วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

ความทรงจำที่ยังอยู่ในใจเสมอมา

มานั่งๆ คิดถึงสมัยเรียน ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
มันมีทั้งสุขทั้งทุกข์ปนเปกันไป
ยิ่งสมัย ม.ปลาย ด้วยแล้ว
เป็นชีวิตที่ไม่เคยลืมเลือนเลย
มีทุกรสชาดในตัวของมัน
ถ้าจะให้เล่าก็คงเล่าไม่หมดหรอก
เลยไม่ขอเล่าดีกว่า อยากเก็บไว้ในใจ ไว้ในความทรงจำตลอดไป


.............

รื้อของให้ลิ้นชัก มีแต่จดหมายเก่าๆ เต็มไปหมด
ก็ยังแกะมานั่งอ่าน ก็ขำๆ นะ
มีทั้งจดหมายเพื่อนเขียนถึง เพื่อนต่างจังหวัดบ้าง
ผู้บ่าวเขียนจดหมายมาหาบ้าง คิคิ
สมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้กัน จะโทรหาก็โทรเบอร์บ้านเท่านั้น
เลยได้แต่เขียนจดหมาย ซึ่งก็มีจดหมายกองโทรเท่าภูเขาเลย
เอามาชั่งก็คงได้หลายโลนะ ก็อ่านไปเรื่อยๆ หลายต่อหลายฉบับ
บ้างก็ตัวหนังสือเริ่มจางเลือนลางหายไปก็มี

ม.ปลายเริ่มโตมาหน่อย สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนแปลงไป
เริ่มมีผู้ชายมาเรียนด้วยบ้าง ห้องเราดีหน่อย มีแค่สามคน
แต่ห้องอื่นๆ ก็เยอะอยู่บ้าง แต่เรียนไปไม่ถึงเทอม ได้สองคนดันย้ายไปเรียนสายวิทย์ซะงั้น
ทิ้งไว้แต่ คมสันเพื่อนชายที่เงียบขรึมไว้คนเดียว ซึ่งคนในห้องต่างทะนุทนอมอย่างดี หุหุ
ไม่ช่ายไรหรอก กลัวว่ามันจะกลายเป็นกะเทยไป เพราะมีนักเรียน 48คน แต่มีผู้ชายแค่คนเดียว
คือนายคมสันต์ จำนามสกุลมันไม่ได้อะ บัดนี้ได้กลายเป็น รตท.คมสันต์ ไปซะแล้ว
ไอ้คมสันต์นี่แหละ ตัวดีเลย เป็นพ่อสื่อพ่อชักดีนัก
ให้ใครก็มะรู้มาจีบเรา เอ... ชื่อไรนะ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะชื่อ โอ๊ค ไรเนี่ยแหละ
ผู้ชายตัวดำๆ รูปร่างเล็ก ๆ ไม่สูงเท่าไหร่ เชื้อสายจีน คนจีนบ้าไรก็ไม่รู้ ดำมาก
เขียนจดหมายมาบรรยายความรู้สึกต่างๆ นานา บอกว่าชอบเราอย่างนั้นอย่างนี้
ประทับใจเราอย่างแรง แค่เห็นครั้งแรกก็ประทับใจ
เอ.. เราไปเจอมันตอนไหนยังไม่รู้เลยเนี่ย
เรียน ม.ปลาย เกือบจะจบแล้ว เพิ่งเคยเห็นมันก็ตอนที่ส่งจดหมายมานี่แหละ
ก็จะให้เห็นได้ไงละ มันอยู่ห้องหนึ่ง ส่วนเราอยู่ห้องเจ็ด
เรียนก็คนละสายกันละ คนละตึกอีกต่างหาก ยืนเข้าแถวยังอยู่คนละที่ละทางเลย

ในจดหมายบรรยายทุกความรู้สึกที่มีต่อเรา
เริ่มอ่านก็แทบอ๊วก น้ำเน่าได้ใจซะขนาดนั้น
บางวันเกิดนึกอารมณ์สุนทรี มาแบบกลอนเลยคะ
กลอนสดๆ แต่เองรึว่าก๊อบใครมาก็มะรู้ รู้แต่ว่า มันคงแต่งเองแหละ
เพราะเพี้ยนสุดๆ แต่งตามประสามัน หวานมาก....
ไม่ได้อ่านเองหรอกนะ เพื่อนมันช่วยอ่านให้
อ่านไปก็ขำกันไป "โอ๊ค" บอกว่า เห็นเราครั้งแรกตอนอยู่ในห้องภาษาไทย
เห็นเรานั่งอ่านหนังสือไรก็ไม่รู้ แล้วเราก็ยิ้มไปด้วย มันบอกว่า
ชอบที่เรายิ้มนี่แหละ น่ารักมาก หุหุ
เพื่อนมันอ่านแล้วแทบจะอ๊วก คิคิ
นึกๆ แล้วก็รู้สึกดีนะ มีคนชอบ ดีกว่ามีคนเกียจ ว่ามั้ยละ
ไม่รู้ว่าตอนนี้เพื่อนโอ๊คเราหายไปไหนซะแล้ว
เพราะล่าสุดที่รู้ข่าว ก็ไปเรียนต่อกรุงเทพฯ แล้วจากนั้นก็ขาดการติดต่ออีกเลย

วันนี้นึกขึ้นได้ เลยไปค้นที่ห้องทะเบียนราษฏร์
แต่ไม่พบชื่อนี้ พี่เค้าบอกว่า สงสัยเพื่อนโอ๊คเราจะเปลี่ยนชื่อไปซะแล้ว
ว้า.... แย่จัง เลยไม่รู้เลยว่าตอนนี้เพื่อนโอ๊คอยู่หนใด
จะเป็นตายร้ายดียังไงบ้างก็ไม่รู้เลยเนี่ย
ไงก็ยังระลึกถึงเพื่อนโอ๊คเสมอนะจ๊ะ

เรื่องเล่าในสมัยเรียนยังไม่หมดแค่นี้ มีอีกแยะ
ไว้จะมาเล่าสู่กันฟังใหม่
ไปอาบน้ำนอนดีฝ่า

""""""""
อิจฉาคนไปกินหมูกะทะนะ
กินเผื่อด้วยแล้วกัน ช่วงนี้กำลังไดเอท หุหุ
ขอเพลาๆ บ้างดีกว่า อีกอย่างใกล้จะถึงเทศกาลกินเจแล้ว
ของดเนื้อสัตว์บ้างก็น่าจะดี

ฝันดีผีหลอก ^^__^^

ไม่มีความคิดเห็น: