าไปไว้ใจว่า
ไอ้ยศถาบรรดาศักดิ์เหล่านั้นมันจะยั่งยืนไปตลอด

เราต้องวางจิตให้เป็นกลาง
ถ้าหากว่าเขาผู้บังคับบัญชาเขาเห็นเขาไม่ชอบใจ
เขาก็ถอดออกเมื่อไรก็ได้ เราก็ไม่ต้องเสียใจดีใจอะไร
เพราะว่าลาภยศมันไม่เที่ยง
มันมีเกิดขึ้นแล้วมันก็มีเสื่อมไปสิ้นไปเป็นธรรมดา
ขอให้พากันทำความรู้เท่าโลกธรรมอย่างนี้
โลกธรรมที่ประสบความสุข ก็อย่าเพลิดเพลินในความสุขนั้น
เพราะความสุขในโลกนี้มันไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน 

แต่ว่าความสุขที่มีร่างกายสมบูรณ์
โรคภัยไข้เจ็บไม่เบียดเบียนอย่างนี้ก็ มันก็เป็นสุขอีกส่วนหนึ่ง
บัดนี้ความสุขที่มีทรัพย์สมบัติเงินทองข้าวของพอใช้
พอจ่ายอันนี้มันก็เป็นสุข ประการหนึ่ง เป็นยังงั้น
ความสุขที่เกิดแต่ร่างกายไม่มีโรคภัยเบียดเบียน

อย่างนี้มันก็เป็นความสุขอีกประเภทหนึ่ง
ไอ้ความสุขทั้งหมดเหล่านี้ล้วนแต่เป็นของไม่เที่ยง

เราภาวนาเราต้องรู้เท่าไว้
เมื่อเวลามันเกิดขึ้นมาเมื่อไร เราก็จะได้รู้เท่าทัน
จะมีใจตั้งมั่นไม่หวั่นไหว เป็นยังงั้น
เพราะว่าถ้าเราจะไปมัวเสียใจเศร้าโศก
กับความผิดหวังดังกล่าวมานั้น
มันก็เป็นความเศร้าโศกเปล่าๆ ไม่มีประโยชน์อะไร
มีแต่ความทุกข์ใจอย่างเดียว


:: หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
 

กรรมลิขิต

เราทั้งหลายเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติแล้ว
ล้วนแต่มีกรรมผูกพันกันมาทั้งสิ้น
ผูกพันในความเป็นมิตรบ้างเป็นศัตรูบ้าง
แต่ละชีวิตก็ย่อมที่จะเดินไปตามกรรมวิบากของตนที่ได้กระทำไว้
ทุกชีวิตล้วนมีกรรมเป็นเครื่องลิขิต

อดีตกรรม ถ้ากรรมดี เสวยอยู่
ปัจจุบันกรรม สร้างกรรมชั่ว ย่อมลบล้าง
อดีตกรรม กรรมแห่งอกุศล วิบากตน
ปัจจุบัน สร้างกรรมดี ย่อมผดุง 

เรื่องกฎแห่งกรรม
ถ้าเป็นชาวพุทธแล้ว เขาถือว่าเป็นกฎแห่งปัจจังตัง
ผู้ที่ต้องการรู้ ต้องทำเอง รู้เอง ถึงเอง แล้วจึงจะเข้าใจ


:: สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )
 

คำพ่อสอน...รากฐานสำคัญของชีวิต

. . .จิตใจและความประพฤติที่สะอาดแลมีระเบียบ เป็นรากฐานสำคัญของชีวิต
ทั้งจิตใจทั้งความประพฤติดังนั้นใช่จะเกิดมีขึ้นเองได้
 
หากแต่จำต้องฝึกหัดอบรมและสนับสนุนส่งเสริมกันอย่างจริงจังสม่ำเสมอ 
นับตั้งแต่บุคคลเกิด ดังที่มนุษย์ไม่ว่าชาติใดภาษาใด 
ได้เฝ้าพยายามกระทำสืบต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย 
ทั้งนี้เพื่อให้สามารถรักษาตัวและมีความสุขความสำเร็จในการครองชีวิต 
ทั้งให้ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ด้วยความผาสุกสงบ
ดังนั้น ถึงแม้เราจะอยู่ใน ท่ามกลางความเจริญรุดหน้าแห่งยุคปัจจุบันอย่างไร
เราก็ทอดทิ้งการศึกษา ทางด้านจิตใจและศีลธรรมจรรยาไปไม่ได้
 
ตรงข้าม เราควรเอาใจใส่สั่งสอนกันให้หนักแน่นทั่วถึงยิ่งขึ้น
เพื่อให้มีความคิดความเข้าใจถูกต้อง
สอดคล้องกับสภาพการณ์แวดล้อมทั้งหลายที่วิวัฒนาไปไม่หยุดยั้ง. . . 


พระราชดำรัส
พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดสัมมนา 
เรื่อง "การพัฒนาสังคมในด้านศีลธรรมและจิตใจ" 
ซึ่งสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยจัดให้มีขึ้น 
ณ โรงแรมนารายณ์ กรุงเทพมหานคร 
วันเสาร์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๑๖ 

ต้องถอยหลังบ้าง...


ข้อคิดดีๆ




.. ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่า
แม้แต่คนโง่ที่สุดยังฉลาดในบางเรื่อง
และคนฉลาดที่สุด
ก็ยังโง่ในหลายเรื่อง ..
.. ไม่มีอะไรเสียเวลาไปมากกว่า
การคิดที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต

ไม่เคยมีอะไรช้าเกินไป
ที่จะทำใหสิ่งที่ตนฝัน ..

.. คนที่ไม่เคยหิว
ย่อมไม่ซาบซึ้งรสของความอิ่ม

ความสำเร็จที่ผ่านความล้มเหลว
ย่อมหอมหวานกว่าเดิม ..

.. อันตรายที่สุดของชีวิตคนเราคือ การคาดหวัง
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
เหตุผลขอคนๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่เหตุผลของคน
อีกคนนึง ถ้าคุณไม่ลองก้าว คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า
ทางข้างหน้าเป็นอย่างไร
ปัญหาทุกอย่างล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป
หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง ..

.. คนเรา
ไม่ต้องเก่งไปทุกอย่าง
แต่จงสนุกกับงานทุกชิ้น
ที่ได้ทำ ..

หัวใจของการเดินทางไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย
หากอยู่ที่ประสบการณ์สองข้างทาง .. มากกว่า

ชีวิตต้องดำเนินต่อไป เพื่อ......

วันนี้ก็อีกวันละนะ
ที่ตื่นมาทำไรไม่รู้แต่เช้าอย่างเคย
เหมือนจะไม่ได้นอน
ทั้งที่ก็ได้นอน
เออ.. ไม่เข้าใจเรย

ช่วงนี้ชีวิตมีแต่เรื่องแปลกๆ
คืนก่อน ก็ลืมปิดมือถือ  แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้ปิด
เจ้ไก่โทรหาเกือบห้าทุ่ม
บอกว่าจะมาขอนอนด้วย  โอ...
เกิดอารายขึ้น
รีบลุกอย่างด่วน มาเก็บของในห้องที่รกๆๆ
เก็บพอเป็นพิธี เก็บหนังสือที่กองอยู่บนเตียง
ดีเหมือนกัน  นอนกะหนังสือมาซะหลายวัน
วันนี้มีเพื่อนมานอนด้วย
ว่าแต่...
ทำไมหนอ ?
เกิดอารายขึ้น  โทรหาบอกว่าจามานอนด้วย
ต้องมีเรื่อง  และแล้วก็มีจิงๆ ๆ
อาเจ้ไก่  กะคุณสามีทะเลาะกัน
เจ้ก็เรยหนีออกจากบ้าน
นอนคุยกันซะป๊ะเรื่อง
กว่าจะได้นอนก็ปาไปเกือบตีหนึ่งละมั้ง
เจ้เล่าไปก็ไฮ่ไป   เฮ้อออ   เอ็นดูแต้

ชีวิตคนเรานี่ก็แปลกนะ
แต่งงานไปแร้ว คิดว่าจะมีความสุข
อีกชีวิตที่เราจะฝากไว้คงจะดูแลเราและครอบครัวให้ดีได้
แต่ก็ไม่เป็นดังที่วาดหวังไว้
ความรักหนอ  ความรัก

ตอนนี้ชีวิตเราเหรอ...
เหอะๆๆๆ
มันก็ลุ่มๆๆ ดอนๆ ๆ
จับต้นชนปลายยังไม่ถูกเรยนิ
ว่าจาเป็นไงไปต่อ
วันก่อนดันเอารถไปชนเสายุ้งข้าวพ่ออีก
โอยยยยย  จะบ้าตาย
อะไรจะซวยขนาดนี้ช้าน
ไม่รู้จะซ่อมหมดกี่บาทเนี่ย
เงินเดือนยิ่งน้อยๆ  อยู่  ตายแน่ๆ  ได้กินแกลบแหงๆๆช้าน
เฮ้ออ    ถือซะว่าฟาดเคราะห์ไปละกันน่อ

อุตส่าห์ซื้อหวย  หมดไปสองร้อย
พระเจ้าไม่เข้าสักตัว
ว่าาจะไม่ซื้้อละนะ
โชคหนอ โชคชะตา  ไม่เข้าข้างกันบ้างเรย
แง.... เเง ....แง....

วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ถูกต้องที่สุด

เวลากับนาฬิกามันต่างกัน

นาฬิกาคุณให้ใครไปแล้ว คุณยังขอกลับคืนมาได้

แต่ ....เวลา...เมื่อคุณให้ใครไปแล้ว..
คุณไม่สามารถนำกลับมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ว่ามั้ยละ....

ค่าของคนมิได้นับเพราะทรัยพ์มาก
หรือนับจากตำแหน่งยศศักดิ์ศรี
หรือนับจากปริญญา เอก-โท-ตรี
แต่อยู่ที่"ความดีที่เพียรทำ

วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

มันจะอะไรกันนักกันหนา

ไม่รู้เป็นไง
วันก่อนส่งซ่อมไปเครื่องหนึ่งละ
ก็ยังใช้ได้ไม่เท่าไหร่
วันนี้  ไม่ดิ วันเสาร์ละ  พังไปอีกเครื่อง
มือถือช้านเป็นไรไปหมด
เออดี  พังๆๆไปให้หมดเรย
จะได้ไม่ต้องใช้
งดการสื่อสารกับบุคคลทั่วโลก

กะว่าอยากได้อันใหม่ แงๆๆ
ขอเก็บตังก่อนนะ  อยากได้อยู่อันใหม่

ช่วงนี้เบื่อๆ ไม่อยากทำไร
กกตัวอยู่แต่ในบ้าน  ไม่ออกไปไหน
ทำงานบ้านไป เลี้ยงหมาไป
ไม่มีเพื่อนคุย ก็คุยกะหมา
เออ  ไม่ซิ  ไปเรียนกะครูมา
เรียนไปก็ง่วงไป  แถมพูดผิดๆ ถูกๆอีก
ครูครูขา  ห้ามหัวเราะเยาะหนูนะ
หนูพูดภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง


มีความสุขไปอีกแบบ
แต่จะเป็นอย่างนี้อีกนานมั้ย
แล้วคนอื่นๆ  ไปหนายกันหมดเนี่ย
ให้ช้านอยู่เฝ้าบ้านคนเดียว
พ่อกะแม่ไปสวน
ขวัญกะบีไปเจียงม่วน
พี่ภูมิไปพะเยา
แง่ววววววว  เข็มเอ๋ย  อยู่บ้านคนเดียว
โคตรง่อมเลย

เหนื่อยแต่ต้องทน


คนสำคัญ


จะอยู่ดูแล..แต่เธอ
ก็เธอจะมีฉัน คอยผูกพัน ห่วงใยอยู่ทุกวัน
รู้บ้างไหม ว่าเธอคือคนสำคัญ ในหัวใจ
อยากอยู่ดูแล..แต่เธอ
ได้ทำเพื่อเธอ ต่อให้เรื่องใด
ไม่เอาอะไรแล้ว รู้บ้างไหม
ไม่มีวันไหนฉันไม่รักเธอ
ก็เพราะเธอ คือคนสำคัญของใจ..
แม้ว่าจะนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าวันไหน
ที่เธอได้พูดคำว่าฉันรักเธอ
แค่ได้ทำอย่างนี้ ดูแลเธอเสมอ
ได้ทำแค่นี้ก็ยังดีใจ
จะอยู่ดูแล..แต่เธอ
ก็เธอจะมีฉัน คอยผูกพัน ห่วงใยอยู่ทุกวัน
รู้บ้างไหม ว่าเธอคือคนสำคัญ ในหัวใจ
อยากอยู่ดูแล..แต่เธอ
ได้ทำเพื่อเธอ ต่อให้เรื่องใด
ไม่เอาอะไรแล้ว รู้บ้างไหม
ไม่มีวันไหนฉันไม่รักเธอ
ก็เพราะเธอ คือคนสำคัญของใจ..
เพราะเธอคือ คนสำคัญ


บทเพลงนี้ขอมอบให้กับท่านพ่อของเรา
รักพ่อมากนะ  
ขอให้พ่อมีความสุข เป็นมิ่งขวัญของลูกๆตลอดไป
รอดูความสำเร็จของลูกๆ ในอนาคตนะจ๊ะ 
รักพ่อที่สุดในโลกเลย 
สุขสันต์วันพ่อค่ะ  



ขอกอดหน่อย


วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แย่...

เบื่อ หน่าย ก่าย เซ็ง
.......
เหนื่อคำบรรยาย

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

หาดีใส่ตัวนั้นสมควร แต่อย่าเอาชั่วใส่คนอื่น


การดำเนินชีวิตเป็น.....

การดำเนินชีวิตเป็น






การดำเนินชีวิตของคนเรานั้น

ในความหมายหนึ่งก็คือ การบริโภค การเสพหรือใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆ

การใช้เวลาเป็นนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการรู้จักบริโภค

ซึ่งเป็นความหมายอย่างหนึ่ง ของการ ดำเนินชีวิตเป็น …



คนเราที่จะเป็นอยู่อย่างดีนี้ จะต้องดำเนินชีวิตเป็น

คือ รู้จักดำเนินชีวิตนั่นเอง

ถ้าใครรู้จักดำเนินชีวิต ชีวิตนั่นก็เป็นชีวิตที่ดีงาม

เป็นชีวิตที่พัฒนาเจริญก้าวหน้าประสบประโยชน์สุข

แต่ถ้าดำเนินชีวิตไม่เป็น ก็มีแต่ขาดทุนและประสพแต่ความทุกข์ และความเสื่อม

ฉะนั้นจะต้องรู้จักดำเนินชีวิตหรือ ดำเนินชีวิตเป็น



เป็นคือพอดี ในมัชฌิมาปฏิปทา

ตกลงว่า นี่ก็คือ องค์รวมของการดำเนินชีวิต

ถ้าทำได้หมดทั้ง ๔ อย่างนี้แล้ว เรียกว่ ดำเนินชีวิตเป็น

เป็นชีวิตที่เจริญงอกงามอย่างแน่นอน



ด้านที่ ๑ แก้ปัญหาเป็น



ด้านที่ ๒ คิดเป็น พูดเป็น ทำเป็น



ด้านที่ ๓ รับรู้ประสบการณ์เป็น

ดูเป็น ฟังเป็น ใช้ตา หู จมูก ลิ้น กายเป็น



ต้านที่ ๔ กินใช้บริโภค เสพ คบหา เป็น



ที่พูดมาในตอนนี้ทั้งหมดนี่แหละ คือ เรื่องทั้งนี้หมดที่การศึกษา

จะต้องเกี่ยวข้องซึ่งแยกเป็น ๔ ด้าน ดังที่บรรยายมาแล้ว



การศึกษาจะต้องให้ครบ คือ ต้องช่วยให้คนฝึกฝน

พัฒนาตนให้ดำเนินชีวิตเป็น ครบทั้ง ๔ ด้าน



ฉะนั้น การที่จะดำเนินชีวิตเป็นก็ต้อง เป็นหลายอย่าง

ต้องเป็นทุกอย่างไม่ใช่แค่คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็นเท่านั้น…



ป่าวกินยาดองคร้า

อาการไอยังไม่หายขาดนะ
กินยาตลอดไม่ได้หยุดกินก็ยังไม่หาย
ทั้งยาเม็ด ยาน้ำ
กินแทบอ๊วก
วันนี้กินยาแก้ไอน้ำดำตราเสือดาว
แค่จิปๆๆ นะ  ไอ้เจ้าเกียรติหาว่าเรากินยาดองมาเหรอ
ไอ้น้องบ้า ปากหาเรื่องแต่เช้า 
มันบอกว่าเจ้ไปกินยาดองที่ไหน
สาบขี้ห่าขนาด  น่าเมื่อวานถึงไม่มาทำงาน
ดูมันๆๆ  พูดไม่เข้าหูแต่เช้า
อันที่จิงก็อย่างมันว่านะ
กินไปกินมา เมายาซะงั้น
ง่วงด้วย แถมกลิ่นก็ยังเหมือนยาดองอีกต่างหาก
ทำไงได้ละ ไม่กินก็ไม่หายอะ
ต้องกิน  กินแล้วก็เมา  เมาแล้วก็ง่วง
อยากนอน  คิดถึงหมอนกะผ้าห่มที่บ้านที่สู้ดเลย
ความจริงวันนี้ก็ยังไม่อยากมาทำงานนะ
แต่ไม่ได้ดิ  วันนี้หวยออก  มาขายหวยก่อน  เหอะๆๆ
ไปลุ้นหวยกันต่อ  เหอะๆๆๆ

ปล.  เมื่อไหร่จะหายไอหายไข้หายเป็นหวัดสักที
        อยากกินไก่เคเอฟซี   อยากกินติม  อยากกินนมปั่น 

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เมื่อไหร่จะหาย

เป็นหวัดรอบนี้อาการหนักกว่าที่เคยเป็นมา
นอนซมสองวันติดๆกัน
ไม่ได้ไปไหนเลย
กินข้าว กินยา นอน
นอนมันทั้งวัน  นอนตั้งแต่บ่ายโมงยันห้าโมง
หน้าก็บวมๆ  ยา  แรงก็ไม่ค่อยมี
เดินไปเดินมาก็มึนตึบ
เสียงก็แหบเสน่ห์ได้ใจ  555
เป็นบุคคลที่สังคมรังเกียจ ไม่อยากเข้าใกล้
น่าฉงฉานตัวเองจริงๆ  วันนี้ก็ยังไม่หาย
ดันแหกขี้หูขี้ตาตื่นมาแต่เช้าอีก
ก็นอนไม่หลับแล้วนี่   จะให้มันหลับได้ไง
ก็เล่นนอนตั้งแต่ยังไม่สองทุ่มเลยนิ  จะให้มันหลับลงได้ไงละเนี่ย
วันนี้ก็คงต้องหาหมอให้ฉีดยาอีกแร้ว ไม่หายสักที

เอาน่า แค่นี้ไม่ตายหรอก
ขอเป็นแค่หวัดอย่างเดียวได้มั้ย
ไม่ชอบเลยไอก็มีเสียงแอ็กโค่ด้วย  น้ำมูกก็ไหล จะบ้าตาย เฮ้ออออ

วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

รอยยิ้มนักสู้

หากเหนื่อยนักขอจงหยุดพักเสียก่อน อย่าใจร้อนรีบไปเดี๋ยวมันไม่เข้าที
หยุดเรื่องรักที่ทรมาน เรื่องงานเรื่องเงินก็ดี พักซักทีเดี๋ยวค่อยไป

อย่าไปคิดเรื่องเดิมให้มันปวดใจ ซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครเห็นความพ่ายแพ้
เก็บให้ลึกลงข้างในหัวใจที่อ่อนแอ เหลือเพียงแค่รอยยิ้มของนักสู้

ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ และฉันก็เจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามา
แต่ทุกๆทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่าแข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน

กว่าจะถึงฝั่งฝันนั้นมันยากเย็น อย่าพึ่งเห็นฉันเดินเข้ามาง่ายๆ
กว่าจะถึงที่ฉันยืน กล้ำกลืนฝืนทนเกือบตาย น้ำตาผู้ชายเคยไหลไม่ใช่เรื่องแปลก

ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ และฉันก็เจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามา
แต่ทุกๆทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่าแข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน

ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ และฉันก็เจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามา
แต่ทุกๆทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่าแข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน

ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ และฉันก็เจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามา
แต่ทุกๆทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่าแข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน

ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ และฉันก็เจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามา
แต่ทุกๆทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่าแข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน



วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ไงดีละ

ทำไมตอนนี้มีความรู้สึกแบบนี้อีกแระ
รู้สึกท้อๆ แท้ๆ ๆ เหนื่อยๆ
เป็นไรอีก
เหนื่อยเหลือเกิน
ฉันเหนื่อยเหลือเกิน
เหนื่อยเกินจะทนไหวแล้ว
อยากจะบินได้บ้าง
อยากจะบินไปไกลๆ
อยากจะบินไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก
อยากจะบินไปในที่ที่ชอบ
ว่าแต่จะบินไปไหน?
ยังไม่รู้ว่าจาบินไปไหน
รู้แต่ว่าอยากบินได้

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อีกไม่นานก็เช้า


Underneath the great big night sky
Having you just right by my side seems so familiar
Starlight toss a ray of wonders
Sky a little bitter glitters so much more tonight for...
I don't know why the stars should say goodbye
I guess that it's alright if I've got you by my side

อีกไม่นานก็เช้า อีกไม่นานก็วันใหม่
จะเป็นวันอีกวันที่ดี ที่พบแต่ความสดใส
และเธอจะบอกกับฉัน ไม่ว่าดีร้ายสักเท่าไหร่
จะมีอีกกี่เช้ายังจะอยู่กับฉันจะไม่ไปไหน
ก็ผ่านมันไปด้วยดี
Darkness seems to just appear and it need our words
Since you were here... beside me
To hold and feel the midnight air it fills my heart with matching pair
Yet you did not leave
In the midst of night the darkest hour seems so long
But then you hold me tight and say to just be strong

อีกไม่นานก็เช้า อีกไม่นานก็วันใหม่
และจะไม่เลวร้ายอย่างที่ได้พบเจอในวันนี้
อีกไม่นานก็จบแล้ว ทุกอย่างจะเป็นเรื่องดี
และในเวลานี้เธอจะพาฉันข้ามฝันร้ายนี้ไป
อีกไม่นานก็คลี่คลาย
In the midst of night darkest hour seems so long
but everything's alright because you make me strong
and say...



วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข้อคิดสั้นๆ ที่มีคุณค่า & ใช้ชีวิตอย่างไร

ดูแลตัวเอง 
          
การดูแลตัวเองถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม 
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพร่างกาย การแต่งกาย รวมถึงการนึกคิด 
ตัดสินใจและการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง 
ฝึกดูแลตัวเองเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เข้าไว้ 
แล้วจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองอย่างแน่นอน 

 รู้จักตนเอง 

อีก 
หนึ่งข้อที่สำคัญไม่แพ้กัน คือคุณต้องรู้จักข้อดี - ข้อเสียของตัวคุณเอง 
เพราะถ้าคุณไม่รู้สิ่งเหล่านี้ที่เกี่ยวข้องกับคุณโดยตรงแล้วล่ะก็ 
เห็นทีคุณคงจะต้องมีเรื่องให้ต้องเสียใจอยู่เรื่อย ๆ ทีเดียวเชียวแหละ 

 เปิดโอกาสให้ตัวเอง 
อย่า 
ได้ปิดตัวเองให้จบปลักอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนไม่เป็นอันทำอะไรโดยเด็ดขาด 
มีฝันก็ขอให้ทำตามฝัน เพราะโลกใบนี้ยังมีสิ่งต่าง ๆ มากมายรอให้คุณได้ไปเจอ 
ไปสัมผัส อยู่เต็มไปหมด ฉะนั้น ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ลองเปิดใจกับสิ่งใหม่ ๆ 
เพื่อประสบการณ์ที่ดีของชีวิต 

 รู้จักแบ่งปัน 

ถัด 
มาก็คือการรู้จักแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้ผู้อื่นด้วย 
ไม่ว่าจะเป็นเรี่องราวที่คุณได้พอเจอมา ข้อมูลเด็ด ๆ และเรื่องดี ๆ โดน ๆ 
มากมายสารพัด เหล่านี้ลองไปบอกกล่าวคนรอบข้างดูบ้าง 
จะสร้างความสุขให้คุณได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ 

 พูดจาไพเราะ 
          
คิดเอาง่าย ๆ เวลาที่มีใครมาพูดกับคุณด้วยคำพูดที่ไพเราะ เสนาะหู 
คุณก็จะรู้สึกดีและอยากจะคุยกับคน ๆ นั้นต่อไปเรื่อย ๆ ใช่ไหมล่ะ 
ฉะนั้นแล้ว ก็ลองนำวิธีนี้ไปใช้ให้ติดเป็นนิสัยเลยก็ได้ 
เป็นอะไรที่ดูเข้าท่าอยู่ไม่น้อยเลยนะ จะบอกให้.. 

 ใช้ชีวิตอย่างง่าย ๆ 
อย่าผูกมัดตัวเองกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป พูดง่าย ๆ ก็ชิล ๆ เข้าไว้ 
ทำแต่ละวันให้ดีที่สุด เรื่องอะไรที่แย่ ๆ เช่น การเป็นคนชอบนินทาคนอื่น 
ชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น หรือจะอะไรก็ตามแต่ที่เป็นแง่ลบ 
เลิกคิดเลิกทำซะ ทำตัวสบาย ๆ แล้วทุกอย่างก็จะชิลตามมาเอง 

ทำจิตใจให้สงบเข้าไว้ 

โลกเราทุกวันนี้มีเรื่องให้ได้วุ่นวายมากพอแล้ว 
อย่าได้เอาจิตใจของเราไปวุ่นวายให้เปล่าประโยชน์ตามเลย ลองฝึกสมาธิ 
สวดมนต์หรือใด ๆ ก็ได้ให้จิตใจได้สงบ ๆ ลงบ้าง 
จะเป็นประโยชน์อย่างมากเลยล่ะ 

 สัมผัสธรรมชาติบ้างก็ดีนะ 

ไป 
ว่ายน้ำ ปลูกต้นไม้ ปีนเขา เดินเท้าเปล่าผืนบนหญ้า 
พาร่างกายไปเจอและรับแสงแดด หรือลองทำกิจกรรมกลางแจ้งดูบ้าง 
อยากจะบอกว่าเป็นอะไรทื่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจรู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวย 
แบบเต็ม ๆ เน้น ๆ มากมายเลยนะเออ 

 รู้จักการให้อภัย 

          
เคยมีคนบอกไว้ว่า "จะโกรธจะงอนกันทำไม กว่าจะรักกันได้ก็ไม่ใช่ง่าย ๆ 
ยังไงก็ต้องกลับมาดีกัน เสียดายเวลาที่ทุกข์ใจ 
เอาเวลานั้นมาบอกรักกันดีกว่า" คำพูดนี้บอกได้เลยว่าจริงสุด ๆ 
โกรธเคืองหรือแง่งอนกันไปก็เท่านั้น เสียเวลาเปล่า ๆ 
ให้อภัยกันได้ก็ให้กันไป ยอม ๆ กันบ้าง จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง 

 ยอมรับในความเป็นตัวตนของแต่ละคน 
คน 
เราเกิดมาต่างก็มีลักษณะการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป 
จะผิดหรือแปลกแยกกันบ้างก็ถือเป็นเรื่องที่ปกติ ดังนั้นแล้ว 
ยอมรับในสิ่งที่คนรอบข้างเป็น เข้าใจในตัวตนของแต่ละฝ่ายซึ่งกันและกัน 
จะเข้าท่ากว่ากันเยอะเลยล่ะ 

 ออกกำลังกายก็สำคัญนะ 

อย่า 
คิดว่าการออกกกำลังกายไม่สำคัญ ลองคิดดูสิว่า หากสภาพร่างกายไม่แข็งแรง 
มีเรื่องที่อยากจะทำมากมายแต่ทำไม่ไหว มันจะทำให้คุณต้องเสียใจขนาดไหน 
ฉะนั้น ออกกำลังกายเข้าไว้ เพื่อที่ร่างกายจะได้แข็งแรง 
จะได้พร้อมที่จะทำในสิ่งที่อยากทำได้อย่างฟิตพร้อมสมบูรณ์ 

 แบ่งเวลาไปสังสรรค์บ้าง 

ชีวิตคนเราจะมัวแต่หลังขดหลังแข็งทำงานเก็บเงินอย่างเดียวมันเป็นไปไม่ได้ 
ขืนทำแบบนั้นอย่างเดียวมีหวังได้ลาจากโลกนี้ไปก่อนใช้เงินที่หามาแน่ ๆ 
หาเวลาไปเอ็นเตอร์เทนตัวเอง เอาความสุขใส่ตัวบ้าง 
จะไปสังสรรค์กับเพื่อนหรือทำในสิ่งที่ชอบก็ทำไป 
ชีวิตจะได้สมดุลขึ้นมาหน่อยไงล่ะ 

 ทำอะไรสนุก ๆ แผลง ๆ ในหมู่เพื่อน 

          
ลองหาเวลานั่งคุยกับเพื่อนแล้วนึกอะไรสนุก ๆ หรืออะไรที่แผลง ๆ ดู 
นอกจากจะเป็นเรื่องสนุกในหมู่เพื่อนแล้ว ไม่แน่นะ 
แรงบันดาลใจหรือไอเดียอื่น ๆ 
ที่มีความน่าสนใจอาจจะเข้ามาหาคุณโดยไม่ทันตั้งตัวเลยก็ได้นะ 

 ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึง 

เพลงของ เสก โลโซ เคยบอกไว้ว่า "ขอ 
เพียงแค่ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึงที่จุดหมาย โปรดจงมั่นใจที่ทำลงไปนะถูกแล้ว 
อย่าฟังคำคนอย่าสนใจใคร อย่าเปลี่ยนแนว คนแน่แน่วเท่านั้นผู้ชนะ" 
(มาเป็นเพลง!) จริงอย่างที่เขาว่าไว้นะจ๊ะ แน่แน่วและแน่วแน่เข้าไว้ 
ไม่ผิดที่จะทำตามฝัน แต่จะผิดหากทิ้งความฝันนั้นไปอย่างง่าย ๆ 
ในเมื่อกล้าที่จะฝันแล้ว ต้องทำให้ได้ จำไว้!! 

 ลองเรื่องเสี่ยง ๆ ดูบ้าง 

กีฬาท้าชีวิต หรือเรื่องไหนที่คุณกลัว 
ลองรวบรวมความกล้าแล้วไปเผชิญหน้ากับมันให้เต็มที่ 
แล้วความกลัวหรือเรื่องเสี่ยงใด ๆ 
ก็จะไม่สามารถทำให้คุณกลัวหรือไม่กล้าได้อย่างแน่นอน ฟันธง!! 

 ติดตามข่าวสารบ้านเมืองและอัพเดตเรื่องใหม่ ๆ 
ทุก วันนี้โลกเรามีการเปลี่ยนแปลงไปมากมาย 
แถมยังมีข่าวสารจากหลากหลายแวดวงให้ได้รับรู้อีกมากมาย ฉะนั้นแล้ว 
คิดตามข่าวสารไว้บ้าง จะได้รู้ว่าโลกได้ก้าวไปถึงไหนแล้ว 
อีกทั้งเรื่องไหนที่ฮอตฮิตก็ดู ๆ ไว้บ้าง 
เผื่อใครมาถามจะได้มีเรื่องให้ได้พูดกันไปเยอะ ๆ 

 ประหยัด อดออม 
          
เศรษฐกิจโลกทุกวันนี้ไม่ได้ดีเหมือนแต่ก่อน 
บางประเทศยังประสบปัญหาทางการเงินให้วุ่นวายปวดหัวกันเป็นแถว ณ 
ตอนนี้อะไรที่ประหยัดได้ก็ช่วย ๆ กันประหยัด อย่าใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย 
เพราะหากในวันข้างหน้าคุณมีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้เงินและไม่มีให้ใช้ล่ะก็ 
เดือดร้อนหนักแน่นอน 

 รู้จักแก้ปัญหาอย่างมีเหตุมีผล 

เมื่อ ไหร่ก็ตามที่คุณต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ไม่ได้รับเชิญ ขอให้ตั้งสติให้ดี ๆ 
อย่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ค่อย ๆ แก้ปัญหานั้น ๆ ไปอย่างมีเหตุมีผล 
และทำให้ดีที่สุด เรียนรู้จากประสบการณ์ที่เคยพบเจอมา 
แล้วนำมาปรับประยุกต์ใช้กับเรื่องนั้น ๆ ขอให้จำไว้เสมอว่าทุกปัญหา 
มีทางออกของมันอยู่เสมอ 

 เลิกบ่นหรือตัดพ้อตัวเอง 
แน่ นอนว่าคนเราย่อมเจอกับเรื่องราว เสียงวิพากษ์วิจารณ์ 
และการโดนนินทาว่าร้ายกันอยู่ทุกคน จะโดนมาก โดนน้อย ก็แตกต่างกันไป 
แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าจะมัวมานั่งบ่นโน่น ตินี่ 
หรือกล่าวโทษตัวเองให้ช้ำจิตช้ำใจเล่น 
เอาเวลาส่วนนั้นไปทำประโยชน์อย่างอื่นดีกว่าเนอะ จะได้ไม่เครียด 

 เลือกที่จะเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ 

อย่าง ที่เรา ๆ ท่าน ๆ เคยได้ยินกันมาว่า "การให้ที่ยิ่งใหญ่ 
คือการให้โดยที่ไม่หวังผลตอบแทน" นี่ถือเป็นข้อที่ควรปฏิบัติมาก ๆ 
การได้ช่วยเหลือคนอื่น ๆ ให้หายเดือดร้อนหรือละได้ซึ่งความทุกข์ 
ถือเป็นการทำบุญ ได้กุศลอย่างมากมายเลยทีเดียว 

 ใช้เรื่องที่เคยเสียใจ มาสอนให้คุณแข็งแกร่งขึ้น 
  
ไม่ว่าคุณจะเคยเจอะเจอกับเรื่องเสียใจมามากน้อยขนาดไหน 
อย่าได้ไปจมปลักกับมัน แต่จงใช้มันเป็นบทเรียนชีวิต 
เพื่อสอนให้คุณได้ก้าวไปสู่วันข้างหน้าด้วยความแข็งแกร่งมากขึ้น 
และหากวันใดที่คุณต้องเจอกับเรื่องเสียใจอีก คุณจะผ่านมันไปได้อย่างง่าย ๆ 
สบาย ๆ 

ได้รู้ข้อปฏิบัติในการใช้ชีวิตดี ๆ แบบนี้แล้ว ก็ลองนำไปปรับใช้กันดูนะจ๊ะ 
อย่างน้อยก็เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันจิตใจของเราให้ดียิ่งขึ้นนะ^^ 


เครดิต: konngambanpon

งอมแงม

กำลังเป็นบ้าอยู่ชั่วขณะ
ติดละครรอยมาร
ชอบน้องบู้บี้มาก ๆ
ทำไมน่ารักอย่างนี้
แก่นแก้วซะจิงๆๆ
แล้วช้านจามาติดละครไรตอนนี้เนี่ย
ละครเค้าจะอวสานอยู่แร้วเนี่ย
ช้านเพิ่งจามาเริ่มดูใหม่
ดูไปดูมาตาเริ่มแฉะซะละ
ก็เล่นไม่หลับไม่นอน  555
จะให้แม่รู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเรามัวแต่ดูละคร
ไม่ได้อ่านหนังสือมาสามวันแร้ว คิคิ
มัวแต่ดูละครย้อนหลังเนี่ย 
ขอบอกว่าติดอย่างงอมแงม
ติดมากๆ  ทำไงดี
ไม่มีความรู้สึกแบบนี้มาหลายปีแล้ว
ปกตินี่เราไม่ค่อยชอบดูนะ  แต่ว่าทำไมหนอ...
ต้องมาติดละครเรื่องนี้ มะเข้าใจ  เหอะๆๆๆ

วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เบื่อจิง ไรจิงเลย

ทำไมน่าเบื่ออย่างนี่เนี่ย
มะรู้จาทำไร
อ่านหนังสือสอบเหร อ
แหะๆๆ ขี้ค้านสุดๆเลยตอนนี้
เหลือสอบอีกสองตัว
ได้อ่านน้อยนิดสุดแสนจะเหมือนไม่ได้อ่าน
เหมือนไม่เข้าหัวไงมะรู้
โคตรง่อม อยู่คนเดียวทุกๆวัน
ทำไมมันง่อมอย่างนี้
หายไปไหนกันหมดเนี่ย
ทำไมต้องทิ้งช้านอยู่คนเดียว
แงๆๆ

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อุปนิสัย..เพื่อชีวิตที่ดีกว่า

สมองของคนเราเหมือนพื้นดินที่ว่างเปล่าเมื่อเราปลูกอะไรลงไป เราก็จะได้ผลเป็นอย่างนั้นจงปลูกฝังสิ่งดีๆ ลงไปในสมอง
คำพูดใดๆที่เราเคยได้ยินซ้ำๆซากๆเกิน 37 ครั้ง มันจะกลายเป็นอุปนิสัยของเราทันที
อดีตไม่สำคัญว่าเราเป็นใคร สำคัญว่าวันนี้เราต้องการเป็นใครจงเคารพนับถือในความสามารถของตัวเอง ยกย่องและให้เกียรติตัวเอง
"อัจฉริยะ"ไม่ใช่สัตว์ประหลาด ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิดคนเก่งได้นั้นต้องได้รับการฝึกฝน ม้าดี...ต้องมีคนขี่มาฝึกฝน...นักกีฬาที่ดี ต้องมีโค๊ชที่ดีมาฝึกฝน
ชีวิตไม่ใช่เกมส์กีฬา ไม่มีเวลาพักครึ่งไม่มีการขอเวลานอกและที่สำคัญคือ "เปลี่ยนตัวผู้เล่นไม่ได้" ไม่มีใครเกิดมา "ล้มเหลว" มีแต่ "ล้มเลิก"
คนฉลาดต้องโง่เป็น คนโง่ไม่เป็น...จะไม่มีทางฉลาด
เพียงคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็ทำได้ตั้งแต่ที่คุณคิด แต่หากคุณคิดว่าคุณทำไม่ได้ คุณก็ทำไม่ได้ตั้งแต่ที่คุณคิด
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของมนุษย์ คือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ "ทางจิต" ที่ตอกย้ำตัวเองว่า..."ทำไม่ได้"
คนสำเร็จมองปัญหาเป็นโอกาส คนล้มเหลวมองโอกาสเป็นปัญหา
คนสำเร็จจะปรับตัวเองไปหาโลกภายนอก คนล้มเหลวจะให้โลกภายนอกปรับเข้าหาตัวเอง
คนเก่งใช้เวลา 2-3 ปีก็สอนให้เก่งได้...แต่ คนดีต้องใช้เวลา "ชั่วชีวิต" สอนกัน
"ความรู้" เป็นเพียงพลังอำนาจแฝงชนิดหนึ่งเท่านั้น "ความรู้" จะกลายเป็น พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ได้ก็ต่อเมื่อนำไปใช้อย่างชาญฉลาดเท่านั้น
ฟัง..แต่..ไม่แตกฉาน..แตกฉาน..แต่..นำไปใช้ไม่เป็น!!!
จงนำศักยภาพและอัจริยะภาพ ที่ซ่อนเร้นในตัวเรา มาใช้อย่างชาญฉลาด



ความสำเร็จ...เกิดจาก...
อัจฉริยะ 1 ส่วน
ที่เหลือ 9 ส่วน...เกิดจาก...
หยาดเหงื่อ...แรงงาน...และน้ำตาล้วนๆ


ความสำเร็จ...เกิดจากความยากลำบาก
ไม่มีความสำเร็จใด ตกลงมาจากฟากฟ้า
ไม่มีชัยชนะใด...ได้มาโดยไม่ต้องต่อสู้
ไม่มีความสำเร็จใด..ได้มาโดยไม่ต้องลงแรง



เกิดในที่..ที่ดี..นั้นดีแน่
เกิดในที่..ที่แย่..ก็ดีได้
เกิดที่ดี..แล้วแย่..มีถมไป
เกิดที่ไหน..ก็ดีได้..ถ้าใฝ่ดี



ปล.   http://www.thailocalmeet.com/index.php/topic,37019.0.html

วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

การเดินทางของหัวใจ

วันสุดท้ายแล้วรือ

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการมีอายุสามปีเต็มๆ 
ของใบผ่านภาค ก ท้องถิ่นของเรา
เหอะๆ  คิดแล้วเศร้า
เรายังสอบอารายๆๆ ไม่ผ่านสักอย่าง
มีแต่คนทับถมกดดัน  (ปวดหมองจริง)
รู้ว่าอยากให้เราสอบได้
แต่ใครบ้างละไม่อยากสอบได้สอบผ่าน
แต่แบบนี้มันก็กดดันกันมากนะ 
เครียด เครียด   เครียดๆ 
สอบก็อ่านหนังสือ  อ่านจนไม่หลับไม่นอน
อ่านจนหัวยุ่งหัวฟู  อ่านไม่รู้จักจำ
อ่านจนโทรม ก็ยังสอบไม่ผ่าน
เสียใจมันก็เป็นเรื่องธรรมดา
แล้วใครจะรู้มั้ยละว่าเราไม่เสียใจกว่าเหรอ
ช้านทุ่มเทกับทุกสนาม  ใครจะว่าช้านไม่สนใจอ่านหนังสือ
อ่านไม่เต็มที่  หรืออ้างว่าไม่มีเวลาอ่านหนังสือ
หรือเอาเวลาอ่านหนังสือไปมัวทำไรอยู่
สอบไม่ได้มาทุกคนก็บ่นๆ  ๆแบบนี้ประจำ
เฮ้ออออ  มันเครียด  มันกดดันเข้าใจมั้ย
ลองมาเป็นเราบ้างดิ แล้วจะรู้ว่ามันเป็นไง
เห็นคนอื่นสอบได้ สอบผ่านกัน
รู้มั้ยมันโคตรอิจฉา  น้อยใจโชคชะตาชีวิตตัวเอง
ทำไม ทำไม  ชีวิตนี้ช้านจะสอบไม่ได้กะเค้าบ้างเลยเหรอ
ช้านก็อยากสอบได้บ้างนะ

แต่ถ้ามันจะไม่ได้จิงๆ นะ
ก็คงต้องทำใจละ

ชีวิตมันก็ยังคงต้องเดินต่อไป

แต่.....  แค่อยากจะลบคำสบประมาทไว้แค่นั้นเอง

หรือว่าเราจะเป็นอย่างคำสบประมาทนั้นจิงๆ เหรอ 

เครียดโว้ย  เครียดจิง


วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

ถูกที่สุด

'คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย '


'ท้อแท้ได้แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้แต่อย่าริษยา พักได้แต่อย่าหยุด '

'ถ้าไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร '

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554

แปลกๆๆ

มีข้อสงสัยอยู่ในตัวเรา
ว่าทำไมเปิดหน้าเว็บมา
กูเกิลมันขึ้นรูปแฮปปี้เบิดเดย์ให้เรา

ความจริงก็ไม่รู้เรื่องไรหรอก
ป้าพัดเค้าบอก
ป้าบอกว่า เปิดกูเกิลดูแล้วจาเห็นเอง
เออ  จิงด้วยแหละมันขึ้นหน้าเว็บว่าสุขสันต์วันเกิดให้เรา
ว่าแต่.... 
วันเกิดคนอื่นๆ มันขึ้นให้ป่าว งง
ยัง งง งง  ว่าทำไม
แปลกหนอ
เดียวเก็บไปฝันแน่ ๆ เพราะยังหาสรุปไม่ได้ว่าทำไม???

Happy Birthday for me

วันนี้วันเกิด
เฮ้อออ   แก่ไปอีกปี  31  ละ
หน้าตา อายุ เริ่มไปละ  555  เริ่มเหี่ยว เหอะๆๆๆ
เหงาวะ อยู่บ้านคนเดียว
แต่มันก้เป็นเรื่องปกตินะ
ทุกๆ  ปีก็อยู่คนเดียว  ไม่ได้ไปฉลองกะใคร
ทำงานๆกับบ้าน ละก็นอน

ไม่หรอก ตื่นเช้ามาก็ไหว้พ่อกะแม่
ไปทำบุญที่วัด
แต่ปีนี้ไม่ได้ไหว้พ่อกะแม่ ตอนเช้า
วัดก็ยังไม่ได้ไปทำบุญ
แต่เปลี่ยนมาไหว้พ่อกะแม่ตอนเย็นแทน
พรุ่งนี้ก่อนค่อยไปวัดทำบุญ
วันนี้มันยุ่งๆ ไรก็มะรู้

ปีนี้ก็แก่ขึ้นไปอีก  แต่ทำไมความรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นเด็กอยู่เนี่ย
เหอะๆๆ  ช้านยังไม่อยากแก่  แต่ความจริงเราต้องยอมรับมัน  ว่าแก่แร้ว

แก่ขึ้นไปอีกปี  จะทำไงดีกะชีวิตละเนี่ย ??????

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

แค่ได้มีชีวิตนี้ก็สุขเกินแล้ว

การได้เกิดมาเป็นคน
ได้มีชีวิตหนึ่งชีวิตนี้มันก็ดีแค่ไหนแล้ว
เวลา....ที่ใช้หมดเปลืองไปกับความเครียด
และความไม่พอใจในสิ่งต่างๆ
สู้เราเอาเวลาตรงนั้นมาทำความเข้าใจกับทุกสิ่งทุกอย่าง
และให้กำลังใจตัวเองจะไม่ดีกว่าหรือ?

สำหรับฉัน...ในวันนี้ ฉันบอกได้เลยว่าฉันพอใจ
และภูมิใจกับตัวตนที่ฉันเป็น
แม้ว่าชีวิตจะยังขึ้นๆ ลงๆ และไม่อาจจะหนีพ้นความทุกข์กะความผิดหวังซ้ำๆ ซากๆๆ

เดินต่อไป........

มันเกือบจะล้มมันเหนื่อยมันล้าเหมือนแทบขาดใจ


เดินมาจนท้อไม่เจอจุดหมายปลายทางที่ฝัน

จะกลับดีไหมถ้าเดินต่อไปยากเย็นขนาดนั้น ยังถามใจ

....ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำว่าครั้งนึงเคยก้าวไป

แต่คนที่เชื่อในความฝัน จะเหน็ดจะเหนื่อยก็ยังต้องเดินต่อไป

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

จะไม่อ่อนแอ

มีเหตุการณ์มากมายที่ทำให้ใจเราอ่อนแอ

ท้อแท้ และสิ้นหวังที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามความต้องการ
ขอให้รู้และตระหนักไว้ว่ามันเป็นเพียงปรากฏการณ์
ที่เรามิอาจควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ใจต้องการได้
แม้ว่าเราจะพยายามทำให้ดีจนสุดความสามารถแล้วก็ตาม
เพราะในบางครั้งมันต้องเป็นไปตามธรรมชาติที่ต้องเป็น
ตามเหตุผลและปัจจัยที่จะเกิด....ปล่อยมันไป
ปล่อยไป ปล่อยวาง ด้วยความเข้าใจ
เข้าใจว่า...มันเป็น อนิจจัง....ยึดไปก็....เป็นทุกข์
ควบคุม บังคับบัญชา สั่งการ ก็ไม่ได้ เพราะเป็น อนัตตา
ใจเราจะแข็งแรง และปล่อยวางได้โดยง่ายหากเราตระหนักรู้ถึง....
ความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา....
ที่เราต้องเจอในชีวิตประจำวันอยู่เนือง ๆ ตลอดไป

มีแต่คิดถึง

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

ก่ายน้อ....

ไหงเป็นงี้ไปได้
ไม่เข้าใจ
งง  งง งง  แล้วก็งง
เป็นแบบนี้บ่อยๆ  ก็ไม่ไหวนะ
จะเริ่มไม่ไหวแล้ว
จะเริ่มไม่ไหวแล้ว
ไรกันนักหนา เนี่ยกะชีวิต
เบื่อ หน่าย ก่าย เซ็ง

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

ชีวิตอิสระ...คือการไม่ผูกมัด

วันนี้...เราอาจรู้สึกผูกพันต่อสิ่งนี้ จนคิดว่าเราขาดไม่ได้..


แต่เวลาจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป...สักวันเราจะรู้ว่า...

สิ่งที่เราผูกพันในวันนี้...เป็นส่วนหนึ่งที่เติมชีวิตเรา

ไม่ใช่...ทั้งหมดของชีวิตเรา...



วันหนึ่ง...หากเรามีโอกาสได้เจอสิ่งที่ถูกใจสิ่งใหม่

ที่เราคิดว่าเราพอใจ...ปรารถนา...ต้องการ...ขาดไม่ได้

เราก็จะเริ่มผูกพันกับสิ่งใหม่ได้ในเวลาไม่นานนัก...



เมื่อเวลาหนึ่งผ่านไป จะสอนเราได้เองว่า...

ความผูกพันกับสิ่งใดๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง

จะเป็นความสุขในช่วงเวลานั้นๆ



อย่าได้ไปยึดติด อย่าได้ไปใช้ชีวิตทั้งชีวิตลุ่มหลง...

คิดเสียว่า...เราโชคดี...ที่มีโอกาสได้ผูกพันกับสิ่งที่เรารัก

ความผูกพัน...ก็เหมือนกับความรัก...

หรืออาจจะเป็นผลพวงที่มาจากความรัก

หากเรารักใครคนใดคนหนึ่งมาก เราก็รู้สึกผูกพันมาก

แต่ความผูกพันที่ว่า...เพราะคนทุกคน ย่อมผูกพันกับหลายๆ สิ่ง



เปรียบเสมือนเรามีแก้วน้ำอยู่หนึ่งใบ

ในช่วงเช้า...เราอาจต้องใช้แก้วใบนี้ดื่มนม

พออากาศร้อนหน่อย เราอาจต้องการน้ำเย็นๆ

บางครั้งที่เราไม่สบาย...เราอาจต้องการน้ำอุ่น



ใจเราก็เหมือนกับแก้วน้ำ...ต้องเติมสิ่งต่างๆ

ในเวลาที่แตกต่างกัน...ตามความเหมาะสม...

หากเราเติมน้ำเย็นลงไปในแก้วน้ำ แล้วเติมน้ำร้อนลงไป

ในทันที...ในแก้วใบเดียวกัน...เราก็จะพบว่า...

แก้วใบนั้น...ก็จะร้าว...แล้วก็เริ่มแตก ซึ่งก็เหมือนกับใจเรา...



ความผูกพันต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดในช่วงเวลาหนึ่ง...ไม่ผิด

ถ้าเราค่อยๆ ปรับใจ ปรับตัวของเราเอง ให้กลับคืนในเวลาที่ควร

เพราะอย่างน้อยที่สุด...เราก็มีโอกาส...ได้ผูกพัน...

ซึ่งก็เหมือนเราได้มีโอกาส...ได้รัก


ที่มา http://www.dhammajak.net/

จะดีกว่ามั้ย

เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม (เพลงนี้ชอบมากๆ)

เกลียดความคิดถึง

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เค้าว่ากันว่า.....

เค้าว่ากันว่า ...อ่านหนังสือสักเล่มต้องใช้เวลา เช่นเดียวกัน เราคงไม่รู้จักใครสักคนได้ดีตั้งแต่วันแรก

เค้าว่ากันว่า ...อย่าตัดสินหนังสือดี ๆ แค่ปกมันสวย เช่นเดียวกัน คนหน้าตาดี อาจจะไม่ใช่คนดีเสมอไป
เค้าว่ากันว่า ...คน ที่ไม่ชอบอ่านหนังสือเลย ก็ใช่ว่าจะมีหนังสือเล่มแรกในชีวิตที่ชอบไม่ได้ เช่นเดียวกัน คนที่เราไม่คิดจะอยากรู้จัก อาจจะเป็นคนที่ดีที่สุดในชีวิตเราก็ได้
เค้าว่ากันว่า ...การ ชอบหนังสือสักเล่ม ไม่ได้หมายความว่า หนังสือเล่มนั้น เนื้อหาดีทุกหน้า เช่นเดียวกัน การรู้สึกดีกับใครสักคน ไม่จำเป็นว่าเขาต้องไม่มีข้อเสียอะไรเลย
เค้าว่ากันว่า ...อย่า รู้สึกเสียดายเวลา กับการอ่านหนังสือบางเล่มจนจบ แล้วพบว่าเป็นหนังสือที่ไม่ชอบ เช่นเดียวกัน จงรู้สึกดี กับการใช้เวลากับใครสักคนหนึ่งอย่างเต็มที่ แม้ว่าวันหนึ่งจะรู้ว่า เขาคนนั้นไม่ใช่เลยสักนิด เพราะอย่างน้อย ต่อจากนี้ไป เราจะได้เลือกทางที่ถูกและคนที่ใช่ซะที

หนังสือ...ความรักอย่าตัดสินหนังสือว่าดี แค่ปกสวยๆ...
อย่าบอกว่า...น่ารักเหลือเกินแค่คุยกันหนเดียว
คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ..ใช่ว่าจะมีหนังสือเล่มแรกที่ชอบไม่ได้
คนที่บอกว่าจะไม่แต่งงาน...มักแซงหน้าแจกการ์ดก่อนคนอื่นเสมอ


ข้อมูลจาก....  http://www.teenee.com/

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ถ้าไม่ได้มันจะตายมั้ยละ

เข็มมันคงไม่มีบุญวาสนาจะได้เป็นข้าราชการ  (เหรอ)

คำพูดนี้ ฟังแล้วรู้สึกจี๊ดขึ้นมา

แต่ถ้าคิดอีกแง่หนึ่งนะ เค้าอาจจะพูดให้เราขยันอ่านหนังสือขึ้นมาบ้าง
เราก็อ่าน แต่คงอ่านไม่มาก หรือเราอาจจะโง่ไปหน่อย
อ่านเท่าไหร่ก็ยังสอบไม่ได้สักที
ดูคนอื่นๆ เค้าดิ สอบๆ  กันเค้าก็ยังได้กัน
เฮ้ออ
แล้วไงละก็มันไม่ได้
แล้วมันไม่ได้มันจะตายมั้ยละ
อยากรู้
ทำไมต้องว่ากันแบบนี้ด้วยเนาะ 
คิดแล้วจี๊ดเซ็ง....

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

โรคเหนื่อยใจ


คิดมาก

บอกกับฉันได้มั้ยว่ามันเป็นความจริงหรือว่าฉันคิดมาก
ใจฉันเริ่มจะหวั่นไหว กับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ
บอกความในใจกับฉัน อยากจะรู้ว่าใจเธอคิดเช่นไร
หรือว่าเธอคิดจะแกล้งกัน เธออยากเห็นน้ำตาของฉันใช่มั้ย
อยากจะบอกให้เธอรู้ ว่าใจฉันนั้นมันกังวลแค่ไหน
ก่อนจะพูดอะไรออกมา อยากจะขอให้เธอสัญญา
ว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันต้องเสียใจ
ก็ความรักของเรายังดีอยู่ใช่มั้ย
ในความฝันเรายังมีกันใช่มั้ย
ใจเธอนั้นมันยังไม่ได้เปลี่ยนไป
และความรักของเรายังคงเหมือนเดิม
อยากจะขอให้เธอได้พูดเช่นนี้
บอกกับฉันว่าใจเธอคิดเช่นนี้
บอกกับฉันให้ฉันมั่นใจสักที
ว่าความรักของเรายังคงเหมือนเดิมใช่หรือเปล่า…
ทำไมเธอช่างใจร้าย เธอรู้มั้ยว่าฉันเป็นคนคิดมาก
ทำให้ใจฉันวุ่นวาย เป็นแบบนี้แล้วใครจะรับผิดชอบ
อยากจะบอกให้เธอรู้ ว่าใจฉันนั้นมันกังวลแค่ไหน
ก่อนจะพูดอะไรออกมา อยากจะขอให้เธอสัญญา
ว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันต้องร้องไห้
ก็ความรักของเรายังดีอยู่ใช่มั้ย
ในความฝันเรายังมีกันใช่มั้ย
ใจเธอนั้นมันยังไม่ได้เปลี่ยนไป
และความรักของเรายังคงเหมือนเดิม
อยากจะขอให้เธอได้พูดเช่นนี้
บอกกับฉันว่าใจเธอคิดเช่นนี้
บอกกับฉันให้ฉันมั่นใจสักที
ว่าความรักของเรายังคงเหมือนเดิมใช่หรือเปล่า…
ก็ความรักของเรายังดีอยู่ใช่มั้ย
ในความฝันเรายังมีกันใช่มั้ย
ใจเธอนั้นมันยังไม่ได้เปลี่ยนไป
และความรักของเรายังคงเหมือนเดิม
อยากจะขอให้เธอได้พูดเช่นนี้
บอกกับฉันว่าใจเธอคิดเช่นนี้
บอกกับฉันให้ฉันมั่นใจสักที
ว่าความรักของเรายังคงเหมือนเดิมใช่หรือเปล่า

*--*

จงอย่ามีชีวิตเหมือน “เข็มนาฬิกา”
ถึงมันจะเดินไปข้างหน้า…….
แต่ก็เดินกลับมาที่เดิม..^^

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มึน

วันนี้ปวดเฮดจิงๆๆๆ
มีไรมาให้เซ็งอีก
มาเลยๆๆๆๆๆ
ให้หัวมันระเบิดซะก็ดี

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มันเกิดอารายกะช้าน

ทุกวันนี้มันยังแย่ไม่พออีกเหรอเนี่ย
ช้านจะต้องเจออารายอีกมาก
แค่นี้ยังเล่นตลกกันไม่พออีกเหรอ
จาเป็นโรคไรกันนักหนาเนี่ย
โรคนั่นโรคนี่   เป็นนั่นเป็นนี่อยู่นี่แหละจะบ้าตาย
เซ็งโครต โครตเซ็งอย่างบอกไม่ถูก
วันนี้ตื่นแต่เช้า
ไปหาหมอ  ฉีดยากันบาดทะยัก
รอบนี้ก็รอบที่สี่เห็นจะได้ ยังเหลืออีกสองรอบ
เจ็บแขน ปวดแขนสุดๆ  ยกแขนไม่ขึ้นเลย
ทรมานยัง  ยาบ้ากะว่ายาไรเนี่ย  ฉีดไปแร้วช้านง่วงสุดๆ

ไม่พอไปตรวจแป๊บๆ  ไรนี่แหละ จำชื่อได้แค่นี้
ตรวจหาความผิดปกติในช่องคลอด
แล้วก็ตรวจมะเร็งเต้านม
อืมตรวจก็ดีอยู่นะ
หมอก็คุยเป็นกันเองดี  เราข้องใจไรก็ถาม  หมอก็ตอบอย่างละเอียดยิบ
บอกว่าปกติดีทุกอย่าง แต่มีอย่างหนึ่งไม่ปกติ 
ไอ้เราเริ่มใจไม่ดีละ  ทำไมหนูมีรังไข่แค่ข้างเดียว
อ้าว  หมอพุดไงเนี่ย ปกติดีทุกอย่าง แต่มีรังไข่ข้างเดียว
งง ด้วย  สับสน  ปน เครียดเลยช้าน  เฮ้ออออ

แค่เป็นซีสทุกวันนี้ช้านก็ปวดหมองจะแย่อยู่แร้ว
นี่ยังมาเจออันนี้อีก  เครียดขึ้นสมองเลยช้าน
ทำงานไม่รู้เรื่อง สับสนปนเปในหัวสมองไปหมด

อ้าว ทำใจละ
ไรจะเกิดก็ให้มันเกิด
จะเป็นไรอีกก็ช่างมัน
คนทุกคนเกิดมามันก้ตายด้วยกันทั้งนั้น
แค่ว่าจะตายเร็วตายช้าเท่านั้นเอง
ปลงได้มันก็คงดีเนาะ  เฮ้ออออ 
ไม่อยากจาเซด

วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กำลังใจดีๆ

ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่า แม้แต่คนโง่ที่สุดยังฉลาดในบางเรื่อง และคนฉลาดที่สุด ก็ยังโง่ในหลายเรื่อง... 
...ไม่มีอะไรเสียเวลาไปมากกว่า การคิดที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต ไม่เคยมีอะไรช้าเกินไป ที่จะทำใหสิ่งที่ตนฝัน... 

...คนที่ไม่เคยหิว ย่อมไม่ซาบซึ้งรสของความอิ่ม ความสำเร็จที่ผ่านความล้มเหลว ย่อมหอมหวานกว่าเดิม... 

...อันตรายที่สุดของชีวิตคนเราคือ การคาดหวัง อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ เหตุผลของคนๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่เหตุผลของคน อีกคนนึง ถ้าคุณไม่ลองก้าว คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า ทางข้างหน้าเป็นอย่างไร 

...ปัญหาทุกอย่างล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง... 

...คนเรา ไม่ต้องเก่งไปทุกอย่าง แต่จงสนุกกับงานทุกชิ้น ที่ได้ทำ... 
...หัวใจของการเดินทางไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย หากอยู่ที่ประสบการณ์สองข้างทาง...มากกว่า
 


วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

100 เปอร์เซ็นต์

"ความห่วงใย" ของใครจะเท่ากับความห่วงใยของ "พ่อแม่"


"คำพูด" ของใครจะทำให้เราอุ่นใจได้เท่าก​ับคำพูดของ "พ่อแม่"

"กอด" ของใครจะอุ่นได้เท่ากับกอดของ "พ่อแม่"

"รัก" ของใครจะยิ่งใหญ่และมากมายได้เท​่ากับรักของ "พ่อแม่"

จำไว้เถอะนะลูก ๆ ทุกคนไม่มีใครรักเราได้เท่ากับ "พ่อ - แม่" ของเรา
 
ถูกต้องที่สุดในโลก
อันนี้ขอก๊อบของพี่อ้อยมา

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เจ็บหนัก...ก็พักหน่อย

เคยไหม...
บางช่วงของชีวิตที่รู้สึกว่าตัวเองกำลัง  "เจ็บหนัก"
เจ็บหนักจากความผิดหวังใหญ่ๆๆ
เจ็บหนักจากการถูกทำร้าย รังแก กลั่นแกล้ง
หรือเจ็บหนักจากความเศร้าโศกเสียใจของตัวเอง
ในเวลานั้น  ...  คงไม่มีอะไรที่เราต้องการ
มากไปกว่าการทำตัวหายสาบสูญไปจากโลกนี้
อยากจะหายๆ ไปจากโลกนี้
ได้ก็ดีนะ....

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

จบเฮ่

สอบตกอีกแระ
ไฮ่ไค่

มันก็ถูก

เส้นชัยไม่ได้วิ่งมาหาเรา
แต่เราเองซิ ต้องวิ่งไปหามัน
แต่.........

T__T

เซงแต่เช้าเลยเรา

รู้นะทุกคนมีปัญหานะ
ไม่ช่ายแต่เรามีคนเดียวที่มีปัญหา
ทุกคนในโลกนี้ล้วนแต่มีปัญหากันทั้งนั้น
แต่มีปัญหามาแต่เช้าเลย 
เครียดแต่เช้า  เซ็งจะบ้าตาย
มีบ่อยๆ    ก็ไม่ไหวเลยนาาาาาาา
ช้านเครียด  

โลกนี้ไม่เห็นน่าอยู่อย่างที่คิดเลย
เบื่อๆๆๆ 

วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

งานเข้า

ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลามาดูแลอัพบล็อคเท่าไหร่
ยังมีไร ไร อีกแยะที่ต้องจัดการกะบล็อคตัวนี้
แต่ว่ามะมีเวลา เพราะมัวแต่เอาเวลาไปทำไรก็มิรู้ แหะๆๆ
คงจาไม่ได้มาจัดการอีกนาน
ขอพี่ไปจัดการกะตัวเองก่อนะ
เพราะตอนนี้ตัวของพี่เองสับสนเหลือเกิน
จับต้นชนปลายไรก็ไม่ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวพี่เป็นไร
พี่ก็ยังไม่รู้ว่าตัวพี่เป็นอาราย เอ้ออ
ตัวเรายังงงตัวเราเลย แล้วครายที่หนายจามาเข้าใจเราเนี่ย

 มันเหนื่อย เหนื่อยเหลือเกิน เกินจะสู้ไหว
แต่ต้องสู้ เพื่อชีวิตนี้ ชีวิตของเราเอง
น้านเริ่มเพี้ยนละ สงสัยต้องพบจิตแพทย์อย่างด่วน
ช้านเป็นไรมะรู้ ช้านเครียดมากไปป่าวเนี่ย
แย่นะชีวิตช่วงนี้

สู้ต่อไป!!!! กำลังใจไม่เคยหมด

"หวง" กะ "ห่วง"

"หวง" คือ การทำให้ตัวคุณเองมีความสุข
"ห่วง" คือ การทำให้คนที่คุณรักมีความสุข

"หวง" คือ การผูกมัดคนที่คุณรักไว้ด้วยกาย
"ห่วง" คือ การผูกมัดคนที่คุณรักไว้ด้วยใจ

"หวง" คือ การเห็นแก่ตัว
"ห่วง" คือ การเสียสละ

"หวง" คือ การที่คุณให้เขาทำอะไรในกรอบของคุณ
"ห่วง" คือ การที่คุณให้เขาทำอะไรในกรอบของเขา

"หวง" คือ ประโยคคำสั่ง
"ห่วง" คือ ประโยคขอร้อง

"หวง" คือ คุณรักเขาและต้องการให้เขารักคุณ
"ห่วง" คือ คุณรักเขาแต่ไม่ต้องการให้เขารักคุณ

"หวง" คือ สิ่งที่คุณทำแล้วเกิดความทุกข์ใจ
"ห่วง" คือ สิ่งที่คุณทำแล้วเกิดความสุขใจ

"หวง" คือ การทำสิ่งที่ไร้สาระเพื่อให้เขาต้องอยู่กับคุณ
"ห่วง" คือ การทำสิ่งมีสาระที่ไม่ต้องการให้เขาอยู่กับคุณ

"หวง" คือ การออกไปเต้นแร้งเต้นกา
"ห่วง" คือ การอยู่เฉย ๆ นั่งมองเพียงเงียบ ๆ

"หวง" คือ การบังคับขู่เข็ญโดยเขาไม่เต็มใจ
"ห่วง" คือ การปล่อยให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาพอใจ

"หวง" คือ ความรักที่จอมปลอม
"ห่วง" คือ ความรักแท้จริง

และ ...

"หวง" คือ การที่คุณหลอกตัวเองว่าเขารักคุณ
"ห่วง" คือ การที่คุณหลอกตัวเองว่าเขาไม่รักคุณ....

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ท่าจะจิง

นั่งทำงานอยู่ดีๆๆ ดั้นเก้าอี้ขาหักซะได้ อารายกันเนี่ย เราจะกลายเป็นคนตุ้ยแต้ๆละกะเนี่ย รับบ่อได้ ว่าไปวันนี้ก็มีแต่คนทักหนาว่าตุ้ย แง้ๆๆๆๆ ไม่เอาๆๆๆ ยังม่ายอยากตุ้ย

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เจ๋งเรย

”ประสบการณ์ชีวิต” เป็นพลังที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้เราได้อย่างดี

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ทางตัน?

คำว่า "ทางตัน" ที่ว่า คงหมายถึงตันปัญญา หรือตันกำลังใจ

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ใบลาออกจาก....ความทุกข์

ไม่สำคัญว่า . . . มีทรัพย์มากหรือน้อย
แต่สิ่งสำคัญ คือ . . . ต้องใช้ให้น้อยต่างหาก . . .
. . . ชีวิตจึงจะมีเหลือมากกว่าขาด . . .

คนจนยิ่งจน . . . เพราะทำรวย . . .
คนรวยยิ่งรวย . . . เพราะทำจน . . .
. . .
ทำตัวให้เป็นปกติ . . . ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น . . .
. . .
ชีวิตก็จะเป็นปกติ . . .
. . . ไม่ยินดีในสิ่งที่ตนได้ . . .
. . . ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี . . .
. . . เป็นคนอาภัพอับโชคที่สุดในโลก . . .

. . . ยินดีในสิ่งที่ตนได้ . . .
. . . พอใจในสิ่งที่ตนมี . . .
. . . เป็นคนโชคดีที่สุดในโลก . . .

อดทนได้ . . . จงอดทน
อดใจได้ . . . จงอดใจ

. . . ไม่อดทน ไม่อดใจ . . . เรื่องเล็กจักกลายเป็นเรื่องใหญ่

คนที่มีความสุข มิใช่คนที่มีมากที่สุด
. . . แต่เป็นคนที่ต้องการน้อยที่สุด . . .
ยิ่งมีความต้องการน้อยลง

. . . สมบัติที่มีอยู่เดิม . . . ก็ดูเหมือนมีมากขึ้น . . .

ความสุขหรือความทุกข์ของชีวิต
บางครั้งเหมือนการมองผ่านกระจก

. . . หากกระจกใสสะอาด . . . เมื่อมองสิ่งใดย่อมมีแต่ความสุข
. . . ปราศจากความขุ่นมัว . . . หากกระจกขุ่นมัว
เมื่อมองสิ่งใด . . . แม้เป็นสิ่งเดียวกัน . . . ก็มีแต่ความทุกข์ใจ
จงจำไว้ว่า . . . ความสุขอยู่ไม่ไกล
เพียงเช็ดกระจกให้ใส
เช็ดใจให้สะอาดเท่านั้นเอง

ทุกข์อยู่ที่ใจ . . . ทุกข์ของใครก็ของมัน . . .
ทุกข์อยู่ที่ใจ . . . ใครจะเก็บไว้ก็ช่างมัน . . .
สุขอยู่ที่ใจ . . . ฉันเก็บมันไว้ทุกวัน . . .
สุขอยู่ที่ใจ . . . ฉันจะให้กันและกัน . .

เราวิ่งตามอะไรกัน!!!!!! ในชีวิต

มีเรื่องเล่าว่า… มีพระองค์หนึ่ง…ชอบทำอะไรแปลกๆ…
วันหนึ่ง…พวกกรุงเทพฯ…เอากฐินไปทอดที่วัด…

จัดงานกันใหญ่โต…มีหนัง…มีลิเก…มีดนตรี…ผู้คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน…
ก่อนทอดกฐิน..ผู้คนมารวมกันเต็มศาลา…
หลวงพ่อเรียกเด็กวัดมา…
บอกให้ไปเอาเนื้อจากโรงครัวมาก้อนหนึ่ง…แล้วเอาเชือกมาด้วย…
หลวงพ่อจัดการ…เอาเนื้อ…ผูกติดกับหลังหมา…
ผูกเสร็จ…ก็ปล่อยหมา …
หมาเห็นเนื้ออยู่บนหลัง…ก็ไล่งับ…
พอหัวโดดงับ…ตัวก็ขยับหนี…
เพราะหมามันกัดหลังตัวเองไม่ถึง…
ยิ่งโดดงับเร็ว…ก้อนเนื้อก็หนีเร็ว…
โดดไม่หยุด…เนื้อก็หนีไม่หยุด…น่าสงสารหมามาก…

หมาโดดอยู่นาน…งับเท่าไหร่…เนื้อก็ไม่เข้าปากสักที…
ผู้คนบนศาลา…พากันหัวเราะชอบใจ…
หัวเราะเยาะหมา…ว่าทำไมมันถึงโง่ยังงี้…
ไล่งับ…จะกินเนื้อ…ที่ตัวเองไม่มีทางไล่ตามทัน ตลอดชีวิต…

หลวงพ่อ…มองดูด้วยความสนุกสนานจนหนำใจแล้ว…
ก็แก้เชือกออกมากหลังหมา…
แล้วหันมาพูดกับญาติโยมว่า…

“มนุษย์เรา…มีความรู้สึกว่า…ตัวเองพร่อง…ตัวเองยังไม่เต็ม…
ต้องเติมตลอดเวลา…เติมไม่หยุด…เพื่อให้ตัวเองเต็ม…

อยากสวย…อยากทันสมัย…
ไปหาซื้อเสื้อผ้าที่สวยที่สุด…ทันสมัยที่สุดใส่…
ดีใจได้เดือนเดียว…มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว…สวยกว่า…ทันสมัยกว่า…
อยากได้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่…
ซื้อเสร็จ ๓ เดือน…รุ่นใหม่ก็โผล่มาอีกแล้ว…

ซื้อคอมพิวเตอร์ทันสมัยที่สุด…
๒ เดือนต่อมา…มีรุ่นใหม่กว่าออกมา…ของเราตกรุ่น…

ซื้อรถเบนซ์…ทันสมัยที่สุด…แพงมาก…
ขับได้ ๖ เดือน…มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว…
ทันสมัยกว่า…แพงกว่า…ของเรากลายเป็นเชย…

เราต้องก้มหน้าก้มตา…ทำงานทั้งวัน ทั้งคืน…หาเงินมา…
เพื่อมาทำให้ตัวเองทันสมัย…
ซื้อเสื้อผ้าใหม่…มือถือใหม่…คอมพิวเตอร์ใหม่…รถยนต์คันใหม่…
เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส…
เพื่อไม่ให้ตัวเองตกรุ่น…

ปัจจุบัน…
เรากำลังไล่งับความทันสมัย…เหมือนหมาที่ไล่งับเนื้อบนหลังของมัน…
ทั้งที่รู้ว่า…ต่อให้ไล่งับทั้งชีวิต…ก็ไม่มีทางตามทัน…
น่าสงสารไหมโยม….”

คนเต็มศาลา…เมื่อกี้หัวเราะครึกครื้น…
ด่าว่า…หมามันโง่…
ตอนนี้เงียบสนิท…เหมือนไม่มีคนอยู่…

ไม่รู้ว่า…กำลังสงสารหมา…
หรือ…กำลังทบทวนความโง่…ตัวเอง

ในตัวเรามีคนอยู่สามคน

 วัดบ้านไร่แห่งหนึ่ง 

หลวงตาเพิ่งกลับจากการบิณฑบาตเห็นลูกศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น 

จึงเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นอะไร ลูกศิษย์ตอบกลับมาว่า 

ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอพระ 

แต่ผมเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ ทุกคนก็หาว่าผมเป็นขโมย 

ไม่มีใครเชื่อผมเลย ฮือ ฮือ ' 

หลวงตานั่งลงข้าง ๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วสอนลูกศิษย์ว่า 

' เจ้ารู้ไหม ในตัวเรามีคนอยู่สามคน 

คนแรกคือ คนที่เราอยากจะเป็น 

คนที่สองคือ คนที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น 

คนที่สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริง ๆ '

ลูกศิษย์หยุดร้องไห้ นิ่งฟังหลวงตา 

' คนเราล้วนมีความฝัน ความทะยานอยาก ตามประสาปุถุชนทั่วไป 

ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย บางครั้งความฝันก็เป็นสิ่งสวยงาม 

เป็นพลังที่ทำให้เราก้าวเดิน เช่น บางคนอยากเป็นนักร้อง 

เป็นนักมวย เป็นดารา ถ้าถึงจุดหมายเราก็จะรู้สึกว่า

โลกนี้ช่างสว่างไสวสวยงาม ดังนั้นเราควรมีความฝันไว้ประดับตน 

เพื่อเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ ' 

' มาถึงไอ้ตัวที่สอง จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น 

บางครั้งก็ยัดเยียดว่าเราดีเลิศ จนเราอาย 

เพราะจิตสำนึกเรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก 

แต่เราก็ยิ้มรับ แต่บางครั้งไอ้ตัวที่สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์ 

จนไม่อยากจะนึกถึง ซ้ำร้ายยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา 

เพราะมันเป็นโลกในมือคนอื่น มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่คนอื่นยื่นให้ ' 

' อย่างคนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ เช้ามาพบศพใต้ท้องรถ 

ก็ต้องขับรถหนี ทั้งที่ศพนั้น ถูกรถชนตายอีกฝั่งแล้วดันถลามาใต้ท้องรถ 

แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขับสิบล้อ บางคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร ' 

' สมัยที่หลวงตายงไม่ได้บวชเคยไปส่งเพื่อนผู้หญิงที่มีผัวแล้ว 

เพราะเห็นว่าบ้านเป็นซอยเปลี่ยว ส่งได้สองครั้งก็เป็นเรื่อง 

ชาวบ้านซุบซิบนินทา หาว่าเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน 

คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจแคบ 

มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม 

เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี 

ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเองออกมา 

เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ อย่าเลียนแบบ 

นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ ถ้าเอาไปว่าร้ายนินทาเรียกว่าวิถีของคนพาล ' 

' แล้วเราต้องทำตัวอย่างไรละครับในเมื่อเราต้องเจอคนเหล่านั้นเรื่อย ๆ ' 

ลูกศิษย์หยุดร้องไห้แล้วเริ่มสนทนาโต้ตอบหลวงตา 

' เจ้าต้องทำความเข้าใจ จิตใจมนุษย์ เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ 

เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น 

แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ 

เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง 

ยังไม่ต้องชำระ ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาด

กว่าที่เป็นอยู่ เขาเหล่านั้น เป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น 

แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม ' 

' เข้าใจครับหลวงตา ' เด็กน้อยยิ้มมีความสุขอีกครั้ง 

สว่างตา ด้วยแสงไฟ สว่างใจ ด้วยแสงธรรม 

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ 

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ 

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ 

สรณะอื่น ไม่มี ชีวิตนี้เพื่อพระรัตนตรัย

จะเดินทางอีกแย้ว

วันนี้จาไปสอบอีกแระ สอบมันอยู่นั่นแหละ สอบเป็นสิบๆๆรอบละ ไม่รู้ว่ารอบนี้จาสอบได้มั้ย แต่กำลังใจเต็มร้อย หวังว่ารอบนี้คงจาสมหวังนะ แหะๆๆ สาธุ เบื่อกะการนั่งรถที่สู้ด ตอนนี้ยังเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไม่หายนะ กินยาแก้ปวดก่อนเดินทางท่าจะดี ไม่รู้รอบนี้จาเจอไรอีกบ้างเนี่ย

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ตาย ตาย ตาย

ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ คงไม่ดีแน่เลย ชีวิตจาหาไม่ นอนไม่ได้ทั้งคืน ลุกมาต้มน้ำใส่ถุงน้ำร้อน เอาประคบตัว ต้มแล้วก็ประคบ ทำแบบนี้สามรอบ เห็นจะได้ เล่นเอากันไม่ได้หลับเลย จะตายอยู่แล้ว ความจริงตายๆ ไปซะคงดี จะได้ไม่ต้องมาเจอปัญหานี้อีก เฮ้ออ ทำไมต้องเกิดกะช้านด้วยเนี่ย เบื่อชีวิตจังโว้ยยยยยยยย

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เปลี่ยนแปลง*****

ไม่จำเป็นต้องตามหา " รักแท้ " .. เพราะ ตั้งแต่ออกจากท้องแม่ .. ก็ได้รับมาเรียบร้อยแล้ว !!!.. ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่า.. แม้แต่คนโง่ที่สุด.ก็ยังฉลาดในบางเรื่อง และคนฉลาดที่สุด.. ก็ยังโง่ในบางเรื่อง การปล่อยวางไม่ใช่เป็นการยอมแพ้ .. ตรงกันข้าม เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง จากส่วนลึกของหัวใจของเราวันละน้อย เพื่อเอาชนะความอ่อนแอ มีคนเคยบอกเอาไว้ว่า... การตั้งความหวัง คือการเสี่ยงกับความเจ็บปวด การพยายาม คือการเสี่ยงกับความล้มเหลว แต่ยังไงก็ต้องเสี่ยง ... เพราะในสิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิตก็คือ การไม่เสี่ยงอะไรเลย คนเก่ง..เขาไม่คุย คนคุย..มักไม่เก่ง คนโง่..มักอวดเบ่ง.. คนเก่ง..เขาเจียมตัว.. สิ่งที่ทำร้ายเราที่สุด..ไม่ใช่คนที่ "เปลี่ยนไป" แต่เป็นตัวเราเอง..ที่ไม่เข้าใจการ "เปลี่ยนแปลง" คนเจ้าชู้!!! ส่วนใหญ่พัฒนาตัวเองมาจากคนที่เคย "แสนดี แต่...ถูกย่ำยีจิตใจ" การรักคนอื่นก็คือ การรักตัวเองอีกแบบหนึ่ง อยู่คนเดียวเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารักตัวเองรึเปล่า พอเริ่มรักใครซักคน สิ่งที่ไม่เคยทำก็ทำ ไม่เคยหวานขนาดนี้ก็หวาน ทำทุกอย่างที่จะรักษาคนที่เรารัก ให้อยู่กับเรานาน ๆ เพราะอะไร… เพราะรักตัวเองและกลัวตัวเองเสียใจ

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สู้ไหว

ยังมีแรงสู้ต่อ ยังไหว

วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

หลายอาการรวมๆ กัน

เหนื่อย
หิว
ง่วง
ทรมาน
เพลีย
เพี้ยน
มันอยู่ในตัวช้านนี่หมดเรย

อยากกับบ้านแล้ว 
หิว 
ง่วง
เพลีย
เหนื่อย
เพี้ยนๆ  เริ่มบ้าละ

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ช้านไม่ไหวแล้ว

สุดจะทนละ
ไม่ไหวแล้วนะ
เหนื่อยมากมาย
วันนี้ทำงานไม่รู้เรื่องเรย
ง่วงสุดๆ  ทำไงดี

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ลดลง ... แต่กลับได้เพิ่มมากขึ้น

หากลดบางอย่างให้น้อยลง คุณจะได้หลายสิ่งกลับมามากขึ้น


- ลดความโกรธให้น้อยลง คุณได้สติกลับมามากขึ้น++
- ลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลง คุณได้เงินเก็บมากขึ้น++
- ลดความคิดที่จะหาคนที่ถูกน้อยลง คุณได้คำตอบสำหรับทำเรื่องที่ถูกต้องมากขึ้น++
- ลดการพูดให้น้อยลง คุณทำหลายอย่างได้มากขึ้น++
- คิดถึงคนที่คุณรักให้น้อยลง คุณเข้าใจคนที่รักคุณมากขึ้น++
- รักตัวคุณเองให้น้อยลง คนอื่นรักคุณมากขึ้น++
- พูดให้ร้ายคนอื่นให้น้อยลง มีคนพูดถึงคุณในแง่ดีมากขึ้น++
- แสดงความฉลาดให้น้อยลง คุณได้ความรู้เพิ่มมากขึ้น++
- ออกนอกบ้านให้น้อยลง คุณได้ความอบอุ่นในครอบครัวมากขึ้น++
- นอนให้น้อยลง คุณทำหลายอย่างได้มากขึ้น++
- คิดเรื่องเครียดให้น้อยลง คุณยิ้มได้มากขึ้น++
- ลดความอายให้น้อยลง คุณได้ความกล้ามากขึ้น++ (เลือกทำในทางที่ดีนะคะ)
- ดูละครให้น้อยลง คุณอ่านหนังสือได้มากขึ้น++
- เชื่อให้น้อยลง คุณมองเห็นอะไรได้มากขึ้น++
- ลดทิฐิให้น้อยลง คุณรู้จักอภัยมากขึ้น++
- กระโดดให้น้อยลง คุณเดินได้มั่นคงมากขึ้น++
- ก้มหน้าให้น้อยลง คุณมองเห็นได้ไกลขึ้น++
- เห็นแก่ตัวให้น้อยลง มีคนรอดชีวิตมากขึ้น++
- ทะเลาะกับผู้ใหญ่ให้น้อยลง คุณได้รับการเอ็นดูมากขึ้น++
- เป่าลมออกให้น้อยลง คุณสูดลมเข้าได้มากขึ้น++
- คุณคิดคำถามให้น้อยลง คุณเห็นคำตอบมากขึ้น++



.....แล้วคุณลดอะไรไปบ้างแล้วคะ.....


**************************************

To me *-*